บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำ วิธีผูกมิตรให้แมวกับสุนัขอยู่ร่วมกันได้ โดยจะแยกเป็น 4 กรณีได้แก่ ลูกสุนัขกับลูกแมว แมวโตกับลูกสุนัข สุนัขโตกับลูกแมว แมวโตกับสุนัขโต
ว่าคุณควรทำอย่างไรบ้าง ถึงจะทำให้แมวกับสุนัขผูกมิตรกันอยู่ในบ้านอย่างสันติ สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่อยากเลี้ยงแมวกับสุนัขเพิ่มสักตัว
แต่กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะกันระหว่างแมวตัวใหม่กับสุนัขตัวใหม่หรือเปล่า คุณก็สามารถใช้บทความนี้เป็นไกด์นำทางในการผูกมิตรระหว่างสุนัขตัวเก่ากับแมวตัวใหม่ก็ได้เหมือนกัน
เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ว่าวิธีผูกมิตรระหว่างสัตว์เลี้ยงทั้งสองประเภทนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง ก่อนอื่นเรามาเริ่มทำความรู้จักกับนิสัยของสัตว์เลี้ยงทั้งสองประเภทนี้กันก่อน
นิสัยโดยทั่วไปของสุนัข
สุนัขเป็นสัตว์ที่มีนิสัยร่าเริงและขี้เล่นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่สุนัขมักจะชอบทำในแต่ละวันก็คือการเดินสำรวจพื้นที่ในบ้านของคุณ กับชอบวิ่งไล่สิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่ในบ้านของคุณ
สิ่งต่างๆ ที่สุนัขทำลงไปนั้นก็เพื่อความสนุกไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือต้องการล่าสิ่งเหล่านั้นเป็นอาหารเลย
นิสัยโดยทั่วไปของแมว
แมวเป็นสัตว์ที่มีโลกส่วนตัวสูงเป็นอย่างมาก พวกมันแทบจะไม่ยุ่งกับใครเลย ยกเว้นแต่ในช่วงเวลาที่พวกมันต้องการจะผสมพันธุ์กับแมวเพศตรงข้าม กับช่วงเวลาที่แมวต้องการเลี้ยงลูกของพวกมัน
รวมถึงแมวยังเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณในการเป็นนักล่าสูง พวกมันจะมีความสุขเป็นอย่างมาก ถ้าได้ไล่ต้อนเหยื่อให้จนมุมแล้วค่อยๆ ตะปนเหยื่อเล่น จนเหยื่อที่มันล่าเสียชีวิตลง
สาเหตุที่ทำให้แมวกับสุนัขทะเลาะกัน
สาเหตุที่ทำให้แมวกับสุนัขทะเลาะกันนั้นเกิดจากนิสัยที่ต่างกันโดยธรรมชาติของสัตว์ทั้งสองประเภทนี้ สุนัขจะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยเฟรนลี่ชอบเข้าไปเล่นกับสัตว์ตัวอื่น
จึงทำให้มีหลายครั้งที่สุนัขมักจะชอบเข้าไปเล่นกับแมวเพราะต้องการผูกมิตรกับแมว แต่ก็มักจะถูกแมวกัดเอาทุกที เพราะแมวเป็นสัตว์ที่รักสันโดษชอบอยู่ตัวคนเดียว
การที่สุนัขเข้าไปทำแบบนี้ มันจะเป็นการรบกวนการใช้ชีวิตของแมวเป็นอย่างมาก จึงทำให้แมวรู้สึกรำคาญแล้วก็โต้ตอบกลับไปด้วยการข่วนหรือกัดสุนัข
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็สร้างความน่าปวดหัวให้กับคนที่เลี้ยงแมวคู่กับสุนัขเป็นอย่างมาก แต่บทความนี้จะมาคำแนะนำวิธีการผูกมิตรอย่างเบื้องต้นระหว่างแมวกับสุนัขให้กับคุณ โดยให้คุณทำดังต่อไปนี้
