บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขชิสุเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัว ว่ามีสิ่งไหนที่คุณควรรู้ มีสิ่งไหนที่คุณควรทำ และมีสิ่งไหนที่คุณไม่ควรทำบ้าง
โดยตัวบทความจะกล่าวถึงสิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมก่อนพาสุนัขชิสุเดินทางไกล วิธีดูว่าสุนัขชิสุของคุณมีอาการเมารถหรือเปล่า
พร้อมวิธีปฐมพยาบาลอย่างเบื้องต้น รวมถึงวิธีป้องกันอาการเมารถของสุนัขชิสุ กับสิ่งที่คุณควรทำในระหว่างขับรถเดินทางไกล
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังใจสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
ต้องมีสมาธิระหว่างขับรถเดินทางไกล
จากสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า มีประชากรชาวอเมริกันจำนวน 3000 – 5000 คนต่อปี พวกเค้าเสียชีวิตจากการหันไปพูด กับหันไปเล่นกับสุนัขในระหว่างที่กำลังขับรถเดินทางไกล
แค่คุณหันไปสนใจสุนัขเป็นเวลาไม่เกิน 2 – 3 วินาที คุณก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้แล้ว ดังนั้นเพื่อตัวของคุณ คนในครอบครัวของคุณ รวมถึงสุนัขของคุณ
คุณควรตั้งใจขับรถในระหว่างที่เดินทางไกลอยู่ คุณควรหาคนมาช่วยดูแลสุนัขแทนคุณในระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่
เบาะนั่งรถที่เหมาะสำหรับสุนัขชิสุ
ชิสุเป็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็ก คุณจึงควรเลือกเบาะนั่งรถสำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็กและเบาะนั่งรถนั้นต้องมีความสูงเพียงพอให้
สุนัขชิสุของคุณสามารถเงยหน้าขึ้นไปมองวิวทิวทัศน์ และรับลมเย็นจากภายนอกผ่านกระจกหน้าต่างรถของคุณได้
การได้รับลมเย็นๆ และได้เห็นวิวทิวทัศน์ในระหว่างเดินทางไกล จะช่วยให้สุนัขชิสุรู้สึกผ่อนคลายลดความกังวลลงได้
และเพื่อความปลอดภัยของสุนัขชิสุ คุณควรใช้เข็มขัดนิรภัยในรถรัดเบาะนั่งรถของสุนัขชิสุอีกทีนึ่ง เพื่อป้องกันแรงกระชาก แรงกระแทกในเวลาที่คุณขับรถด้วยความเร็วสูง
เมื่อสุนัขชิสุมีอาการเมารถ
คุณสามารถสังเกตได้ว่าสุนัขชิสุของคุณมีอาการเมารถหรือไม่ โดยดูจากอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขชิสุมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนออกมา
- สุนัขชิสุมีอาการวิงเวียนศีรษะ มีอาการน้ำลายหยดไหลย้อยตามพื้นอยู่ตลอดเวลา
- สุนัขชิสุมีอาการร้อนรน และหอบอยู่ตลอดเวลา
- สุนัขชิสุจะรู้สึกวิตกกังวล และหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
ถ้าคุณพบว่าสุนัขชิสุของคุณมีอาการเหล่านี้ ให้คุณรีบหยุดรถโดยทันที แล้วให้คุณอุ้มสุนัขชิสุของคุณออกมาสูดสูดอากาศบริสุทธิ์นอกตัวรถ
และเมื่ออาการต่างๆ ของสุนัขชิสุเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ก็ให้คุณหาน้ำให้สุนัขชิสุของคุณทาน (ในช่วงนี้ห้ามให้สุนัขชิสุของคุณทานอาหารโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สุนัขอาเจียนออกมาได้)
เสร็จแล้วให้คุณพักรอเวลาผ่านไปเวลาผ่านไปประมาณ 20 – 30 นาที คุณถึงเริ่มเดินทางต่อได้ แต่ในกรณีที่เวลาผ่านไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง อาการต่างๆ ของสุนัขชิสุยังไม่มีขึ้นเลย ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้ที่สุดในบริเวณนั้นโดยทันที
วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขชิสุเกิดอาการเมารถ
