เชื้อราน้ำในสุนัข (Pythiosis)

เชื้อราน้ำในสุนัข (Pythiosis)

บทนำ

เชื้อราน้ำในสุนัข หรือ Pythiosis ในสุนัข เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ในน้ำและสามารถเคลื่อนไหวไปมาภายในน้ำได้ สำหรับเชื้อราชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายของสุนัขได้โดยผ่านทางจมูก กับผิวหนังของสุนัข

และเมื่อเชื้อราน้ำเข้าสู่ร่างกายของสุนัขแล้ว มันจะทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคไซนัส รวมถึงทำให้สมอง กับปอดของสุนัขเกิดการติดเชื้อขึ้นมาได้

เชื้อราน้ำมักจะชอบอาศัยอยู่ตามหนองน้ำ หรือพื้นที่ที่มีน้ำกักขังขับ ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในเขตของรัฐแคลิฟอเนีย

ชาวอเมริกันมักจะนิยมเรียกชื่อของเชื้อราสายพันธุ์นี้ว่า “มะเร็งหนองน้ำ” (swamp cancer) เป็นเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตน้ำที่มีความร้อนชื้นสูงอย่างเช่นตาม บึง ,หนองน้ำ ,พื้นที่ที่มีน้ำขัง ,ทะเลสาบบางที่

เชื้อราน้ำทำให้สุนัขมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • จะทำให้สุนัขป่วยเป็นไซนัส
  • มีการติดเชื้อเกิดขึ้นที่ปอด กับสมองของสุนัข
  • สุนัขจะมีอาการหายใจติดขัด หายใจไม่สะดวก
  • สุนัขจะมีอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ และมีอาการไอร่วมด้วย
  • สุนัขจะรู้สึกปวดท้อง และอาเจียนอย่างรุนแรง
  • น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • สุนัขจะมีภาวะขาดน้ำ จากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำไปเป็นจำนวนมาก
  • ผิวหนังของสุนัขเกิดอาการบวมโต
  • เชื้อราน้ำจะค่อยๆ กัดกินเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ผิวหนังของสุนัข จนเนื้อบริเวณเหล่านั้นตายลง

เชื้อราน้ำในสุนัขอาการ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้

สุนัขได้ไปสัมผัสกับเชื้อราน้ำ Pythium insidiosum ผ่านการลงไปเล่นน้ำ แล้วสุนัขเผลอกลืนน้ำ หรือหายใจเอาน้ำที่มีเชื้อราน้ำอาศัยอยู่เข้าไปในร่างกาย

การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์

  • ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการต่างๆ ของสุนัขว่า มีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง สุนัขเคยลงเล่นน้ำที่มีความสกปรกสูงมาบ้างหรือเปล่า
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือด กับตรวจปัสสาวะให้กับสุนัข เพื่อดูว่าภายในร่างกายของสุนัขมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง
  • ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการเอกซเรย์ (X-Ray) ที่บริเวณช่องท้องของสุนัข เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นที่ระบบทางเดินอาหารของสุนัขหรือไม่ มีการอุดตันอะไรเกิดขึ้นมาหรือเปล่า ผนังลำไส้ของสุนัขมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาบ้างไหม
  • รวมถึงทางสัตวแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบางส่วนในระบบทางเดินอาหารของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องปฏิบัติอีกทีนึง เพื่อดูว่าสุนัขป่วยเพราะเชื้อราน้ำ Pythiosis หรือไม่
  • และเพื่อให้ขั้นตอนการวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทางสัตวแพทย์จะใช้วิธีตรวจทดสอบ และเพาะแยกเชื้อราจากเนื้อเยื่อ หรือการทำ Polymerase Chain Reaction (PCR)
  • วิธี PCR จะเป็นวิธีที่ตรวจหาเชื้อราจากสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอต้นกำเนิดของเชื้อราน้ำเลย เป็นวิธีที่ให้ความแม่นยำสูงเป็นอย่างมาก วิธีนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบอย่างแน่นชัดว่า สุนัขติดเชื้อราน้ำ Pythiosis หรือไม่

