บทนำ
โรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขคืออะไร
โรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า ไวรัสแรบีส์ (Rabies) โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวจะเข้าไปทำลายร่างกายและทำลายเนื้อสมองของสุนัข จนเป็นเหตุทำให้สุนัขตัวนั้นเกิดอาการทางระบบประสาทขึ้นมาได้
โรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขจะมีความอันตรายอยู่ตรงที่ สุนัขสามารถเป็นพาหะนำพาโรคร้ายชนิดนี้มาสู่มนุษย์ได้ และนอกจะโรคนี้จะสามารถติดต่อกับมนุษย์ได้แล้ว โรคพิษสุนัขบ้ายังสามารถติดได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่นๆ อย่างในแมว กระต่าย ก็ได้เหมือนกัน
ช่องทางการติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข
ช่องทางการติดต่อของโรคนี้เกิดจากการที่สุนัขป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้วไปกัด หรือไปเลียแผลให้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ รวมถึงมนุษย์
โดยภายในต่อมน้ำลายของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะมีเชื้อไวรัสแรบีส์ (Rabies) สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วถ้าเกิดสุนัขตัวนี้ไปกัดสุนัขตัวอื่นๆ มันจะทำให้ไวรัสแรบีส์ที่อยู่ในต่อมน้ำตาลของสุนัขตัวที่ป่วยลง ไหลเข้าสู่ร่างกายของสุนัขอีกตัวหนึ่งได้
รวมถึงการที่สุนัขตัวที่ป่วยอยู่ไปเลียบาดแผลเปิดสดๆ ให้กับสุนัขตัวอื่นๆ ที่มีบาดแผลสดเหล่านี้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ไวรัสชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายของสุนัขได้เหมือนกัน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเชื้อไวรัสแรบีส์ (Rabies) เข้าสู่ร่างกายของสุนัข
เมื่อไวรัสแรบีส์ (Rabies) เข้าสู่ร่างกายของสุนัข ตัวเชื้อไวรัสจะค่อยๆ เข้าไปสะสมอยู่ตรงบริเวณกล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อบริเวณที่สุนัขถูกกัด
เสร็จแล้วต่อไปตัวไวรัสก็จะค่อยๆ เข้าไปสู่กระแสเลือดของสุนัข และเมื่อตัวไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดของสุนัขได้แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือไวรัสก็จะค่อยๆ เข้าไปทำลายระบบประสาทต่างๆ ที่อยู่ในร่างกายของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นเส้นประสาทส่วนกลาง เส้นประสาทส่วนปลาย รวมถึงสมองของสุนัข
ระยะเวลาฟักตัวของเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ระยะฟักตัวของโรคพิษสุนัขบ้านั้น จะอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 เดือน หลังจากที่สุนัขได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าเข้าสู่ร่างกาย
และเมื่อเชื้อไวรัสได้ฟักตัวในร่างกายของสุนัขแล้ว มันจะทำให้สุนัขมีอาการอาการโกรธอย่างรุนแรง (Furious stage) รวมถึงสุนัขจะมีนิสัยดุร้ายมากยิ่งขึ้น สุนัขจะมีพฤติกรรมส่งเสียงขู่ และพร้อมที่จะกัดคุณได้ตลอดเวลา และนอกจากนี้สุนัขยังมีอาการอัมพาต (Paralytic stage) ขยับร่างกายไม่ได้ในบางส่วนร่วมด้วย
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหารไม่อยากกินทั้งข้าวและน้ำ
- นิสัยของสุนัขจะเปลื่ยนแปลงไปจากปกติ กลายเป็นสุนัขที่ดุร้ายและก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น
- สุนัขจะมีอาการอัมพาตตรงส่วนขา
- สุนัขจะมีอาการน้ำลายฟูมปากอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถกลืนน้ำลายเข้าไปได้
- สุนัขจะมีอาการกลัวน้ำ
- สุนัขจะทำการเห่าและร้องอยู่ตลอดเวลา โดยเสียงที่ร้องและเห่าออกมานั้น จะมีเสียงที่ผิดปกติเพี้ยนไปจากเดิม
- สุนัขจะมีอาการชักอยู่เป็นประจำ
วิธีตรวจเช็คว่าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่
ในกรณีที่คุณรู้สึกว่าสุนัขของคุณมีนิสัยเปลื่ยนแปลงไปจากปกติ จากนิสัยที่ร่าเริงดูน่ารักกลายเป็นสุนัขที่นิสัยดุร้ายและก้าวร้าวอยู่ตลอดเวลา
ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ให้คุณจับสุนัขของคุณกักขังไว้ในกรงก่อนเพื่อดูอาการก่อน (ก่อนที่คุณจะจับสุนัขของคุณเข้ากรงคุณต้องใส่ถุงมือป้องกัน หรืออุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ที่สุนัขไม่สามารถกัดคุณได้)