คุณสามารถป้องกันไม่ให้สุนัขชิสุของคุณเกิดอาการเมารถในระหว่างเดินทางไกล ได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
ฝึกให้สุนัขชิสุของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินทางไกล
สมมติถ้าคุณต้องเดินทางไกลเดือนมิถุนายน ก็ให้คุณเริ่มฝึกสุนัขชิสุของคุณให้ชินกับการนั่งรถตั้งแต่เดือนเมษายน หรือช่วงระยะเวลา 2 เดือนก่อนทางเดิน
สำหรับวิธีการฝึกนั้นคุณสามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยการนำสุนัขชิสุของคุณขึ้นมานั่งบนรถของคุณ แล้วก็ให้คุณขับรถวนรอบหมู่บ้านของคุณเล่นๆ เป็นเวลาสัก 5 – 10 นาที
โดยให้คุณทำแบบนี้ไปประมาณ 2 สัปดาห์และเมื่อสุนัขชิสุของคุณเริ่มคุ้นชินกับบรรยายกาศในรถของคุณแล้ว
ก็ให้คุณค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาที่อยู่บนรถ กับให้คุณค่อยๆ ขับรถในระยะทางที่ไกลมากขึ้น ก็จะสามารถทำให้สุนัขชิสุของคุณเดินทางไกลได้แล้ว
วิธีทำให้สุนัขชิสุรู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดินทางไกล
จากที่กล่าวไปข้างต้นสุนัขชิสุเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก ดังนั้นคุณควรเลือกเบาะรองนั่งรถที่มีความสูงมากกว่าปกติ เพื่อให้สุนัขชิสุของคุณได้เห็นวิวทิวทัศน์จากภายนอกหน้าต่าง
และถ้าจะให้ดีคุณควรเปิดกระจกรถยนต์เล็กน้อย เพื่อให้สุนัขชิสุของคุณได้รับลมเย็นๆ จากภายนอกรถยนต์ การทำแบบนี้จะทำให้สุนัขชิสุของคุณรู้สึกผ่อนคลายคลายกังวลจากการนั่งรถติดต่อกันเป็นเวลานานได้
คุณไม่ควรให้สุนัขชิสุของคุณนั่งลงบนพื้นรถ เพราะพื้นที่ตรงพื้นรถนั้นจะมีแรงสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันจะทำให้สุนัขชิสุของคุณเกิดอาการเมารถขึ้นมาได้
คุณควรให้สุนัขชิสุของคุณนั่งแต่เบาะรถด้านหลังเพียงอย่างเดียว พร้อมมีคนคอยดูแลสุนัขชิสุของคุณในขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่ และไม่ควรให้สุนัขชิสุนั่งในบริเวณหน้ารถ เพราะอาจจะไปรบกวนการขับรถของคุณได้
งดให้อาหารสุนัขก่อนออกเดินทางไกล
คุณไม่ควรให้สุนัขชิสุของคุณทานอาหารก่อนที่จะเดินทางไกล เพราะอาจจะทำให้สุนัขชิสุของคุณเกิดอาการอาเจียนในระหวางที่กำลังเดินทางไกลอยู่ได้
ถ้าคุณอยากให้สุนัขชิสุของคุณทานอาหารจริงๆ คุณควรให้พวกมันทานอาหารก่อนเดินทางเป็นเวลา 2 ชั่วโมงตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะออกเดินทางตอน 9.00 น. คุณควรให้สุนัขของคุณทานอาหารประมาณ 6.30 – 7.00 น.
และในระหว่างที่เดินทางไกล คุณควรให้สุนัขชิสุของคุณทานแต่น้ำ กับขนมชิ้นเล็กๆ แต่เพียงเท่านั้น ห้ามไม่ให้ทานอาหารชนิดอื่นๆ โดยเด็ดขาด
เตรียมของเล่นสุดโปรดของสุนัขไปด้วย
ของเล่นสุดโปรดของสุนัขจะเป็นตัวช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากสุนัขของคุณได้เป็นอย่างดี การได้เล่นของเล่นชิ้นโปรดนั้น จะทำให้สุนัขชิสุของคุณรู้สึกเพลิดเพลิน จนลืมไปเลยว่าพวกมันกำลังนั่งรถอยู่
หยุดพักเป็นระยะ
ในระหว่างทางเดินไกลคุณควรหยุดรถเป็นระยะ เพื่อให้สุนัขชิสุของคุณได้เดินลงมาพักผ่อนกับพื้นดิน และได้สูดอากาศธรรมชาติจากนอกรถตัวบ้าง
โดยในทุกๆ การเดินทาง 1 ชั่วโมง คุณควรหาจุดแวะพักผ่อนเป็นเวลาประมาณ 10 – 15 นาที แล้วคุณค่อยเดินทางต่อ ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมายของคุณ