สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขลงว่ายน้ำในสระน้ำของสุนัขแต่ละประเภท

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขลงว่ายน้ำในสระน้ำของสุนัขแต่ละประเภท

บทนำ

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขลงว่ายน้ำในสระน้ำของสุนัขแต่ละประเภท ว่ามีสิ่งไหนที่คุณต้องระวังก่อนพาลูกสุนัข สุนัขชรา สุนัขหน้าสั้น สุนัขที่พึ่งผ่าตัดลงเล่นน้ำบ้าง

สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ หรือกำลังอยากให้สุนัขที่ทางบทความได้กล่าวไปข้างต้นลงว่ายน้ำ ให้คุณลองอ่านบทความนี้ดูก่อนว่า เพราะจะมีสุนัขบางประเภทที่คุณไม่ควรออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำเลย

เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาดูกันดีกว่าว่า มีสิ่งไหนบ้างที่คุณต้องระวังก่อนพาสุนัขลงไปว่ายน้ำในสระ

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนพาสุนัขลงว่ายน้ำในสระน้ำของสุนัขแต่ละประเภท

1. ลูกสุนัข

ลูกสุนัข สามารถเริ่มว่ายน้ำได้ตั้งแต่ตอนที่ลูกสุนัขมีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แต่ลูกสุนัขในวัยนี้พวกเค้ายังไม่มีประสบการณ์ในการว่ายน้ำมากนัก

คุณจึงต้องให้ครูฝึกสอนว่ายน้ำคอยดูแลลูกสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งคุณต้องใส่เสื้อชูชีพให้กับลูกสุนัขของคุณก่อนทุกครั้งที่จะลงว่ายน้ำ

รวมถึงให้คุณหาของเล่นมาให้ลูกสุนัขของคุณได้เล่นระหว่างว่ายน้ำ การทำแบบนี้จะช่วยลดความตึงเครียดของลูกสุนัขลงในขณะที่กำลังลงว่ายน้ำในสระได้

2. สุนัขวัยชรา

สำหรับสุนัขวัยชรา หรือสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป สิ่งที่คุณต้องทำก่อนพาสุนัขลงไปว่ายน้ำในสระก็คือ ให้คุณสวมเสื้อชูชีพให้กับสุนัขวัยชราของคุณก่อนทุกครั้งที่จะลงเล่นน้ำ กับต้องมีคนคอยดูแลสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิดตลอดการเล่นน้ำ

เพราะสุนัขในวัยนี้จะหมดแรงว่ายน้ำได้ง่าย เมื่อว่ายน้ำติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมันอาจจะส่งผลทำให้สุนัขวัยชราของคุณจมน้ำได้ถ้าพวกมันหมดแรงว่ายน้ำแล้ว

จึงทำให้ต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะได้ช่วยสุนัขของคุณได้ทันการณ์ สำหรับระยะเวลาในการว่ายน้ำของสุนัขวัยชรา ควรอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 นาทีต่อครั้งจะกำลังดีเลย

อย่าให้สุนัขสายพันธุ์หน้าสัั้นลงว่ายน้ำ เพราะอาจจะทำให้สุนัขจมน้ำได้

3. สุนัขสายพันธุ์หน้าสั้น

โดยปกติแล้วสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นอย่างเช่น

  • ปั๊ก
  • ชิสุ
  • บูลด็อก

สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้จะค่อนข้างเกลียดการว่ายน้ำอยู่แล้ว รวมถึงสรีระทางร่างกายของสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ก็ไม่ได้เหมาะกับการว่ายน้ำเลย

เพราะช่วงหน้าที่สั้นของพวกเค้าจะทำให้สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ สำลักน้ำอยู่เป็นประจำในขณะที่กำลังว่ายน้ำอยู่

รวมถึงช่วงขาที่สั้นของพวกเค้า จะทำให้สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ต้องใช้แรงตะกุยน้ำมากกว่าปกติถึง 2 – 3 เท่าเลย ซึ่งมันจะทำให้สุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นของคุณ เกิดหมดแรงและจมน้ำในระหว่างการว่ายน้ำได้

สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นอยู่ ทางบทความไม่แนะนำให้คุณพาสุนัขของคุณไปออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำเลย คุณควรหาวิธีออกกำลังกายให้กับสุนัขของคุณด้วยวิธีอื่นจะเป็นการดีกว่า

4. สุนัขที่กำลังตั้งท้องอยู่

ห้ามคุณพาสุนัขที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ไปว่ายน้ำโดยเด็ดขาด เพราะในช่วงที่สุนัขกำลังท้องแก่มดลูกของสุนัขจะเปิดได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งมันอาจจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ภายในสระน้ำ เข้าสู่ร่างกายของแม่สุนัขผ่านทางมดลูกได้ง่าย

รวมถึงการที่แม่สุนัขเผลอไปว่ายน้ำกระแทกกับสิ่งของที่อยู่ในสระน้ำ รวมถึงกระแทกกับขอบสระ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกสุนัขที่อยู่ในครรภ์ขึ้นมาได้ ดังนั้นห้ามแม่สุนัขที่กำลังท้องอยู่ลงว่ายน้ำในทุกกรณี

ควรให้สุนัขที่พึ่งผ่าตัดออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้ไวยิ่งขึ้น

5. สุนัขที่พึ่งได้รับการผ่าตัดมา

สุนัขที่พึ่งได้รับการผ่าตัดมาสามารถลงว่ายน้ำออกกำลังกายได้ เพราะการว่ายน้ำหลังจากการผ่าตัดจะช่วยบำบัดฟื้นฟูร่างกายให้กับสุนัขได้

การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะช่วยให้กล้ามเนื้อของสุนัขไม่ต้องทำงานหนักมาก เหมือนกับการออกกำลังกายแบบปกติ

ทางการแพทย์นิยมให้สุนัขที่พึ่งได้รับการผ่าตัดทำการกายภาพบําบัดด้วยการว่ายน้ำ เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวัง

แต่ก่อนที่คุณจะให้สุนัขที่พึ่งได้รับการผ่าตัดออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ คุณต้องได้รับอนุญาตจากทางสัตวแพทย์ก่อน ว่าสุนัขของคุณสามารถออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำได้แล้วหรือยัง

โดยให้คุณพาสุนัขของคุณไปตรวจร่างกายกับทางสัตวแพทย์ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ประเมินว่าร่างกายของสุนัขพร้อมที่จะได้รับการออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำแล้วหรือยัง กับสภาพร่างกายของสุนัขในตอนนี้ ควรว่ายน้ำในระยะเวลาเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี

รวมถึงคุณต้องคอยดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิดในขณะที่สุนัขของคุณกำลังว่ายน้ำอยู่ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นคุณจะช่วยสุนัขของคุณได้ทันการ