บทนำ
โรคหัวใจในสุนัขคืออะไร มีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาโรคนี้อย่างไรบ้าง และมีวิธีดูแลสุนัขอย่างไรบ้าง
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
โรคหัวใจในสุนัขคืออะไร
โดยส่วนใหญ่แล้วโรคหัวใจในสุนัขมักจะเกิดกับสุนัขที่ป่วยเป็นโรคอ้วนมากกว่าสุนัขที่มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ทางการแพทย์ได้แบ่งโรคหัวใจของสุนัขออกมาเป็น 2 ประเภทได้แก่
1.โรคหัวใจมาแต่โดยกำเนิด
อย่างเช่น โรคผนังกั้นห้องหัวใจของสุนัขเป็นรู กับโรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติเป็นต้น
2. โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
อย่างเช่น โรคหัวใจโต , ลิ้นหัวใจรั่ว ,เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเป็นต้น โดยส่วนใหญ่โรคนี้มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขวัยชรา กับสุนัขที่ป่วยเป็นโรคอ้วน
ในกรณีที่สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคหัวใจแล้ว คุณไม่ยอมพาสุนัขไปรักษา อาการต่างๆ จะค่อยๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทำให้สุนัขของคุณเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตลงได้
การตรวจหาโรคหัวใจในสุนัข
การตรวจหาโรคหัวใจในสุนัขสามารถทำได้โดยการตรวจเอ็กซ์เรย์ กับตรวจด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ รวมถึงวิธีการตรวจหาต่างๆ อย่างเช่น
- การฟังอัตราการเต้นของหัวใจสุนัข
- การวัดคลื่นหัวใจของสุนัข (ECG)
- รวมถึงการวัดค่าความดันของสุนัขเป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคหัวใจ
- เป็นโรคทางพันธุกรรมของสุนัขมาโดยแต่กำเนิด
- สุนัขป่วยเป็นโรคอ้วน
- สุนัขที่เข้าสู่วัยชรา หรือสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป
- สุนัขออกกำลังกายอย่างหักโหมอยู่เป็นประจำ
- สุนัขถูกใช้แรงงานอย่างหนักจนสภาพร่างกายรับไม่ไหว
- เชื้อแบคทีเรียบางประเภทก็ส่งผลทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคหัวใจได้เหมือนกัน
- สุนัขเพศผู้จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้ง่ายกว่าสุนัขเพศเมีย
- โดยส่วนใหญ่แล้วโรคสิ้นหัวใจรั่วมักจะเกิดกับสุนัขสาพพันธุ์เล็กๆ อย่างเช่น สุนัขพูเดิล กับสุนัขมินิเอเจอร์ พินช์เชอร์ เป็นต้น
- ส่วนโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั้นมักจะเกิดกับสุนัขสายพันธุ์ขนาดใหญ่อย่างเช่น สุนัขโดเบอร์แมน กับสุนัขแลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ เป็นต้น
อาการของโรคหัวใจในสุนัข
- สุนัขจะมีอาการเหนื่อยได้ง่ายกว่าปกติ แค่เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบแล้ว
- เหงือกของสุนัขเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีเขียว
- สุนัขมีอาการไอแห้งอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
- สุนัขมีอาการหายใจลำบาก หรือหายใจติดขัด
- ท้องของสุนัขจะบวมโตจนผิดสังเกต
- อุ้มเท้าทั้งสี่ข้างของสุนัขจะบวมโตขึ้นมากกว่าปกติ
- ถ้าคุณลองเอามือของคุณไปแตะที่หัวใจของสุนัข หรือตรงบริเวณหน้าอกของสุนัข คุณจะรู้สึกว่าหัวใจของสุนัขนั้นเต้นแรงและเร็วเป็นอย่างมาก
ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณเข้าพบสัตวแพทย์โดยทันที เพราะสุนัขของคุณอาจจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้
วิธีรักษาโรคหัวใจในสุนัข
วิธีรักษาโรคหัวใจในสุนัขมักจะใช้วิธีการผ่าตัดคู่ควบกับการให้ยาบรรเทาอาการต่างๆ โดยหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการผ่าตัด ทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลสุนัขดังต่อไปนี้
- ให้สุนัขของคุณทานยาที่ทางสัตวแพทย์ให้มา ให้ครบตามที่ทางสัตวแพทย์ได้กำหนดไว้ทุกครั้ง
- ให้สุนัขของคุณทานแต่เมนูอาหารที่ทางสัตวแพทย์แนะนำ ห้ามทานอาหารประเภทอื่นโดยเด็ดขาด
- สำหรับการออกกำลังกายต้องเป็นการออกกำลังกายอย่างง่ายๆ อย่างเช่น การพาสุนัขของคุณไปเดินเล่นบริเวณรอบๆ ตัวบ้านของคุณ ห้ามสุนัขของคุณออกกำลังกายอย่างหักโหมโดยเด็ดขาด
- คุณต้องคอยควบคุมน้ำหนักของสุนัข อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคอ้วนโดยเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้โรคหัวใจของสุนัขกลับมากําเริบได้อีก
- คุณต้องพาสุนัขของคุณกลับเข้าพบตามที่ทางสัตวแพทย์ได้นัดไว้ เพื่อจะได้ติดตามผลของอาการต่างๆ ว่าหลังจากที่ทำการผ่าตัดไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขดีขึ้นแล้วหรือยัง