โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัข

โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขคืออะไร

บทนำ

บทความนี้จะมาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านฟังว่า

  • โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขคืออะไร
  • มีอาการเป็นอย่างไร
  • สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้เกิดจากสาเหตุใด
  • ทางสัตวแพทย์มีวิธีรักษาโรคนี้อย่างไรบ้าง
  • รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคนี้

สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขคืออะไร

โรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขเกิดจากการที่ตัวไรขี้เรื้อนชนิด

  • Demodex injai 
  • Demodex canis
  • Demodex cornei 

เข้าไปสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายของสุนัขเป็นจำนวนมากอย่างเช่น บริเวณใบหน้า บนหัว ลำตัว ขา อุ้มเท้า ซึ่งมันจะทำให้สุนัขของคุณมีอาการ

  • ขนหลุดร่วง
  • มีตุ่มเม็ด ตุ่มหนอง
  • มีแผลหลุม แผลโพรงทะลุ
  • รวมถึงมีกลิ่นตัวคล้ายกับกลิ่นคาวปลาเค็มขึ้นมาได้
  • ในสุนัขบางรายอาจจะมีอาการเลือดออก หรือมีหนองไหลเกิดขึ้นตามร่างกายได้

รวมถึงสุนัขของคุณยังมีอาการซึม เป็นไข้ตัวร้อน น้ำหนักตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง กับมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย

โรคไรขี้เรื้อนเปียกของสุนัขมีอยู่กี่ประเภท

สำหรับโรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขจะถูกแบ่งออกมาด้วยกันอยู่ 2 ประเภทได้แก่

  1. แบบเฉพาะที่

สำหรับในรูปแบบนี้จะทำให้สุนัขของคุณมีอาการขนร่วงเป็นจุดๆ เฉพาะที่อย่างเช่น ตามใบหน้า บนหัว ตามแก้ม ริมฝีปาก บริเวณรอบตาของสุนัข โดยจุดที่เกิดอาการขนร่วงจะมีอยู่ด้วยกันไม่เกิน 5 ตำแหน่ง

สำหรับสุนัขที่ป่วยเป็นโรคไรขี้เรื้อนชนิดนี้ จะมีโอกาสหายได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีสุนัขบางตัวเหมือนกันที่อาการจะลุกลามไปใหญ่โต จนคุณต้องพาไปรักษา

2. แบบกระจายตัว

ในรูปแบบนี้ขนของสุนัขจะร่วงแบบกระจายตัวไปทั่วทั้งตัว ประกอบกับสุนัขของคุณจะมีอาการผิวเปลื่ยนสี กับมีตุ่มหนองเกิดขึ้นตามร่างกาย

สำหรับในรูปแบบนี้สุนัขของคุณจะไม่สามารถหายได้ด้วยตัวเอง คุณต้องพาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์แต่เพียงเท่านั้น

วิธีรักษาโรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัข

การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์

สำหรับวิธีตรวจสอบดูว่าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคไรขี้เรื้อนเปียกหรือไม่ ทางสัตวแพทย์จะใช้วิธีขูดตรวจผิวหนังชั้นลึก (deep skin scraping)

ซึ่งวิธีดังกล่าวอาจจะทำให้ผิวหนังของสุนัขมีเลือดไหลออกมาบ้าง แต่ก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกายของสุนัข ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร

รวมถึงทางสัตวแพทย์อาจจะใช้วิธีดึงเส้นขนมาตรวจ (Trichogram) ในจุดที่ตรวจสอบได้ยากอย่างเช่น ตรงบริเวณง่ามนิ้วของสุนัขเป็นต้น

สัตวแพทย์มีวิธีรักษาโรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขอย่างไรบ้าง

สำหรับโรคไรขี้เรื้อนเปียกในสุนัขจะแบ่งวิธีรักษาออกมาได้เป็น 2 กรณีด้วยกันได้แก่

  • แบบเฉพาะที่ 

ถ้าสัตวแพทย์ตรวจพบว่าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคไรขี้เรื้อน ก็จะให้แชมพูที่มีส่วนผสมของ chlorhexidine กับ benzoyl peroxide มาให้สุนัขของคุณอาบน้ำ

โดยให้คุณอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณด้วยการฟอกแชมพูชนิดนี้ไว้บนร่างกายของสุนัขเป็นเวลาประมาณ 5 – 10 นาที แล้วก็ให้คุณล้างทำความสะอาดร่างกายของสุนัข

ให้คุณทำแบบนี้สัปดาห์ละประมาณ 1 – 2 ครั้งอาการต่างๆ ของสุนัขก็จะเริ่มดีขึ้นเอง และเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น คุณอาจจะโกนขนตรงบริเวณที่เกิดโรค เพื่อให้ตัวยาของแชมพูได้เข้าไปซึมซับผิวหนังของสุนัขได้ง่ายยิ่งขึ้น

  • แบบกระจายตัว

สำหรับการรักษาโรคไรขี้เรื้อนแบบกระจายตัวจะใช้ขั้นตอนการรักษาที่ยุ่งยากกว่า เพราะนอกจากคุณต้องใช้แชมพูอาบน้ำที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide แล้ว คุณยังต้องใช้ยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ มาเข้าช่วยในการรักษาด้วยอย่างเช่น

  • ยา ivermectin กับยา milbemycin oxime ตัวยาตัวกล่าวจะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นมาได้
  • moxidectin กับ imidaclopid ตัวยาทั้งสองตัวนี้จะใช้ในการหยอดหลังของสุนัข
  • amitraz สำหรับตัวยาชนิดนี้เป็นยาแบบทา ที่ใช้ทาผิวหนังบนจุดที่มีการเกิดโรค

ข้อควรระวัง

บทความนี้เป็นการให้ข้อมูลตัวยาแบบเพียงเบื้องต้น ห้ามคุณไปซื้อยาเหล่านี้มาใช้กับสุนัขของคุณโดยเด็ดขาด เพราะตัวยาบางชนิดจะมีผลข้างเคียงกับสุนัขของคุณ ต้องให้ทางสัตวแพทย์ได้สอบถามสภาพผิวหนังของสุนัขคุณก่อนว่า สุนัขของคุณสามารถใช้ตัวยาเหล่านี้ได้หรือไม่

วิธีป้องกันโรคขี้เรื้อนเปียกในสุนัข

วิธีป้องกันโรคขี้เรื้อนเปียกในสุนัข

โดยปกติแล้วสุนัขทุกตัวจะมีตัวไรขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์อาศัยอยู่ร่างกาย ซึ่งการจะทำการตัวไรชนิดนี้เพิ่มจำนวนหรือเจริญเติบโต จนทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคไรขี้เรื้อนเปียกเกิดมาได้นั้น ต้องทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของสุนัขตกก่อน

หรือถ้าจะให้พูดแบบง่ายๆ ก็คือ โรคนี้จะเกิดกับสุนัขที่มีสุขภาพอ่อนแอ ดังนั้นวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายที่สุดก็คือ การทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการ

  • ให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารเป็นที่เป็นประโยชน์ ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนในแต่ละวัน
  • ให้สุนัขของคุณได้รับการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ครั้งละประมาณ 10 – 15 นาทีต่อวัน โดยให้สุนัขของคุณได้ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 4 – 5 วัน
  • ทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ ด้วยการมอบความรักให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยให้กำลังใจสุนัขของคุณ กอด ลูบหัว ลูบตัว เล่นกับสุนัขของคุณบ้าง

เพียงเท่านี้ก็เป็นการช่วยลดความเสื่ยงในการเป็นโรคไรขี้เรื้อนเปียกของสุนัขลงไปได้มากแล้ว