บทนำ
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตุ่มน้ำ กับตุ่มน้ำหนอง ของสุนัขนั้นมีความแตกต่างกันกันอย่างไรบ้าง โดยเริ่มจาก
- ตุ่มน้ำ
ตุ่มน้ำหมายถึง แผลขนาดเล็กที่มีรูปร่างเป็นนูนๆ เกิดขึ้นบนผิวหนังของสุนัข และภายในวงกลมนูนๆ นั้นจะประกอบเป็นด้วยสารน้ำอยู่ภายในตุ่มนูนๆ นั้นอีกทีนึง
- ตุ่มน้ำหนอง
ส่วนตุ่มหนองจะไม่ใช่สารน้ำ แต่จะเป็นน้ำหนองอยู่ภายในตุ่มเหล่านั้นแทน โดยภายในตุ่มหนองจะประกอบไปด้วยเม็ดเลือดขาว กับเซลล์เนื้อเยื่อที่ตายแล้วของสุนัข
และนอกจากอาการตุ่มน้ำกับตุ่มหนองของสุนัขแล้ว สุนัขยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอย่างเช่น
- มีขนหลุดร่วงบนร่างกายของสุนัข
- ผิวหนังบริเวณรอบๆ ที่เกิดตุ่มจะเป็นสีแดง
- เส้นขนของสุนัขจะมีสีที่เปลื่ยนแปลงไปจากปกติ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีตุ่มน้ำกับตุ่มหนองจะแยกเป็นสาเหตุดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่สุนัขมีตุ่มน้ำเกิดขึ้นบนร่างกาย
- สุนัขป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic lupus erythematosus – SLE) ซึ่งถ้าสุนัขป่วยเป็นโรคนี้แล้ว ระบบภูมิคุ้มของสุนัขจะเข้าไปโจมตีผิวหนังรวมถึงอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายของสุนัข
- สุนัขป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง( Discoid lupus erythematosus – DLE) โรคนี้จะเป็นโรคที่ระบบภูมิแพ้ของสุนัขเข้าไปทำลายผิวหนังส่วนหน้าของสุนัขโดยตรงเลย
- สุนัขป่วยเป็นโรค Bullous pemphigoid โรคนี้จะเป็นโรคที่สุนัขแพ้ภูมิคุ้มกันของตัวเอง จนทำให้มีบาดแผลเกิดขึ้นที่บริเวณผิวหนังของสุนัข รวมถึงยังทำให้เนื้อเยื่อที่อยู่ภายในผิวหนังของสุนัข เกิดเป็นตุ่มน้ำขึ้นมาได้
2. ในกรณีที่สุนัขมีตุ่มหนองเกิดขึ้นบนร่างกาย
- สุนัขเกิดการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียขึ้นที่บริเวณผิวหนังส่วนบน
- มีการอักเสบเกิดขึ้นที่รูขุมขนของสุนัข (bacterial folliculitis)
- สุนัขเป็นสิว
- มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข (Pemphigus complex)
- สุนัขติดเชื้อราชนิด Dermatophytosis บินผิวหนัง
- มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่เม็ดเลือดขาวชนิด eosinophil ของสุนัข จนเป็นเหตุทำให้เม็ดเลือดขาวกลายสภาพเป็นตุ่มขาวขึ้นมา
- สุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับพยาธิบางชนิด
- โรคทางพันธุ์กรรมของสุนัขสายพันธุ์ดัชชุนด์ (Linear immunoglobulin A ) เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข สร้างโปรตีนขึ้นมาที่ผิวหนังชั้นนอก
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะให้กับสุนัข เพื่อดูว่าค่าการทำงานต่างๆ ภายในร่างกายของสุนัข ยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือไม่
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจสอบผิวหนังของสุนัขอย่างละเอียด ด้วยวิธีการขูดผิวหนังของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่าสุนัขติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียบางประเภทอยู่หรือเปล่า
- ทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างของตุ่มน้ำ กับตุ่มหนอง เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องปฏิบัติการอีกทีนึง วิธีนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า สาเหตุที่ทำให้สุนัขเกิดตุ่มหนอง กับตุ่มน้ำนั้นเกิดจากสาเหตุใดกันแน่น
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจอ
- แต่ในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขป่วยเป็นโรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกันอย่างเช่น โรค pemphigus vulgaris กับโรค bullous pemphigoid
- ซึ่งโรคดังกล่าวถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ทางสัตวแพทย์จำเป็นต้องเฝ้าดูอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด จึงทำให้ในช่วงนี้สุนัขต้องอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน จะยังไม่อนุญาตให้สุนัขกลับบ้านได้
- ในกรณีที่สุนัขไม่ได้เป็นอะไรมากนัก หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษา ทางสัตวแพทย์จะให้สบู่อาบน้ำสำหรับฆ่าเชื้อชนิดนั้นๆ มาให้สุนัขได้อาบน้ำ
- สบู่อาบน้ำแบบฆ่าเชื้อนั้น จะช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไปจากผิวหนังของสุนัขได้ อีกทั้งสบู่ชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังของสุนัขเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้อีกด้วย
- เสร็จแล้วทางสัตวแพทย์จะขอนัดให้คุณพาสุนัขของคุณกลับเข้ามาพบอยู่ประมาณ 2 – 3 ครั้ง เพื่อที่จะได้ติดตามผลของการรักษา ว่าหลังจากที่รักษาไปแล้ว ผิวหนังของสุนัขเป็นอย่างไร มีอาการที่ดีขึ้น หรือแย่ลงหรือเปล่า