บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำคุณผู้อ่านถึงวิธีดูแลผิวหนังของสุนัขแต่ละประเภทอย่างเช่น
- สุนัขสายพันธุ์ขนยาว
- สุนัขที่มีขนสีขาวทั่วทั้งตัว
- สุนัขสายพันธุ์ที่มีผิวหนังย่น
- สุนัขไร้ขน
สำหรับคุณผู้อ่านคนไหนที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้อยู่ คุณสามารถนำวิธีดูแลเหล่านี้ไปปรับใช้กับสุนัขของคุณได้ เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
วิธีดูแลผิวหนังของสุนัขแต่ละประเภท
1.สุนัขสายพันธุ์ขนยาวที่ไม่ค่อยพลัดขน
สำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนยาวที่ไม่ค่อยพลัดขนนั้น จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติอย่างเช่น
- สุนัขชิสุ
- ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
- เบียร์ด คอลลี่
- มอลทีส
ถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้อยู่ คุณควรคอยแปรงขนให้กับพวกมันอยู่เป็นประจำสัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้ง และถ้าขนของสุนัขยาวจนเกินไป คุณควรพาสุนัขไปตัดขนบ้าง
รวมถึงคุณจำเป็นต้องใช้แชมพูสูตรถนอมผิวในการอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณเดือนละประมาณ 2 – 3 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็เป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคผิวหนังของสุนัขลงได้แล้ว
2. สุนัขที่มีขนสีขาวทั่วทั้งตัว
โดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่มีขนสีขาวทั่วทั้งตัวนั้น จะมีสุขภาพผิวหนังที่บอบบางและแพ้ได้ง่ายเป็นอย่างมาก สำหรับสุนัขที่มีขนสีขาวทั่วทั้งตัวนั้นก็อย่างเช่น
- มอลทีส
- บิชอง ฟริเซ่
- ปอมเมอเรเนียน
- ไซบีเรียนฮัสกี้
รวมถึงคุณสามารถตรวจสอบได้ว่าสุนัขของคุณเป็นสุนัขที่มีผิวหนังแพ้ได้ง่ายหรือไม่ โดยให้คุณพาสุนัขของคุณไปวิ่งเล่นกลางแดดดูเป็นเวลาประมาณ 5 – 10 นาที (ห้ามมากกว่านั้นนะเพราะอาจจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้)
แล้วให้คุณลองสำรวจผิวหนังของสุนัขดูว่า มีริ้วสีแดงๆ ขึ้นตามตัวหรือไม่ ถ้ามีนั้นแสดงว่าสุนัขของคุณมีผิวหนังที่บอบบางอย่างมาก คุณไม่ควรพาสุนัขของคุณออกไปเดิน ในช่วงที่มีแสงนอกที่ร้อนจัดโดยเด็ดขาด
รวมถึงให้คุณใช้แชมพูสูตรถนอมผิวสำหรับสุนัขขนสีขาวโดยเฉพาะ ในการอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณ การทำแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นโรคผิวหนังให้กับสุนัขของคุณได้
3. สุนัขที่มีหน้าย่นและมีผิวหนังย่น
สุนัขสายพันธุ์หน้าย่นและมีผัวหนังย่นอย่างเช่น
- สุนัขปั๊ก
- เชาเชา
- อิงลิช บูลด็อก
- เฟรนช์บูลด็อก
สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้จะมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติ เพราะชั้นผิวหนังที่ย่นของพวกมัน จะเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลย
ดังนั้นถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้อยู่ คุณควรหมั่นทำความสะอาดผิวหนังของสุนัขอยู่เป็นประจำอย่างเช่น คุณอาจจะหาพวกผ้าชุบน้ำหรือสำลีชุบน้ำ
มาเช็คตามรอยย่นบนผิวหนังของสุนัข รวมถึงให้คุณคอยเช็คทำความสะอาดที่บริเวณร่องแก้มของสุนัขอยู่เป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็เป็นการแก้ปัญหาโรคผิวหนังของสุนัขหน้าย่นได้แล้ว
4. สุนัขไร้ขน
สุนัขไร้ขนนั้นจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกันเอง สำหรับสุนัขไร้ขนนั้นก็ได้แก่
- สุนัขโซล
- ไชนีส เครสเต็ด
- เปรูเวียน แฮร์เลสส ด็อก
ด้วยความที่ว่าสุนัขเหล่านี้เป็นสุนัขที่ไม่มีขนเลย จึงทำให้พวกมันไม่มีเกราะป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เข้ามาทำร้ายผิวหนังของพวกมันเลย
ดังนั้นถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ที่ไร้ขนอยู่ คุณควรหมั่นอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณ ด้วยแชมพูสูตรป้องกันโรคผิวหนังอยู่เป็นประจำ เดือนละประมาณ 2 ครั้ง
รวมถึงคุณควรหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณไปเข้าวิ่งเล่นตามพื้นที่ที่มีความสกปรกสูงอย่างเช่น ตามดินโคลน หรือตามพงหญ้าเป็นต้น