โรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสในลูกสุนัข

โรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสในลูกสุนัข

บทนำ

น่าจะมีหลายคนเลยที่มีนิสัยแบบเกิดอยากเลี้ยงสุนัขขึ้นมาสักตัว แล้วคุณก็พิมพ์ลงไปในเว็บค้นหาว่า “สุนัขสายพันธุ์ที่คุณอยากได้ พร้อมราคา”

เมื่อเว็บไซต์ผลขึ้นมา คุณก็เลือกซื้อร้านขายสุนัขตัวที่คุณอยากได้ ตามที่คุณสะดวกหรือร้านค้านั้นอยู่ใกล้บ้านของคุณ โดยที่คุณไม่หาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเลย

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนี้อาจจะทำให้คุณได้ลูกสุนัขที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงสมบูรณ์พร้อม และเมื่อคุณได้ลูกสุนัขมาแล้ว คุณก็เริ่มเลี้ยงลูกสุนัขไปเรื่อยๆ สักประมาณ 1 – 2 เดือน

แล้วคุณก็พบว่าทำไมลูกสุนัขที่ฉันซื้อมา มันมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงเลย เดี๋ยวก็ป่วยเป็นโรคนั้น เดี๋ยวก็ป่วยเป็นโรคนี้ รวมถึงลูกสุนัขของฉันมักจะมีอาการเซื่องซึม อาเจียน และท้องเสียอยู่เป็นประจำเลยทำไมถึงเป็นแบบนี้ละ

ถ้าลูกสุนัขที่คุณซื้อมามีอาการต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น นั้นเป็นอาการที่บ่งบอกได้ว่าลูกสุนัขของคุณ กำลังป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัส (canine viral enteritis; CVE) อยู่

ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่สุนัขสามารถเป็นพาหะนำพาโรคนี้ไปติดกับสุนัขตัวอื่นๆ ได้ ดังนั้นถ้าคุณเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัวที่บ้าน แล้วคุณพบว่าลูกสุนัขที่คุณพึ่งซื้อเมาเลี้ยงนั้น มีอาการต่างๆที่ได้กล่าวไปข้างต้น

ให้คุณรีบแยกลูกสุนัขตัวที่ป่วยอยู่ ให้ออกห่างจากสุนัขตัวอื่นๆ ที่อยู่ภายในบ้านของคุณโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขตัวที่ป่วยอยู่ แพร่เชื้อไปให้กับลูกสุนัขตัวอื่นๆ ในบ้านของคุณได้

ทำไมลูกสุนัขถึงป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัส

การติดต่อของโรคชนิดนี้เกิดจาก การที่ลูกสุนัขได้ไปสัมผัสกับอุจจาระของลูกสุนัขที่ติดเชื้อชนิดนี้อยู่

รวมถึงสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ ที่ลูกสุนัขตัวนั้นใช้เป็นประจำอย่างเช่น ที่นอน เสื้อผ้า เป็นต้น โรคนี้ไม่สามารถติดต่อสู่คนได้ ดังนั้นขอให้คุณสบายใจได้

อาการต่างๆ เมื่อลูกสุนัขติดเชื้อพาร์โวไวรัส

  • ลูกสุนัขจะมีอาการอาเจียนอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นประจำ
  • ลูกสุนัขจะขับถ่ายของเสียออกมาเป็นเลือด
  • ร่างกายของลูกสุนัขจะซูบผอมลงอย่างเห็นชัด
  • ลูกสุนัขจะมีอาการเซื่องซึมและอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำ
  • ลูกสุนัขจะมีภาวะขาดน้ำ
  • ลูกสุนัขจะมีอาการปวดเกร็งท้อง ในเวลาที่คุณเอามือไปลูบท้องของลูกสุนัข
  • โดยส่วนใหญ่แล้วโรคนี้มักจะเกิดกับลูกสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ – 6 เดือน

