บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำว่า แปรงหวีขนของสุนัขมีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ไหนบ้าง มีข้อควรระวังอะไรในการใช้แปรงหวีขนเหล่านี้หรือไม่
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
หวีแปรงขนที่ใช้สำหรับสุนัขมีอะไรบ้าง
1. แปรงขนหมู (Bristle Brush)
แปรงขนหมูจะค่อนข้างเหมาะสำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น กับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนเตียนเป็นอย่างมากอย่างเช่น
- ชิวาวา
- ร็อตไวเลอร์
- ปั๊ก
- ดัชชุน
- บีเกิ้ล
แปรงขนชนิดจะมีลักษณะเป็นเส้นแน่นเรียงตรงกันเป็นแถวติดกันทั่วทั้งแปรงหวีขน ซึ่งมันจะช่วยให้คุณทำความสะอาดขนของสุนัขสายพันธุ์เล็กได้ง่าย
โดยแปรงขนหมูจะคอยทำหน้ากำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ให้ออกไปจากร่างกายของสุนัขสายพันธุ์เล็กอย่างเช่น
- ขนที่หลุดร่วงอยู่ตามตัว
- ฝุ่น หยากไย่
- เศษอาหาร
- เศษผมของมนุษย์
- เศษรังแค
แปรงขนหมูจะทำหน้าที่คอยกำจัดสิ่งเหล่านี้ให้ออกไปจากร่างกายของสุนัขเอง รวมถึงแปรงขนหมูยังมีหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้ต่อมใต้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งน้ำมันดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างให้ผิวหนังของสุนัขชุ่มชื่น และมีเส้นขนที่เงางามอยู่เสมอ
2. แปรงขนลวด (Slicker Brush)
แปรงขนลวดจะเป็นแปรงขนที่เหมาะสำหรับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนยาว และขนพันกันเป็นสังกะตังได้ง่ายอย่างเช่น
- ปอมเมอเรเนียน
- พูเดิ้ล
- ชิสุ
- ซิลกี้ เทอร์เรีย
- คอลลี่
โดยแปรงขนลวดจะคอยทำหน้าที่สางขนให้กับสุนัข เพื่อให้ขนตรงบริเวณต่างๆ บนร่างกายของสุนัขเกิดการคลายตัว ซึ่งมันจะช่วยลดปัญหาเส้นขนของสุนัขพันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้
คุณควรจะใช้แปรงขนลวดหวีขนให้กับสุนัขสายพันธุ์ขนยาวอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 5 – 10 นาที เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะไม่มีปัญหาเรื่องขนพันกันจนกลายเป็นสังกะตังแล้ว
3. แปรงหมุด (Pin Brush)
แปรงหมุดจะเป็นแปรงที่ค่อนข้างเหมาะกับสุนัขที่มีขนหนาถึงสองชั้น รวมถึงสุนัขที่มีขนหยิกอย่างเช่น
- โกลเดนรีทรีฟเวอร์
- ไซบีเรียน ฮัสกี้
- อัลเซเซียน
โดยส่วนใหญ่แปรงขนชนิดนี้จะมีด้ามจับเป็นไม้ หรือบางทีอาจจะเป็นพลาสติก ตรงที่ขนแปรงถูกทำขึ้นมาด้วยสเตนเลสที่มีความทนทานสูง
การใช้แปรงหมุดหวีขนให้กับสุนัขขนหนาสองชั้นอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้สุนัขของคุณมีขนที่นุ่มลื่นและเงางามอยู่เสมอ
ข้อควรระวัง
อย่าใช้แปรงหวีขนชนิดนี้หวีขนให้กับสุนัขของคุณในช่วงที่ขนของพวกมันพันกันจนกลายเป็นสังกะตังโดยเด็ดขาด เพราะแปรงหมุดอาจจะไปเกี่ยวขนที่พันกันอยู่ ทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บขึ้นมาได้
ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีเส้นขนที่พันกันจนเป็นสังกะตัง ให้คุณใช้แปรงขนลวดแปรงหวีให้กับสุนัข จนขนของพวกมันคลายตัวก่อน แล้วคุณถึงค่อยจะใช้แปรงหมุดหวีลงบนขนของสุนัขได้
4. แปรงหวีขนแบบผสม (Combo Brush)
แปรงหวีขนชนิดนี้จะเป็นการรวบรวมแปรงหวีขน 2 ชนิดเข้าด้วยกันได้แก่ แปรงขนหมู กับแปรงหมุด เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ในการหวีขนให้กับสุนัขของตัวเอง
สำหรับวิธีใช้แปรงหวีขนชนิดนี้นั้น คุณสามารถทำได้ด้วยการใช้แปรงด้ามที่เป็นแปรงขนหมูหวีขนของสุนัข เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ รวมถึงขนที่หลุดร่วงให้ออกไปจากร่างกายของสุนัขเสียก่อน
เสร็จแล้วก็ให้คุณใช้ด้านที่เป็นแปรงหมุด แปรงขนของสุนัขซ้ำอีกทีหนึ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันออกมา โดยน้ำมันตัวนี้จะมีส่วนช่วยบำรุงผิวหนัง และเส้นขนของสุนัขให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ
แปรงหวีขนชนิดนี้เหมาะสำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น ไปจนถึงสุนัขสายพันธุ์ขนยาวเลย เป็นแปรงหวีขนที่ใช้สะดวก เหมาะสำหรับสุนัขทุกแทบสภาพขนเลย
5. หวีโลหะ (Metal Comb)
หวีโลหะ เป็นหวีที่ค่อนข้างเหมาะสำหรับสุนัขที่มีขนยาว และขนพันกันจนเป็นสังกะตังได้ง่าย เพราะหวีตัวนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่า ขนของสุนัขตรงส่วนไหนกำลังพันกันอยู่ ขนตรงบริเวณไหนที่พันกันจนกลายเป็นสังกะตังแล้ว
และเมื่อคุณพบแล้วก็ให้คุณใช้แปรงขนลวดแปรงลงบนเส้นขนที่พันกันอยู่ เพื่อให้เส้นขนตรงนั้นคลายตัวกลับมาเป็นแบบปกติ
รวมถึงแปรงขนชนิดนี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าบนร่างกายของสุนัขมีเห็บหมัดอาศัยอยู่หรือเปล่า เพราะคุณจะเห็นตัวหมัดได้ชัดมาก ถ้าคุณใช้หวีโลหะแปรงขนของสุนัขดู
และเมื่อคุณพบว่ามีตัวหมัดและเห็บขึ้นมาอาศัยอยู่บนร่างกายของสุนัข ก็ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์ในทันที
