บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกของเล่นอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกสุนัข ว่ามีสิ่งไหนบ้างที่คุณต้องใส่ใจ ก่อนเลือกซื้อของเล่นให้ลูกสุนัขของคุณเล่นสักชิ้นหนึ่ง
ซึ่งน่าจะมีคนเลี้ยงลูกสุนัขหลายคนเลยที่ชอบซื้อของเล่นตามใจของตัวเอง จากสีสันที่ดูสวยงาม หรือรูปร่างหน้าตาที่ดูน่ารักจากของเล่นชิ้นนั้น
คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณเลือกซื้อของเล่นให้กับลูกสุนัขโดยไม่ใส่ใจรายละเอียดต่างๆ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกสุนัขขึ้นมาได้ ถ้าลูกสุนัขของคุณเผลอไปกลืนของเล่นชิ้นนั้น หรือเผลอกลืนวัสดุดิบบางอย่างจากของเล่นชิ้นน้้นเข้าสู่ร่างกาย
แต่คุณไม่อยากให้ลูกสุนัขของคุณต้องป่วยเป็นโรคต่างๆ จากการเลือกซื้อของเล่นสุนัขที่ไม่มีคุณภาพ เรามาดูกันดีกว่าว่า ถ้าคุณจะซื้อของเล่นให้ลูกสุนัขของคุณสักชิ้น คุณต้องดูอะไรบ้าง
เลือกของเล่นอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกสุนัข
1. เลือกของเล่นให้เหมาะสมกับปากของลูกสุนัข
เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องใส่ใจในเวลาที่จะเลือกของเล่นให้กับลูกสุนัขสักชิ้นนั้นก็คือ ให้คุณดูว่าของชิ้นที่คุณกำลังเลือกซื้ออยู่นั้น มีขนาดพอดีพอเหมาะกับปากของลูกสุนัขหรือเปล่า
เพราะถ้าคุณเลือกซื้อของเล่นที่มีขนาดที่เล็กจนเกินไปนั้น มันอาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณเผลอกลืนของเล่นชิ้นนั้นเข้าไปในขณะที่กำลังเล่นอยู่ได้
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายต่อลูกสุนัขเป็นอย่างมาก เพราะของเล่นที่ลูกสุนัขกลืนเข้าไปอาจจะเข้าไปอุดตันที่ลำไส้จนทำให้ลูกสุนัขเสียชีวิตขึ้นมาได้เลย
วิธีป้องกัน
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว คุณควรเลือกของเล่นที่มีขนาดใหญ่กว่าปากของลูกสุนัข หรือคุณอาจจะเลือกซื้อของเล่นสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะเลยก็ได้เหมือนกัน
เพราะของเล่นเหล่านี้ถูกออกแบบขึ้นมาให้กับลูกสุนัขขโดยเฉพาะ คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าลูกสุนัขของคุณจะได้รับอันตรายใดๆ จากการเล่นของเล่นชิ้นนี้หรือไม่
2. เลือกของเล่นที่ผลิตจากวัตถุดิบแข็งแรงและไม่ฉีกขาดได้ง่าย
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องใส่ใจก่อนเลือกซื้อของเล่นให้กับลูกสุนัขนั้นก็คือ ให้คุณดูว่าชิ้นเล่นชิ้นนี้ให้วัตถุดิบอะไรในการผลิต มีความแข็งแรงทนทานไม่ฉีกขาดได้ง่ายหรือไม่
เพราะโดยธรรมชาติของลูกสุนัขมักจะมีนิสัยชอบกัดสิ่งของต่างๆ อยู่เป็นประจำ แล้วให้คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณเลือกของเล่นที่ทำจากพลาสติกที่แตกหักได้ง่าย
ก็จะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมากที่ลูกสุนัขของคุณกัดของเล่นที่ทำจากพลาสติกชิ้นนั้นจนแตก แล้วเผลอกลืนพลาสติกที่ฉีกขาดเข้าสู่ร่างกายได้ จนทำให้ลูกสุนัขของคุณมีอาการผิดปกติต่างๆ อย่างเช่น