อาการต่างๆ ของโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสในลูกสุนัข

การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์

  • ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการเบื้องต้นของลูกสุนัขว่า คุณได้ซื้อลูกสุนัขมาจากฟาร์มเลี้ยงสุนัข หรือร้านขายสุนัขที่ไหน อาการต่างๆ ที่ลูกสุนัขแสดงออกมานั้นมีอาการอะไรบ้าง แล้วลูกสุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจอุจจาระของลูกสุนัขอย่างละเอียด เพื่อดูว่าลูกสุนัขมีการติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรียรวม รวมถึงเชื้อจากพยาธิบางชนิดอยู่หรือเปล่า
  • ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะใช้ชุดตรวจสำหรับหาเชื้อ coronavirus กับ parvovirus   มาตรวจให้กับลูกสุนัข ชุดตรวจชนิดนี้จะบอกได้ว่าลูกสุนัขกำลังติดเชื้อเพาร์โวไวรัสอยู่หรือเปล่า
  • และสุดท้ายทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของลูกสุนัข เพื่อดูว่าระบบต่างๆ ในร่างกายของลูกสุนัข ยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือไม่

การรักษาจากทางสัตวแพทย์

ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามสาเหตุรวมถึงอาการต่างๆ ที่ตรวจพบเจออย่างเช่น

  • ถ้าพบว่าลูกสุนัขมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ก็จะให้ยาลดอาการอาเจียนกับลูกสุนัข
  • ถ้าพบว่าลูกสุนัขติดเชื้อแบคทีเรียบางประเภท ก็จะทำการให้ยาสำหรับกำจัดเชื้อแบคทีเรียชนิดนั้นๆ  เป็นลูกสุนัข
  • ถ้าพบว่าลูกสุนัขมีภาวะขาดน้ำ ก็จะให้สารน้ำเข้าไปชดเชยน้ำที่สูญเสียไปจากร่างกายของลูกสุนัข
  • โดยหลักๆ แล้วการรักษาโรคที่ติดจากเชื้อไวรัส ทางสัตวแพทย์จะหาวิธีทำให้ร่างกายของลูกสุนัขกลับมาแข็งแรงเป็นปกติดีดังเดิม
  • เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกสุนัข มีความแข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสพาร์โวไวรัสได้
  • โรคนี้เป็นโรคที่ค่อนข้างรุนแรงต่อลูกสุนัขเป็นอย่างมาก ถ้าร่างกายของลูกสุนัขไม่แข็งแรงดีพอ ก็อาจจะทำให้ลูกสุนัขเสียชีวิตจากโรคนี้ลงได้

วิธีป้องกันโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสในลูกสุนัข

วิธีดูแลลูกสุนัขในระหว่างพักฟื้นร่างกาย

  • ในกรณีที่คุณเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ให้คุณจับลูกสุนัขตัวที่ป่วยอยู่ ไปแยกเลี้ยงไว้ต่างหาก หรือนำไปแยกเลี้ยงไว้ในกรง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขตัวที่ป่วยอยู่ ไปแพร่เชื้อสู่สุนัขตัวอื่นๆ ที่อยู่ในบ้านของคุณได้
  • ให้คุณทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณ ด้วยยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของ sodium hypochlorite
  • รวมถึงให้คุณทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ผ้าปูที่นอน อยู่เป็นประจำ
  • การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้สุนัขตัวอื่นๆ ภายในบ้านติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้

วิธีป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขติดเชื้อพาร์โวไวรัส

สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณสามารถทำได้โดยก่อนที่คุณจะเลือกซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ให้คุณลองหาข้อมูลดูก่อนว่า แหล่งที่คุณจะซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยงนั้น

ได้รับมาตรฐานการเลี้ยงดูสุนัขหรือเปล่า คนอื่นๆ พูดถึงร้านค้านี้อย่างไรบ้าง ในทางที่ดี หรือมีแต่เรื่องเสียๆ หายๆ

และอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโรคนี้ให้กับลูกสุนัขได้ โดยการพาลูกสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสกับทางสัตวแพทย์

โดยลูกสุนัขของคุณจะสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้นั้น ต้องมีอายุตั้งแต่ 2 – 3 เดือนขึ้นไป และคุณต้องพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนชนิดนี้ต่อซ้ำอีกครั้งปีละ 1 เข็ม โดยทางสัตวแพทย์จะเป็นคนนัดให้คุณพาสุนัขมาฉีดวัคซีนซ้ำเองในรอบถัดๆ ไป

ในกรณีที่คุณไม่แน่นใจว่าลูกสุนัขของคุณสามารถฉีดวัคซีนชนิดนี้ได้แล้วหรือยัง คุณก็สามารถโทรไปขอคำปรึกษาจากทางสัตวแพทย์ก่อนก็ได้เหมือนกัน