บทนำ
มะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma ในสุนัข เป็นเนื้อร้ายชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นตรงบริเวณเยื่อบุผิวตับของสุนัข โดยเนื้องอกร้ายชนิดนี้จะถูกปะปนอยู่ในเนื้องอกชนิดดีที่ตับของสุนัข
โดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่เข้าสู่วัยชรา หรือสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งตับชนิดนี้ได้ง่ายกว่าปกติ
รวมถึงสุนัขตัวผู้จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้มากกว่าสุนัขตัวเมียถึง 2 – 3 เท่าด้วยกัน
เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma จะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขจะมีอาการเซื่องซึม และอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด
- น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหาร
- สุนัขจะทานน้ำตลอดทั้งวัน และมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
- ตับของสุนัขจะขยายตัวขึ้นมากกว่าปกติรวมถึงจะมีเลือดออกภายในช่องท้องของสุนัขอีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นมะเร็งชนิดนี้
- สุนัขได้รับสารพิษบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย
- สุนัขได้รับสารเคมีบางประเภทจนทำให้ตับของสุนัขเกิดการเป็นพิษขึ้นมา
- เซลล์เยื่อบุในตับของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้น จนเป็นเหตุทำให้มีเนื้องอกเกิดขึ้นที่เยื่อบุในตับของสุนัข
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงประวัติสุขภาพของสุนัขอย่างเบื้องต้นว่า สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหน้านั้นหรือเปล่า สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะให้กับสุนัข เพื่อดูว่าในตอนนี้ร่างกายของสุนัขเป็นอย่างไร มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาหรือเปล่า
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการถ่ายภาพรังสีไปที่บริเวณช่องท้องของสุนัข รวมถึงจะทำการถ่ายภาพรังสีไปที่บริเวณช่องอกของสุนัข
- เพื่อดูว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นที่บริเวณช่องอก หรือช่องท้องของสุนัขหรือเปล่า ถ้าตรวจพบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้น ทางสัตวแพทย์จะดูไปอีกว่า เนื้องอกดังกล่าวได้แพร่กระจายตัวไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายของสุนัขแล้วหรือยัง
- สุดท้ายทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างบางส่วนของเนื้องอกออกมา เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องปฏิบัติการอีกทีหนึ่ง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะทำการผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกที่ตรวจพบออกมาจากร่างกายของสุนัข
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าก้อนเนื้องอกนั้น มีการแตกตัวออกมาจนมีเลือดออกภายในร่างกายของสุนัข ก็จะทำการถ่ายเลือดให้กับสุนัข ถ้ามาถึงขั้นตอนนี้แล้ว คนที่จะผ่าตัดให้กับสุนัขได้ ต้องเป็นสัตวแพทย์ที่มีความชำนาญในการผ่าตัดโรคมะเร็งตับของสุนัขแต่เพียงเท่านั้น รวมถึงต้องมีใบรับรองในการผ่าตัดอีกด้วย
- ในกรณีที่ทางคลินิค หรือโรงพยาบาลสัตว์ไม่มีสัตว์แพทย์ที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดโดยเฉพาะ ทางคลินิคก็จะทำเรื่องส่งสุนัขไปยังโรงพยาบาลที่มีสัตว์แพทย์ที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดโดยเฉพาะประจำอยู่
- การรักษาโรคมะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma ในสุนัข จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อก้อนเนื้องอกที่เกิดขึ้นเป็นก้อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่ แล้วเป็นแบบนี้การผ่าตัดจะทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก แถมหลังจากที่ทำการผ่าตัดเสร็จ อาการต่างๆ ของสุนัขก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 – 3 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการของสุนัขก็ยังทรงตัวอยู่ดี
- แต่ในกรณีที่เนื้อร้ายได้แพร่กระจายตัวไปทั่วทั้งตับของสุนัขแล้ว ทางสัตวแพทย์จะไม่สามารถใช้วิธีผ่าตัดเอาเนื้องอกออกมาได้เลย เพราะการผ่าตัดจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตับของสุนัขเป็นอย่างมาก
- ถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วทางสัตวแพทย์จะเปลื่ยนไปใช้วิธีรักษาด้วยการเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่อง แต่วิธีเคมีบำบัดนั้นไม่ได้เป็นวิธีที่จะช่วยรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ได้เลย การเคมีบำบัดเป็นแค่เพียงวิธีช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของสุนัขแต่เพียงเท่านั้นเอง
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma ในสุนัข
- ทางการแพทย์ถือว่าเซลล์มะเร็งชนิดนี้ เป็นเซลล์มะเร็งชนิดร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก
- ไม่ว่าจะใช้วิธีการรักษาใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธีผ่าตัดเอาเนื้องอกออกมา หรือการใช้เคมีบำบัดก็ไม่สามารถทำให้สุนัขหายป่วยได้ วิธีเหล่านี้เป็นเพียงวิธีช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของสุนัขแต่เพียงเท่านั้นเอง
- ถึงแม้ว่าสุนัขจะผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกจากร่างกายไปได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานเนื้องอกชนิดนี้ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นกับตับของสุนัขได้อีกเป็นครั้งที่สอง
- จากสถิติที่ตรวจพบเจอ ถ้าสุนัขเกิดป่วยเป็นโรคนี้ ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม สุนัขจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่ถึง 1 ปีดังนั้น ขอให้ทางเจ้าของสุนัขทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ให้คุณใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่กับสุนัขของคุณให้ดีที่สุด