บทนำ
โดยปกติแล้วเมื่อสุนัขทานอาหารที่ไม่สะอาดหรืออาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ในอาหาร ร่างกายของสุนัขก็จะทำการตอบสนอง โดยการอาเจียนเอาอาหารเหล่านั้นออกมาจากร่างกายของสุนัข
แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่า สุนัขมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง และมีอาการอาเจียนอย่างเรื้อรังติดต่อกันมากกว่า 2 – 3 วัน นั้นเป็นอาการที่บ่งบอกได้ว่า สุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคบางอย่างอยู่
ทางที่ดีคุณควรพาสุนัขของคุณเข้าพบสัตวแพทย์ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ตรวจสอบดูว่า ตกลงแล้วสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่กันแน่น
อาการอาเจียนแบบไหนถึงจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัข
ถ้าเป็นอาการอาเจียนแบบปกติ
โดยปกติแล้วอาหารที่สุนัขอาเจียนออกมานั้นจะมีน้ำเป็นสีเหลือง รวมถึงบางทีอาจจะมีน้ำดีออกมาด้วย
โดยอาหารที่สุนัขอาเจียนออกมานั้น จะมีลักษณะเป็นแท่งๆ และมีเมือกปกคลุมรอบๆ อาหารที่ออกมา โดยลักษณะอาหารแบบนี้ จะเป็นอาหารที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการย่อยอาหารใดๆ
การอาเจียนแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติโดยทั่วไปของสุนัข ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกายของสุนัขทั้งนั้น
การอาเจียนแบบผิดปกติที่มีอันตรายต่อร่างกายของสุนัข
- จะมีเลือดปะปนออกมาจากอาเจียนของสุนัข
- สุนัขมีอาการตัวร้อนเป็นไข้ และมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย
- สุนัขจะมีอาการปวดท้อง
- สุนัขจะมีอาการท้องเสียติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 1 – 2 วัน
- น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
- ลมหายใจของสุนัขจะมีกลิ่นที่เหม็นเป็นอย่างมาก
ถ้าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ ให้คุณรีบพาสุนัขเข้าพบสัตวแพทย์โดยทันที
สาเหตุที่ทำให้สุนัขอาเจียนอย่างเรื้อรัง
- มีแผลหลุมเกิดขึ้นภายในกระเพาะอาหารของสุนัข
- สุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็ง
- สุนัขป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
- มีเนื้องอกเกิดขึ้นภายในตับอ่อนของสุนัข
- สุนัขป่วยเป็นโรคตับวาย
- สุนัขป่วยเป็นโรคไตวาย
- สุนัขป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หัดสุนัข หรือโรคลำไส้อักเสบ เป็นต้น
- สุนัขป่วยเป็นโรค Addison’s
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหน้านั้นหรือเปล่า อาการต่างๆ ของสุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง โดยปกติคุณชอบให้สุนัขทานอาหารประเภทไหนบ้าง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจช่องปากของสุนัขอย่างละเอียด เพื่อดูว่าภายในช่องปากของสุนัขมีสิ่งปลอกปลอมเข้าไปอุดตันอยู่หรือไม่
- รวมถึงจะทำการเอกซเรย์ (X-Ray) ไปที่หลอดอาหาร กับกระเพาะอาหารของสุนัข เพื่อดูว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับอวัยวะทั้งสองส่วนนี้หรือเปล่า
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการเอกซเรย์ (X-Ray) ไปที่ตับและไตของสุนัข เพื่อดูว่าตับกับไตของสุนัขทำงานเป็นอย่างไร มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่
- ในกรณีถ้าตรวจพบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นในส่วนใด ส่วนหนึ่งของร่างกายของสุนัข ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการตัดเนื้องอกชิ้นนั้นออกมาบางส่วน เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่า เนื้องอกชิ้นนั้นเป็นเนื้องอก เซลล์มะเร็งหรือไม่
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจออย่างเช่น
- ถ้าตรวจพบว่าสุนัขมีการอาเจียนอย่างรุนแรง ก็จะให้ยาระงับการอาเจียนกับสุนัข
- ถ้าตรวจพบว่าสุนัขติดเชื้อแบคทีเรียบางประเภท ก็จะให้ยาปฏิชีวนะสำหรับกำจัดเชื้อแบคทีเรียชนิดนั้นๆ ให้สุนัขทาน
- ถ้าตรวจพบว่าสุนัขป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ ก็จะทำการรักษาด้วยการให้ Corticosteroids แก่สุนัข ฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขได้
- ถ้าตรวจพบว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขเกิดการอาเจียนนั้น เกิดจากการแพ้อาหารบางประเภท ก็จะทำการปรับเปลื่ยนเมนูอาหารของสุนัข ให้เป็นเมนูที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของสุนัข โดยเป็นอาหารที่ทานได้ง่ายและย่อยได้ง่าย
- ถ้าตรวจพบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นภายในร่างกายของสุนัข ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกจากร่างกายของสุนัข รวมถึงจะทำการรักษาด้วยการเคมีบำบัดในขั้นตอนต่อๆ ไป
- หลังจากที่รักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลสุนัขในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่ โดยคุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทางสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นตัวอยู่นั้น คุณต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด ถ้าคุณพบว่าหลังจากที่รักษาไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขยังไม่ดีขึ้นเลย ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณเข้าพบสัตวแพทย์โดยทันที