- อาการท้องเสีย ปวดท้อง เกร็งท้อง
- ทานอาหารได้น้อยลง หรือไม่ทานอาหารเลย
- มีอาการเซื่องซึม และอ่อนเพลีย
- อุจจาระน้อยลงได้น้อยลง หรือไม่ขับถ่ายเลย
- ถ้าพลาสติกที่กลืนเข้าไปมีความแหลมคมสูง ก็อาจจะทำให้กระเพาะอาหารของลูกสุนัขเกิดเป็นแผลขึ้นมาได้
วิธีป้องกัน
ถ้าคุณไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกสุนัขของคุณ คุณควรเลือกซื้อของเล่นที่คุณทำจากยาง แล้วให้คุณดูที่ฉลากผลิตภัณฑ์ต่อว่าของเล่นชิ้นนั้นทำจากยางธรรมชาติหรือเปล่า
ถ้าใช่คุณก็สามารถซื้อของเล่นชิ้นนั้นมาให้ลูกสุนัขของคุณเล่นได้เลย เพราะยางธรรมชาติเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูง มันสามารถทนทานต่อการกัดของลูกสุนัขได้เป็นอย่างดี
หรือคุณอาจจะเลือกของเล่นที่ผลิตจากเชือกก็ได้เหมือนกัน เพราะของเล่นที่ถูกผลิตขึ้นมาจากเชือกก็มีความทนทานสูงไม่แพ้ไปกว่ายางจากธรรมชาติเลย
3. สีไม่ลอก และไม่ใช้สารเคมีในการผลิต
คุณสามารถดูได้ว่าของเล่นสุนัขชิ้นไหน ได้ผ่านมาตรฐานการรับรองผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ โดยให้คุณมองหาคำว่า “no toxic materials” ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ของเล่นสุนัข
ถ้ามีคำนี้อยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์แสดงว่าของเล่นชิ้นนั้นไม่ได้ใช้วัสดุที่มีสารเคมีในการผลิต ของเล่นเลย คุณสามารถซื้อของเล่นชิ้นนี้มาให้ลูกสุนัขของคุณเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ เลย
ทดสอบว่าของเล่นชิ้นนั้นสีลอกหรือเปล่า
นอกจากมองหาคำว่า no toxic materials” บนฉลากผลิตภัณฑ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำก่อนเลือกซื้อของเล่นให้กับลูกสุนัขก็คือ ให้คุณลองใช้นิ้วมือ หรือเล็บของคุณถูไปที่ของเล่นเพื่อทดสอบดูว่า
ของเล่นชิ้นนั้นสีลอกหรือเปล่า ถ้าคุณพบว่ามีสีลอกเกิดขึ้น คุณก็ไม่ควรซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้กับลูกสุนัขเลย เพราะจะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมากที่ลูกสุนัขของคุณเผลอกลืนสีที่หลุดลอกนั้นเข้าสู่ร่างกายได้
4. พาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพ เพื่อขอคำแนะนำ
สำหรับในหัวข้อนี้เป็นกรณีของคนเลี้ยงสุนัขมือใหม่ ที่คุณยังไม่มีความรู้ในการเลี้ยงสุนัขมากนัก คุณไม่รู้ว่าควรเลือกของเล่นแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณดี
คุณก็สามารถพาลูกสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกซื้อของเล่นให้เหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณก็ได้เหมือนกันตัวอย่างเช่น
ถ้าตรวจพบว่าลูกสุนัขของคุณมีปัญหาเรื่องคราบสะสมของหินปูน ทางสัตวแพทย์ก็จะแนะนำให้คุณซื้อของเล่นที่ช่วยขัดฟันมาให้ลูกสุนัขของคุณเล่น
หรือลูกสุนัขของคุณอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการพัฒนาการด้านสมอง ทางสัตวแพทย์ก็จะแนะนำของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกสุนัขของคุณเอง