บทนำ
สาเหตุที่ทำให้ผิวหนังของสุนัขเป็นสะเก็ดนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกันอย่างเช่น สุนัขป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็งเป็นต้น
มีข้อควรระวังอยู่ข้อหนึ่งที่คุณควรจะรู้ไว้ก็คือ ถ้าสุนัขตัวเมียของคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ คุณต้องแจ้งให้ทางสัตวแพทย์ทราบด้วยว่าสุนัขของคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่
เพราะตัวยารักษาโรคผิวหนังสะเก็ดของสุนัขแบบปกติ จะมีผลข้างเคียงต่อลูกสุนัขที่อยู่ในครรภ์มารดา
ถ้าสัตวแพทย์รู้ว่าสุนัขของคุณกำลังตั้งท้องอยู่ ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการปรับเปลื่ยนตัวยาให้มีฤทธิ์ที่อ่อนแอ เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกสุนัขในครรภ์ของแม่สุนัข
อาการต่างๆ ของโรคผิวหนังเป็นสะเก็ดในสุนัข
- สุนัขจะมีอาการคันตามจุดที่เป็นสะเก็ดรังแค
- ผิวหนังของสุนัขจะค่อยๆ หลุดลอกตามร่างกายของสุนัข
- จะมีน้ำมันเกิดขึ้นตามรูขุมขนของสุนัข
- จะมีสิ่งสกปรกเกิดขึ้นตามโคมเส้นขนของสุนัข
- ขนของสุนัขจะค่อยๆ หลุดร่วงตามจุดที่เกิดสะเก็ด
- จะมีกลิ่นเหม็นๆ ออกมาตามผิวหนังของสุนัข
- จะมีน้ำหนองเกิดขึ้นตามบริเวณผิวหนังที่เกิดการติดเชื้อ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังเป็นสะเก็ด
- ร่างกายของสุนัขขาดวิตามินเอติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ร่างกายของสุนัขขาดธาตุสังกะสี
- ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรูขุมขนของสุนัข
- มีการอักเสบเกิดขึ้นที่บริเวณต่อมไขมันบนผิวหนังของสุนัข
- สุนัขมีอาการภูมิแพ้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ แพ้เกสรดอกไม้ ,แพ้น้าลายหมัด ,แพ้อาหารบางชนิด
- สุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับปรสิตบางประเภท
- มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับฮอร์โมนในร่างกายของสุนัข
- สุนัขป่วยเป็นโรคบางอย่างอย่างเช่น โรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็ง เป็นต้น
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านั้นมานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของสุนัขบ้าง
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจผิวหนังของสุนัขอย่างละเอียด โดยจะใช้วิธีการขูดผิวหนังของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่าสุนัขติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียอยู่หรือเปล่า
- รวมถึงจะทำการทดสอบด้วยวิธี intradermal skin testing ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า สุนัขมีอาการแพ้อาหารบางชนิดอยู่หรือเปล่า
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจอ โดยตัวยารักษาโรคผิวหนังจะเปลื่ยนไปตามโรคหรือสาเหตุต่างๆ ที่ทางสัตวแพทย์ตรวจพบ
- หลังจากที่รักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะให้แชมพูที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิต (salicylic acid) กับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) มาให้สุนัขได้อาบน้ำ ส่วนผสมทั้งสองตัวนี้ จะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของสุนัขลงได้
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะให้ยาปรับสภาพผิวมาให้สุนัขได้ทาน โดยยาปรับสภาพผิวจะมีส่วนช่วยลดจำนวนแบคทีเรีย ที่ทำให้ผิวหนังของสุนัขเกิดการตกสะเก็ดได้เป็นอย่างดีเลย
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังนั้นเกิดจาก การที่สุนัขขาดวิตามินเอ หรือขาดธาตุสังกะสี ทางสัตวแพทย์ก็จะให้อาหารเสริมวิตามินเอ กับธาตุสังกะสีมาให้สุนัขได้ทาน
วิธีดูแลสุนัขหลังเข้ารับการรักษา
คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทางสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยหลักๆ ก็คือ การให้สุนัขได้ทานยาตามที่ทางสัตวแพทย์ได้ให้มา
การอาบน้ำด้วยแชมพูที่ทางสัตวแพทย์ให้มาอยู่เสมอ เพียงเท่านี้อาการผิวหนังตกสะเก็ดของสุนัข ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นมาเอง
รวมถึงคุณต้องพาสุนัขของคุณกลับเข้าพบตามที่ทางสัตวแพทย์ได้นัดไว้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ได้ดูว่า
หลังจากที่รักษาไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขดีขึั้นแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ดีขึ้นทางสัตวแพทย์จะได้เปลื่ยนวิธีการรักษา รวมถึงเปลื่ยนตัวยาที่ใช้ในการรักษาสุนัข
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
มีโรคผิวหนังหลายโรคเลย ที่สุนัขสามารถเป็นพาหะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณได้ ดังนั้นเพื่อเป็ฯการป้องกันปัญหาเหล่านี้
ทุกครั้งที่คุณจะทายา หรืออาบน้ำให้กับสุนัข คุณควรสวมถุงมือก่อนทุกครั้ง ที่จะทำการทายาหรืออาบน้ำให้กับสุนัขของคุณ
ถ้าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังที่สามารถมาติดสู่คุณได้ ทางสัตวแพทย์จะเป็นคนแจ้งให้คุณทราบเองว่า โรคผิวหนังชนิดนี้สุนัขสามารถเป็นพาหะนำพาโรคนี้มาติดสู่คุณได้ คุณจะได้ระวังตัวเอาไว้