วิธีเลือกแปรงหวีขนสุนัข กับวิธีหวีขนให้กับสุนัข

วิธีเลือกแปรงหวีขนสุนัข กับวิธีหวีขนให้กับสุนัข

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำวิธีเลือกแปรงหวีขนสุนัข กับวิธีหวีขนให้กับสุนัข ว่าแปรงหวีขนแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับสุนัขของคุณ รวมถึงวิธีการหวีขนของสุนัขอย่างถูกวิธี

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

ประโยชน์ของการแปรงขนให้กับสุนัข

การแปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำ นอกจากจะช่วยทำให้ขนของสุนัขสวยและนุ่มลื่นอยู่เสมอแล้ว มันยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมออีกด้วย

เพราะการแปรงขนให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำนั้น มันจะไปช่วยกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังของสุนัข ผลิตน้ำมันชนิดหนึ่งออกมา ซึ่งน้ำมันดังกล่าวจะมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังของสุนัขอยู่เสมอ

และนอกจากนี้การแปรงขนให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ ก็ยังมีส่วนช่วยลดอาการผิวหนังอักเสบของสุนัขลงได้อีกด้วย เมื่อประโยชน์มันมีถึงขนาดนี้ พวกเรามาแปรงขนให้กับสุนัขกันเถอะ

ควรเลือกแปรงหวีขนให้กับสุนัขแบบไหนดี

วิธีเลือกที่แปรงขนให้เหมาะกับสุนัขของคุณ

1. ที่แปรงขนแบบลวด หรือแบบสลิคเกอร์ (Slicker Brush)

แปรงหวีขนชนิดนี้จะค่อนข้างเหมาะกับ สุนัขที่มีขนหยิกหนาและฟูอย่าง สุนัขปอมเมอเรเนียน แปรงหวีขนชนิดนี้จะช่วยทำให้ขนของสุนัขคลายตัว ช่วยป้องกันไม่ให้ขนของสุนัขพันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้เป็นอย่างดีเลย

2. ที่แปรงขนแบบหมุด (Pin Brush)

ที่แปรงขนแบบหมุดเป็นที่แปรงขนที่เหมาะสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งกับสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น ขนยาว หรือทั้งแบบไม่มีขน

โดยที่แปรงขนชนิดนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ชั้นผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันขึ้นมา เพื่อให้เส้นขนของสุนัขดูเงางามอยู่เสมอ

สำหรับวิธีเลือกซื้อแปรงขนแบบหมุดนั้น คุณควรเลือกซื้อแบบที่ไม่มีหมุดตรงปลายซี่แปรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระชากขนจากปลายหมุด ในเวลาที่คุณกำลังแปรงขนให้กับสุนัขของคุณอยู่

3. แปรงขนหมู (Bristle Brush)

เป็นแปรงหวีขนที่เหมาะสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น ขนยาว รวมถึงสุนัขขนสั้นเกรียน

โดยแปรงหวีขนชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันออกมา ซึ่งน้ำมันดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ขนของสุนัขเงางามอยู่เสมอ

รวมถึงแปรงขนหมูยังมีส่วนช่วยขจัดสะเก็ดรังแค และเส้นขนที่หลุดร่วงอยู่ตามตัวให้ออกไปจากร่างกายของสุนัขอีกด้วย

และยังไม่หมดเท่านี้ แปรงขนหมูยังมีส่วนช่วยให้เส้นขนของสุนัขคลายตัว ช่วยป้องกันไม่ให้ขนของสุนัขพันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้อีกด้วย

4. หวีคราด

หวีชนิดนี้จะเหมาะสำหรับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนหนาๆ ซึ่งหวีชนิดนี้จะช่วยแบ่งขน และสางขนให้กับสุนัขสายพันธุ์ขนหนาได้เป็นอย่างดีเลย

และนอกจากแปรงหวีขนที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีหวีชนิดต่างๆ ที่ถูกผลิตออกมาไว้ใช้สำหรับงานประเภทต่างๆ อย่างเช่น

แปรงหวีขนสำหรับสุนัขที่กำลังผลัดขนอยู่ ,แปรงยางที่ไว้ใช้สำหรับนวดผิวหนังของสุนัขสายพันธุ์ขนสั้นโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถเลือกที่แปรงขนเฉพาะทางเหล่านี้ ได้ตามความต้องการของคุณเลย 