วิธีผูกมิตรระหว่างแมวกับสุนัข
1. ในกรณีของลูกสุนัขกับลูกแมว
สำหรับในกรณีนี้คุณจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกแมวกับลูกสุนัขให้สนิทกันได้ง่ายเป็นอย่างมาก ด้วยการให้คุณเลี้ยงลูกแมวกับลูกสุนัขควบคู่กันไปได้เลย
โดยให้คุณหาจานอาหารมาสองใบ ใบหนึ่งสำหรับใส่อาหารสุนัข ส่วนอีกใบหนึ่งใส่ไว้ใส่อาหารแมว แล้วคุณก็ให้ลูกสุนัขกับลูกแมวทานอาหารจานอาหารของใครของมัน โดยให้คุณวางจานอาหารทั้งสองใบไว้ใกล้ๆ กัน
รวมถึงคุณควรหากิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ลูกสุนัขกับลูกแมวใช้เวลาร่วมกันอย่างเช่น การหาของเล่นมาให้ลูกสุนัขกับลูกแมวเล่นร่วมกัน
การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกแมวกับลูกสุนัขเรียนรู้ได้ว่า พวกมันทั้งสองเป็นพี่น้องกันไม่ได้เป็นศัตรูกันแต่อย่างใด ซึ่งมันจะทำให้แมวกับสุนัขอยู่ร่วมกันได้เมื่อพวกมันเติบใหญ่
2. ในกรณีของลูกสุนัขกับแมวที่โตเต็มวัยแล้ว
สำหรับในกรณีที่คุณพึ่งรับลูกสุนัขมาเลี้ยง แล้วมีแมวโตเต็มวัยอาศัยอยู่ในบ้านของคุณก่อนหน้านั้นแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ห้ามให้ลูกสุนัขเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับแมวของคุณโดยเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้แมวรู้สึกรำคาญจนกัดลูกสุนัขเอาได้
โดยในช่วงแรกคุณควรหาห้องส่วนตัวให้ลูกสุนัขพักอาศัยอยู่ไปก่อน แล้วให้คุณหาเวลาว่างอุ้มลูกสุนัขมาทำความรู้จักกับแมวของคุณ
โดยให้คุณอุ้มลูกสุนัขมาวางไว้ในห้องเดียวกันในที่ที่แมวของคุณพักอาศัยอยู่ แล้วให้คุณหากระจกหรืออะไรมากั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขเข้าใกล้แมวได้ แต่ลูกสุนัขกับแมวยังมองเห็นหน้ากันและกัน
ต่อมาให้คุณหาผ้าขนหนูหรือผ้าอะไรก็ได้หนึ่งผื่น แล้วเช็คลงบนตัวของลูกสุนัขเพื่อให้กลิ่นตัวของลูกสุนัขติดอยู่กับผ้าขนหนูผื่นนั้น เสร็จแล้วก็ให้คุณนำผ้าขนหนูผื่นนั้นไปเช็คของแมวซ้ำลงอีกที
แล้วให้คุณเช็คสลับกันไปมาระหว่างแมวกับลูกสุนัข การทำแบบนี้จะทำให้กลิ่นตัวของแมวกับสุนัขผสมกันเป็นกลิ่นเดียวกัน ซึ่งมันจะทำให้แมวยอมรับในตัวของลูกของสุนัขมากยิ่งขึ้น
ให้คุณลองทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน คุณถึงคอยให้ลูกสุนัขเผชิญหน้าทำความรู้จักกับแมวของคุณได้
3. สุนัขโตเต็มวัยกับลูกแมว
สำหรับในกรณีของสุนัขที่โตจนเต็มวัยจะยอมรับลูกแมว ได้ง่ายกว่าในกรณีของแมวที่โตจนเต็มวัยยอมรับลูกสุนัขเป็นอย่างมากเพราะสุนัขที่โตแล้วจะไม่มองลูกแมวเป็นศัตรูเลย
สุนัขจะมองว่าลูกแมวนั้นเป็นสิ่งที่พวกมันต้องคอยปกป้องดูแลเป็นอย่างดี อารมณ์มันจะเหมือนกับจ่าฝูงคอยดูแลลูกฝูงเป็นต้น
