บทนำ
เชื้อ Rickettsia เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในเห็บ และเมื่อเห็บที่มีเชื้อ Rickettsia อาศัยอยู่ในร่างกายได้ทำการกัดหรือดูดเลือดของสุนัข มันจะส่งผลทำให้สุนัขติดเชื้อ Rickettsia ขึ้นมาได้
สำหรับโรคนี้นั้นสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชเพิร์ด (German Shepherd) จะมีอาการที่รุนแรงกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกันเอง
อาการต่างๆ
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อสุนัขติดเชื้อ Rickettsia ขึ้นมาในร่างกาย จะเริ่มมีอาการตัวร้อนเป็นไข้อยู่ประมาณ 5 วันก่อน แล้วค่อยมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขจะมีอาการซึมเศร้าและอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำ
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหารไม่อยากทานอะไรทั้งนั้น
- จะมีเลือดปะปนออกมาจากปัสสาวะของสุนัข
- ขาของสุนัขจะบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- สุนัขจะมีอาการเดินเซไปเซมา
- จะมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของสุนัข
- สุนัขจะมีอาการปวดตาและดวงตาของสุนัขจะมีการอักเสบเกิดขึ้นมา
- ต่อมน้ำเหลืองของสุนัขจะบวมโต
- จะมีบาดแผลพุพองเกิดขึ้นตามตัวของสุนัข
- ความดันโลหิตของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าปกติ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขติดเชื้อ Rickettsia
สุนัขถูกเห็บที่มีเชื้อ Rickettsia อยู่ในร่างกายกัดหรือดูดเลือดติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน
หรือช่วงเวลาประมาณกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่เห็บแพร่ระบาดได้สูงสุดของปี
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงประวัติสุขภาพของสุนัขอย่างเบื้องต้นว่า ปกติแล้วคุณเลี้ยงดูสุนัขของคุณอย่างไร คุณเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน หรือชอบปล่อยให้สุนัขวิ่งเล่นนอกบ้านอยู่เป็นประจำ
คุณได้ทำความสะอาดที่พักอาศัยของสุนัขอยู่เป็นประจำหรือเปล่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือด กับตรวจผิวหนังของสุนัขอย่างละเอียด เพื่อดูว่าสุนัขติดเชื้อจาก Rickettsia อยู่หรือเปล่า
รวมถึงจะทำการเก็บตัวอย่างบางส่วนจากผิวหนังของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกทีนึงว่า ตกลงแล้วสุนัขกำลังป่วยเป็นโรค Rickettsia อยู่หรือไม่
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางการแพทย์ถือว่าการติดเชื้อ Rickettsia ในสุนัข เป็นโรคที่รุนแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก
- สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ทางสัตวแพทย์จึงต้องให้สุนัขอยู่พักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลก่อน จะยังไม่อนุญาตให้สุนัขกลับบ้านได้
- โดยหลักๆ แล้วการรักษาโรค Rickettsia ในสุนัขนั้น ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการรวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบว่า
- ตัวอย่างเช่น จะให้ยาปฏิชีวนะที่ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยตัวยาที่ทางสัตวแพทย์จะให้นั้น จะคำนวณจากสุขภาพและช่วงเวลาของสุนัข ว่าสุนัขในวัยนี้สามารถรับตัวยาประเภทนี้ได้หรือเปล่า
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ก็จะให้เลือดเสริมเข้าไปในร่างกายของสุนัข เพื่อรักษาภาวะเกล็ดเลือดในสุนัข รวมถึงช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะทำให้สุนัขเสียชีวิตลง ในระหว่างที่ทำการรักษาอยู่ได้
- ถ้าตรวจพบว่าสมองของสุนัขเกิดการอักเสบ บวมโต อีกทั้งยังมีสารน้ำกักขังในอยู่สมอง ทางสัตวแพทย์จะทำการใช้ยาช่วยลดอาการอักเสบให้กับสมองของสุนัข
วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขติดเชื้อ Rickettsia
สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดย ให้คุณหมั่นทำความสะอาดที่พักอาศัยของสุนัขอยู่เป็นประจำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่สุนัขของคุณใช้อยู่เป็นประจำอย่างเช่น พวกของเล่น ที่บ้าน ผ้าห่ม เป็นต้น
รวมถึงให้คุณพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บหมัดอยู่เป็นประจำ หรือคุณอาจจะใช้ยาหยอดสำหรับกำจัดเห็บหมัดให้กับสุนัขของคุณในทุก 2 – 3 เดือนก็ได้เหมือนกัน
ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าควรจะใช้วิธีกำจัดเห็บหมัดกับสุนัขของคุณด้วยวิธีไหนดี คุณก็สามารถโทรไปขอคำปรึกษาจากทางสัตวแพทย์ก็ได้เหมือนกัน
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดเชื้อ Rickettsia ในสุนัข
ทางการแพทย์ถือว่าโรค Rickettsia ในสุนัขเป็นโรคที่รุนแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก แต่ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติของสุนัขแล้ว
คุณรีบพาสุนัขของคุณไปรักษาได้ทันทีในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สุนัขติดเชื้อ สุนัขของคุณจะมีโอกาสหายได้ไว และมีโอกาสรอดชีวิตได้สูงเป็นอย่างมาก
แต่ในทางกลับกันถ้าคุณพาสุนัขของคุณไปรักษาช้า หรือคุณปล่อยให้เวลาผ่านไปประมาณ 3 – 4 วัน หลังจากที่สุนัขมีอาการต่างๆ เกิดขึ้น
แล้วคุณค่อยพาสุนัขไปรักษา ในกรณีนี้สุนัขของคุณจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงเป็นอย่างมาก เพราะในตอนนั้นเชื้อ Rickettsia จะเข้าไปโจมตีระบบประสาทส่วนกลางของสุนัขโดยตรงแล้ว