บทนำ
พยาธิในกระเพาะอาหารของสุนัข หรือโรค Physalopterosis ในสุนัข เป็นโรคที่ระบบทางเดินอาหารของสุนัขเกิดการติดเชื้อจากพยาธิสายพันธุ์ Physaloptera
ถึงแม้ว่าจะมีพยาธิ Physaloptera เพียงหนึ่งตัวก็สามารถทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้ได้ โรคนี้สามารถเกิดได้กับสุนัขทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงสุนัขทุกสายพันธุ์
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรค Physalopterosis
- สุนัขจะมีอาการอาเจียนอย่างเรื้อรัง หรือมีอาการอาเจียนติดต่อกันมากกว่า 3 – 4 วัน
- จะมีพยาธิปะปนออกมากับอาเจียนของสุนัข
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรค Physalopterosis
- สุนัขได้เผลอไปทานแมลงตัวเล็กๆ ที่มีพยาธิ Physaloptera อาศัยอยู่ในร่างกาย
- สุนัขได้เผลอไปกินสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างเช่น นก กบ จิ้งจก ที่มีพยาธิ Physaloptera อาศัยอยู่ในร่างกาย
- สุนัขที่เลี้ยงอยู่นอกบ้าน จะมีโอกาสสูงที่จะติดโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขที่พักอาศัยอยู่แต่ภายในบ้าน
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า โดยปกติแล้วคุณให้สุนัขของคุณทานอาหารประเภทไหนบ้าง คุณเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านหรือนอกบ้าน สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อทางสัตวแพทย์จะใช้กล้องส่องเข้าไปในปากของสุนัข เพื่อดูว่าภายในกระเพาะอาหาร รวมถึงลำไส้เล็กของสุนัขมีพยาธิอาศัยอยู่หรือเปล่า
- โดยในขั้นตอนของการส่องกล้อง ทางสัตวแพทย์ต้องคอยสังเกตเป็นอย่างดี เพราะพยาธิ Physaloptera มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเป็นอย่างมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ อาจจะมองไม่เห็นพยาธิชนิดนี้ เลยก็ได้เหมือนกัน
- ต่อจากนั้นสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างบางอย่างของอาเจียน และอุจจาระของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่ามีพยาธิอยู่ในอาเจียน กับอุจจาระของสุนัขหรือเปล่า
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
เมื่อทางสัตวแพทย์ตรวจพบเป็นที่แน่นชัดแล้วว่าสุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับพยาธิ Physaloptera จริงๆ
ทางสัตวแพทย์ก็จะให้ยาสำหรับฆ่าพยาธิ Physaloptera โดยเฉพาะ ให้กับสุนัข รวมถึงจะให้ยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ ที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดภายในระบบทางเดินอาหารของสุนัข
หลังจากที่รักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะนัดให้คุณพาสุนัขกลับเข้ามาพบอยู่ประมาณ 2 – 3 ครั้ง เพื่อดูว่าหลังจากที่รักษาไปแล้วอาการต่างๆ ของสุนัขดีขึ้นหรือไม่
ถ้าการรักษาผ่านไปได้ด้วยดีอาการต่างๆ ของสุนัขจะค่อยๆ หายดีเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์
วิธีป้องกันโรคพยาธิกระเพาะอาหารในสุนัข
- ให้คุณเลี้ยงสุนัขของคุณให้อยู่ในภายในบ้าน ถ้ามีความจำเป็นต้องพาสุนัขออกนอกบ้าน คุณต้องคอยดูแลสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิด
- หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ
- คุณควรสำรวจพื้นที่ในบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณพบว่ามีแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆ อาศัยอยู่ในบ้านของคุณ ให้คุณรีบกำจัด หรือเอานำแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆ ออกจากบ้านของคุณโดยทันที
- ปิดฝาถังขยะของคุณทุกครั้งหลังจากที่ใช้เสร็จ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณเข้าไปทานเศษอาหารที่หลงอยู่ในถังขยะได้