ในกรณีถ้าคุณไม่แน่นใจ หรือคุณไม่อยากรับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นมา คุณอาจจะใช้วิธีติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เพื่อทำการวางยาสลบ หรือจับสุนัขของคุณก็ได้เหมือนกัน
ในกรณีที่คุณจับสุนัขของคุณขังไว้เพื่อดูอาการ ถ้าเวลาผ่านไปประมาณ 10 วันแล้วสุนัขของคุณยังไม่แสดงอาการอะไรออกมาเพิ่มเติม นั้นแสดงว่าสุนัขของคุณยังปกติดีอยู่ นิสัยที่ดุร้ายและแสดงความก้าวร้าวออกนั้นอาจจะเกิดจากความเครียดสะสมของสุนัขก็เป็นได้
แต่ในทางกลับกันถ้าสุนัของคุณป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจริงๆ แล้วสุนัขของคุณก็จะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาไม่นาน ตามสถิติพบว่าตามสุนัขป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้วจะเสียชีวิตในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ถัดมา
การวินิจฉัยว่าสุนัขป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ จำเป็นต้องผ่าซากออกมาเพื่อหาเชื้อโรคที่อยู่ในสมองของสุนัข วิธีตรวจเลือดนั้นไม่ได้ช่วยให้ทราบได้ว่าสุนัขกำลังป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่หรือเปล่า
จะทำอย่างไรเมื่อคุณถูกสุนัขจรจัดที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัดเข้า
ในกรณีที่คุณเผลอถูกสุนัขจรจัดกัดเข้า แล้วคุณไม่รู้ว่าสุนัขตัวนั้นมีเชื้อพิษสุนัขบ้าอยู่ในร่างกายหรือไม่ คุณก็สามารถป้องกันไม่ให้คุณติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ โดยการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ หลังจากที่คุณถูกสุนัขจรจัดกัดเอา
คือหลังจากที่คุณถูกกัดให้คุณรีบไปฉีดวัคซีนป้องกันในทันทีเลย เพราะสมมุติว่าถ้าสุนัขจรจัดตัวนั้นเกิดป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นมา หลังจากที่พวกมันกัดคุณ ถึงแม้ว่าเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายของคุณแล้ว แต่เชื้อไวรัสจะยังไม่ฟักตัวใดๆ ถ้าในช่วงนี้คุณรีบไปฉีดวัคซีน วัคซีนจะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสแรบีส์ (Rabies) ออกไปจากร่างกายของคุณเอง
โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านั้น ทางแพทย์จะทำการฉีดวัคซีนป้องกันเข้าไปหลายๆ เข็ม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงจะสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสแรบีส์ (Rabies) ที่กำลังแพร่กระจายตัวอยู่ในร่างกายของคุณได้
ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข
ถ้าเกิดว่าไวรัสแรบีส์ (Rabies) ได้วิ่งเข้าไปทำลายระบบประสาทของสุนัขแล้ว และสุนัขของคุณแสดงอาการก้าวร้าวกับอาการอัมพาตออกมา
เมื่อถึงขั้นนี้แล้วสุนัขของคุณจะไม่มีทางรักษาโรคนี้ได้อีกต่อไป สิ่งที่คุณทำได้ในตอนนี้ก็คือ การจับสุนัขของคุณขังกรงไว้ เพื่อไม่ให้สุนัขของคุณไปแพร่เชื้อกับสัตว์เลี้ยง หรือมนุษย์คนอื่นๆ ได้
และเมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์สุนัขของคุณก็จะเสียชีวิตลงในทันที แต่ในกรณีที่คุณกลัวว่าคุณจะได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าในระหว่างที่คุณกำลังจะจับสุนัขเข้ากรงขัง คุณก็สามารถโทรไปขอให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์มาทำการวางยาสลบ หรือมาจับสุนัขของคุณไปขังไว้ในที่อื่นก็ได้เหมือนกัน
วิธีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข
สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณสามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยการพาสุนัขของคุณ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อสุนัขของคุณมีอายุครบ 3 เดือน และฉีดซ้ำอีกครั้งเมื่อสุนัขมีอายุครบ 6 เดือน
โดยปกติแล้ววัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจะสามารถป้องกันโรคได้ประมาณ 5 ปี แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท เพราะโรคพิษสุนัขบ้าจะค่อนข้างแพร่ระบาดได้ดี ในประเทศที่มีอากาศร้อนจัดตลอดปีอย่างประเทศไทย
ดังนั้นคุณควรพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละ 1 เข็ม เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะปลอดภัยและห่างไกลจากโรคพิษสุนัขพิษแล้ว