วิธีแปรงขนให้กับสุนัข

วิธีแปรงขนให้กับสุนัขแต่ละชนิด

สุนัขขนสั้น

สำหรับการแปรงขนให้กับสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น อุปกรณ์ที่จะใช้ก็จะมี

  • แปรงสลิดเกอร์
  • แปรงขนหมู
  • หวีตรง

โดยเริ่มแรกให้คุณใช้แปรงสลิดเกอร์ หวีขนให้กับสุนัขของคุณอย่างเบาๆ ก่อน แปรงสลิดเกอร์จะช่วยขจัดขนที่หลุดร่วงตามตัวของสุนัขให้ออกไปได้ โดยให้คุณค่อยๆ ไล่หวีตั้งแต่ช่วงคอจนถึงลำตัว

และต่อมาให้คุณใช้แปรงขนหมู แปรงลงตรงบริเวณส่วนที่มีขนยาวๆ อย่างเช่น ส่วนหาง  แปรงขนหมูจะคอยทำหน้าที่ ช่วยคลายขนตรงบริเวณส่วนที่ยาวๆ ของสุนัขไม่ให้พันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้

เสร็จแล้วก็ให้คุณใช้หวีตรงแปรงขนของสุนัขซ้ำอีกทีตลอดทั่วทั้งตัว ก็ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอนการแปรงขนให้กับสุนัขของคุณแล้ว

สุนัขขนสั้นเกรียน

อุปกรณ์ที่ใช้ในการหวีขนให้กับสุนัขที่มีขนสั้นเกรียนนั้นก็จะมี

  • แปรงหมุด
  • แปรงขนหมู
  • หนังชามัวร์

โดยเริ่มจากให้คุณใช้แปรงหมุด ไล่แปรงย้อนขนของสุนัขไปเรื่อยๆ แปรงหมุดจะช่วยเอาขนที่หลุดร่วงตามตัวของสุนัขออกไปได้

อีกทั้งแปรงหมุดยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันขึ้นมา ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะช่วยให้ผิวหนังของสุนัขมีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ

เสร็จแล้วก็ให้คุณใช้แปรงขนหมู แปรงขนของสุนัขตลอดทั่วทั้งตัวเลย แปรงขนหมูจะมีส่วนช่วยกำจัดขนที่ตาย รวมถึงสะเก็ดต่างๆ ที่เกาะติดอยู่ตามตัวของสุนัข ให้ออกไปจากร่างกายของสุนัขได้

เสร็จแล้วให้คุณใช้หนังชามัวร์ เช็คขนของสุนัขซ้ำอีกทีตลอดทั่วทั้งตัวเลย หนังชามัวร์จะมีส่วนช่วยทำให้ขนของสุนัขมันเงามากยิ่งขึ้น

สุนัขขนยาว

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการแปรงขนให้กับสุนัขขนยาวนั้นก็จะมี

  • แปรงสลิดเกอร์
  • แปรงขนหมู
  • หวีตรง

โดยเริ่มแรกให้คุณใช้แปรงสลิดเกอร์ค่อยๆ หวีขนของสุนัขอย่างนุ่มนวล เพื่อให้ขนของสุนัขคลายตัวออกมาก่อน

ในขั้นตอนนี้ห้ามคุณหวีขนอย่างรุนแรงโดยเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้สุนัขของคุณรู้สึกเจ็บ และทำให้เกิดบาดแผลที่บริเวณผิวหนังของสุนัขขึ้นมาได้

เสร็จแล้วก็ให้คุณใช้แปรงขนหมู แปรงขนของสุนัขอย่างเบาๆ ซ้ำอีกทีตลอดทั่วทั้งตัวเลย แปรงขนหมู (Bristle Brush) จะมีส่วนช่วยทำให้ขนของสุนัขเงางามมากยิ่งขึ้น

มาที่ขั้นตอนสุดท้ายให้คุณใช้หวีตรง ค่อยๆ ไล่หวีตามลำตัวของสุนัข โดยให้คุณไล่ตั้งแต่ช่วงลำตัวด้านซ้าย ลำตัวด้านขวา และค่อยๆ หวีไล่ไปตามส่วนหางและขาของสุนัข ก็ถือว่าเป็นการสิ้นเสร็จขั้นตอนการแปรงขนให้กับสุนัขของคุณแล้ว