บทนำ
ทางการแพทย์ถือว่าโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขเป็นโรคที่ร้ายแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก สุนัขตัวไหนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้สูงเป็นอย่างมาก
โดยเมื่อพยาธิหนอนหัวใจได้เข้าสู่ร่างกายของสุนัขแล้ว พยาธิชนิดนี้มักจะะเข้าไปอาศัยอยู่รวมกัน ภายในปอดกับหัวใจของสุนัข
และเมื่อพยาธิหนอนหัวใจเจริญเติบโตจนเต็มวัยแล้วพวกมันจะค่อยๆ ทำร้ายร่างกายของสุนัข จนทำให้สุนัขเกิดป่วยเป็นภาวะต่างๆ ขึ้นมาได้
เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขจะมีอาการไอแห้งอยู่ตลอดเวลารวมถึงจะมีเลือดออกมาหลังจากที่สุนัขไออีกด้วย
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหารไม่อยากทานอะไรทั้งนั้น
- สุนัขจะมีอาการเหนื่อยหอบได้ง่ายกว่าปกติ
- สุนัขจะมีภาวะดีซ่าน หรือตัวเป็นสีเหลืองจากอาการตับแข็ง
- สุนัขจะทานน้ำ และปัสสาวะมากกว่าปกติ
- ในกรณีที่สุนัขป่วยเป็นโรคนี้หนักๆ เข้า หรือมีพยาธิหนอนหัวใจเข้าไปอยู่ภายในร่างกายของสุนัขเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะส่งผลทำให้สุนัขมีอาการหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตลงได้
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจ
โรคนี้ยุงจะเป็นพาหนะนำโรคนี้มาสู่สุนัข สุนัขจะติดโรคนี้ได้ต่อเมื่อ สุนัขถูกยุงที่มีพยาธิหนอนหัวใจอาศัยอยู่ในร่างกายกัดเอา มันจะทำให้พยาธิหนอนหัวใจ เข้าสู่ร่างกายของสุนัขผ่านทางปากของยุงได้
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์ก็จะทำการตรวจสอบร่างกายของสุนัขอย่างละเอียด เพื่อประเมินถึงความรุนแรงของโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขว่าอยู่ในระดับไหนกันแน่น
- โดยทั่วไปแล้วทางสัตวแพทย์จะแบ่งระดับความรุนแรงของโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขอยู่ในระดับที่ 1 การรักษาก็จะทำได้อย่างง่ายดาย สุนัขจะมีโอกาสกลับมาหายเป็นปกติได้อีกครั้ง
- แต่ในกรณีที่ตรวจพบว่าโรคพยาธิหัวใจของสุนัขอยู่ในระดับที่ 4 แล้ว ระดับนี้เป็นระดับที่อันตรายต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ทางสัตวแพทย์จะระมัดระวังในการผ่าตัดเอาพยาธิหนอนหัวใจ ออกมาจากร่างกายของสุนัข
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
ในกรณีที่รักษาด้วยตัวยา
- การรักษาด้วยยานั้น สามารถทำได้ต่อเมื่อสุนัขมีระดับความรุนแรงของโรคพยาธิหนอนหัวใจ ในระดับ 1 – 2 แต่เพียงเท่านั้น
- ก่อนที่ทางสัตวแพทย์จะทำการรักษาสุนัขด้วยยา ทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายของสุนัขอย่างละเอียดก่อน เพื่อดูว่าตัวยาที่จะใช้นั้น มีผลข้างเคียงใดๆ กับปอด และหัวใจของสุนัขอยู่หรือเปล่า
- ถ้าหลังจากตรวจร่างกายของสุนัขแล้ว ทางสัตวแพทย์ไม่พบอะไร ก็จะเริ่มทำการรักษาสุนัขด้วยยาสำหรับกำจัดพยาธิหนอนหัวใจโดยเฉพาะ
- ถ้าการรักษาผ่านไปได้ด้วยดี อาการต่างๆ ของสุนัขจะเริ่มดีขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 – 4 เดือน
- ในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นตัวอยู่นั้น คุณต้องงดกิจกรรมทุกอย่าง ที่ทำให้สุนัขต้องขยับร่างกายไปมาอย่างเช่น การออกกำลังกายเป็นต้น
- เพราะมันจะส่งผลทำให้พยาธิหนอนหัวใจที่ตายอยู่ภายในหัวใจของสุนัข ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปสู่ยังปอดของสุนัขได้รวดเร็ว จนเป็นเหตุทำให้สุนัขหายใจได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น
ในกรณีของการรักษาด้วยการผ่าตัด
- สำหรับการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจของสุนัขด้วยการผ่าตัดนั้น จะทำต่อเมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจในระดับ 3 – 4
- เมื่อสุนัขป่วยถึงระดับที่ 3 – 4 แล้ว มันจะส่งผลทำให้พยาธิหนอนหัวใจที่อาศัยอยู่ภายในปอด และหัวใจของสุนัข เจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งมันจะทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ และปอดได้ง่ายกว่าปกติ
- เมื่อถึงขั้นนี้แล้วทางสัตวแพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดเอาพยาธิหนอนหัวใจออกมาจากปอดกับหัวใจของสุนัข
- หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ทางสัตวแพทย์จะให้สุนัขอยู่พักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลก่อน จะยังไม่อนุญาตให้สุนัขกลับบ้านได้ เพื่อจะได้เฝ้าดูอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด
- และเมื่ออาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์ถึงจะอนุญาตให้สุนัขกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ รวมถึงจะแนะนำวิธีดูแลสุนัขของคุณ ในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่
วิธีป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข
สำหรับวิธีป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขนั้น คุณสามารถทำได้โดยการ พาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ เมื่อสุนัขของคุณมีอายุครบ 2 – 3 เดือน
และให้คุณพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนชนิดนี้ซ้ำอีกครั้งในปีต่อๆ ไป ปีละหนึ่งเข็ม เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัขได้แล้ว