วิธีรักษาอาการติดเชื้อราน้ำในสุนัข

การรักษาจากทางสัตวแพทย์

  • เชื้อราชนิดนี้ยิ่งคุณพาสุนัขของคุณไปถึงมือสัตวแพทย์ได้ไวเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสหายจากโรคนี้ได้ไวมากยิ่งขึ้น
  • สำหรับวิธีรักษาโรคเชื้อราน้ำในสุนัขนั้น ทางสัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อที่มีการติดเชื้อออกจากร่างกายของสุนัข
  • หลังจากผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกจากร่างกายของสุนัขแล้ว ทางสัตวแพทย์จะยิงเลเซอร์ไปในส่วนของเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ที่มีการติดเชื้อเกิดขึ้น เพื่อกำจัดเส้นใยของเชื้อราน้ำที่ปกคลุมอยู่รอบๆ บริเวณเนื้อเยื่อที่มีการติดเชื้อเกิดขึ้น
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการรักษาต่อมน้ำเหลืองที่เกิดการอักเสบจนขยายตัวใหญ่โต
  • หลังจากรักษาต่อมน้ำเหลืองจนเสร็จแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบางส่วนของต่อมน้ำเหลืองออกมา เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่าสภาพต่อน้ำเหลืองของสุนัข ตอนนี้เป็นอย่างไร เพื่อจะได้หาวิธีรักษาในขั้นตอนต่อๆ ไป
  • การรักษาต่อมน้ำเหลืองหลังจากติดเชื้อราน้ำนั้น จำเป็นต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานถึง 6 เดือน ต่อมน้ำเหลืองของสุนัขถึงจะเริ่มกลับมาเป็นปกติดีดังเดิม
  • หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการนัดสุนัขของคุณกลับเข้ามาพบอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าหลังจากที่รักษาไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง ยังมีเชื้อราน้ำหลงเหลืออยู่ในร่างกายของสุนัขหรือเปล่า
  • รวมถึงทางสัตวแพทย์จะทำการเอกซเรย์ (X-Ray) ไปที่ช่องท้องของสุนัข เพื่อดูว่าระบบทางเดินอาหารของสุนัขกลับมาทำงานเป็นปกติดีแล้วหรือยัง แล้วทางสัตวแพทย์ก็จะทำการรักษาต่อมน้ำเหลืองของสุนัขในขั้นตอนต่อๆ ไป

วิธีการป้องกันเชื้อราน้ำในสุนัข (Pythiosis)

  • ในปัจจุบันนั้นได้มีการผลิตวัคซีนสำหรับป้องกันเชื้อราน้ำ (Pythiosis) ขึ้นมาโดยเฉพาะ คุณสามารถพาสุนัขของคุณเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้เลย
  • แต่วัคซีนชนิดนี้ไม่ได้ป้องกันเชื้อราน้ำ (Pythiosis)  อย่างสมบูรณ์แบบ วัคซีนชนิดนี้ทำได้เพียงช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของเชื้อราน้ำที่จะเกิดขึ้นกับสุนัข
  • ในกรณีที่สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคเชื้อราน้ำขึ้นมา แต่สุนัขของคุณได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ตัววัคซีนจะไปช่วยทำให้ก้อนเนื้อที่มีการติดเชื้อ มีขนาดที่เล็กลง ซึ่งมันจะทำให้ทางสัตวแพทย์สามารถผ่าตัดรักษาโรคนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • มันยังมีอีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถป้องกันโรคเชื้อราน้ำในสุนัขได้นั้นก็คือการ ห้ามไม่ให้สุนัขของคุณลงเล่นน้ำที่มีความสกปรกสูง ทั้งจากภายในบ้านและก็จากนอกบ้านโดยเด็ดขาด เพียงเท่านี้ก็เป็นการลดความเสี่ยงที่สุนัขของคุณจะสัมผัสกับเชื้อราน้ำได้แล้ว