สำหรับวิธีทำให้สุนัขที่โตเต็มวัยยอมรับลูกแมวคุณสามารถทำได้โดยการให้สุนัขของคุณเข้าไปดม หรือไปเลียทำความรู้จักกับลูกแมวที่พึ่งเข้าบ้านมาใหม่
โดยให้คุณคอยดูแลลูกแมวของคุณอย่างใกล้ชิด ถ้าสุนัขของคุณเผลอเล่นกับลูกแมวของคุณแรงจนเกินไป คุณจะได้อุ้มลูกแมวแยกออกมาได้
ให้คุณอุ้มลูกแมวมาทำความรู้จักกับสุนัขของคุณวันละประมาณ 10 – 15 นาทีต่อวัน แล้วก็ให้คุณแยกลูกแมวกับสุนัขไปไว้คนละที่อย่าพึ่งนำมาเลี้ยงรวมกัน ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 – 2 เดือน คุณก็จะสามารถเลี้ยงสุนัขร่วมกับลูกแมวได้แล้ว
4. สุนัขโตเต็มวัยกับแมวโตเต็มวัย
สำหรับในกรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีที่ยากที่สุด คุณต้องใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก ถึงจะทำให้แมวกับสุนัขยอมรับซึ่งกันและกันได้โดยให้คุณทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ในช่วงแรกคุณต้องแยกสุนัขกับแมวไว้คนละห้อง ห้ามให้พวกมันเจอหน้ากันโดยเด็ดขาด เพราะพวกมันยังเห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูอาจจะเกิดการทะเลาะกันขึ้นมาได้
- ในการสร้างความคุ้นเคยด้วยการให้คุณลองเอากระดาษทิชชูซับฉี่แมว ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้านของคุณก่อน รวมถึงจุดที่สุนัขพักอาศัยอยู่ เพื่อให้สุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นฉี่ของแมว ให้คุณทำแบบนี้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
- ต่อมาก็ให้คุณเอาเบาะที่นอนของสุนัขกับแมวมาสลับกัน เพื่อให้สุนัขกับแมวรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นตัวของอีกฝ่าย ให้คุณทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน
- ต่อจากนั้นก็ให้คุณหาผ้าขนหนูมาหนึ่งผืน แล้วเอาผ้าขนหนูผืนนั้นไปเช็คตัวสุนัขกับแมวสลับกันไปมา เพื่อให้กลิ่นตัวของสุนัขกับแมวปนกันจนกลายเป็นกลิ่นเดียวกัน สำหรับในขั้นตอนนี้ให้คุณทำอยู่ประมาณ 1 เดือน
- เมื่อถึงขั้นตอนนี้แล้วสุนัขกับแมวจะเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นของแต่ละฝ่ายแล้ว ก็ให้คุณเริ่มพาสุนัขกับแมวมาเจอกันได้
- โดยให้คุณพาสุนัขกับแมวมาทำความรู้จักกันวันละประมาณ 5 – 10 นาที และให้คุณรีบจับสุนัขกับแมวแยกในทันที ถ้าคุณพบว่าพวกมันยังทะเลาะกันอยู่
- ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3 – 4 เดือน แมวกับสุนัขก็จะเริ่มเปิดใจเป็นมิตรกันได้
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
แต่ในกรณีที่คุณทำตามคำแนะนำที่ทางบทความนี้ได้แนะนำไปแล้ว สุนัขกับแมวก็ยังทะเลาะเป็นศัตรูกันอีก
ทางบทความแนะนำให้คุณผู้อ่านลองโทรไปขอคำแนะนำจากทางสัตวแพทย์ หรือคุณอาจจะพาสุนัขไปฝึกตามโรงเรียนรับสอนสุนัขก็ได้เหมือนกัน