บทนำ
อาการต่อมน้ำลายของสุนัขเกิดการบวม หรือ Salivary Mucocele ในสุนัข เป็นอาการที่มีเนื่อเยื่อบางส่วนภายในช่องปากของสุนัข เกิดการบวมเหมือนถุงหนองขึ้นมา
โดยอาการเหล่านี้สามารถเกิดได้กับสุนัขทุกเพศทุกวัย รวมถึงสุนัขทุกสายพันธุ์ แต่ก็จะมีสุนัขบางสายพันธุ์เหมือนกัน ที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกันได้แก่
- มินิเอเจอร์ พุดเดิ้ล (Miniature Poodle)
- เยอรมันเชเพิร์ด (German Shepherd)
- แด็กซันด์ (Dachshund)
- ออสเตรเลียน ซิลกี้ เทอร์เรียร์ (Australian Silky Terrier)
เมื่อต่อมน้ำลายของสุนัขเกิดการบวมมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ใบหน้าของสุนัขจะมีอาการบวมโตเกิดขึ้น
- สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่ช่องปาก
- ถ้าคุณเปิดช่องปากของสุนัขดู คุณจะพบว่ามีถุงหนองเกิดขึ้นภายในช่องปากของสุนัข
- จะมีเลือดและน้ำลายไหลออกมาจากปากของสุนัข
- สุนัขจะมีอาการกลืนอาหารได้ยากกว่าปกติ
- สุนัขจะมีอาการเจ็บตา
- สุนัขจะมีอาการหายใจติดขัด หรือหายใจไม่สะดวก
- ถ้าคุณลองเอามือของคุณ ไปสำรวจที่ลำคอของสุนัข คุณจะพบว่ามีก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่ลำคอของสุนัข
สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีอาการต่อมน้ำลายบวม
- สุนัขได้รับบาดแผลจากการโดนสุนัขตัวอื่นกัด
- ผลข้างเคียงจากการศัลยกรรมยกช่องหูของสุนัข
- สุนัขได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้ารวมถึงที่บริเวณศีรษะ
- สุนัขเผลอทานสิ่งแปลกปลอมบางอย่างเข้าไปในร่างกาย แล้วสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้เข้าไปอุดตันที่ช่องปากของสุนัข
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขว่ามีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มามานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่าภายในร่างกายของสุนัขมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาด้วยหรือเปล่า
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจช่องปากของสุนัขอย่างละเอียด โดยทางสัตวแพทย์จะดูว่าหนองที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการติดเชื้อของฟันหรือไม่ รวมถึงทางสัตวแพทย์จะประเมินว่า สาเหตุที่ทำให้ต่อมน้ำลายของสุนัขเกิดการบวมนั้นเกิดจากสาเหตุใดกันแน่น
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- เมื่อทางสัตวแพทย์ทราบสาเหตุที่ทำให้ต่อมน้ำลายของสุนัขบวมแล้ว ก็จะทำการรักษาด้วยการ ใช้ยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ ตามสาเหตุที่ตรวจพบเจอเข้ามาช่วยในการรักษา
- หลังจากรักษาจนอาการบวมของสุนัขลดลงแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการสอดท่อระบายที่บริเวณที่มีถุงหนองเกิดขึ้นภายในช่องปากของสุนัข เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ช่องปากของสุนัขเกิดการติดเชื้อขึ้นมา
- หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษา ทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลช่องปากของสุนัขในระหว่างที่สุนัขกำลังพักฟื้นตัวอยู่
- รวมถึงทางสัตวแพทย์จะทำการนัดสุนัขกลับเข้ามาพบอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะทำการล้างบาดแผล รวมถึงทำความสะอาดช่องปากของสุนัข เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัข กลับมาป่วยเป็นโรคนี้ได้อีกเป็นครั้งที่สอง
- สำหรับโรคนี้ในสุนัข ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงมากนัก เพียงคุณทำตามคำแนะนำของทางสัตวแพทย์ รวมถึงพาสุนัขของคุณกลับเข้าพบตามที่ทางสัตวแพทย์ได้นัดไว้อยู่เป็นประจำ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานสุนัขของคุณก็จะกลับมาเป็นปกติดีดังเดิม
