บทนำ
อาการแพ้น้ำลายหมัดจนทำให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ในสุนัข เป็นโรคที่เกิดได้กับสุนัขทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงทุกสายพันธุ์
และนอกจากนี้โรคดังกล่าวยังเป็นโรคที่แพร่กระจายตัวไปยังผิวหนังของสุนัขได้รวดเร็วอีกด้วย
เพราะตามธรรมชาติของตัวหมัด เมื่อพวกมันกัดผิวหนังของสุนัขเสร็จแล้ว พวกมันก็จะเริ่มค่อยๆ วางไข่ตามตัวของสุนัขไปเรื่อยๆ
ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการผื่นภูมิแพ้จากน้ำลายหมัด แล้วคุณไม่ยอมพาสุนัขของคุณไปรักษา จำนวนหมัดบนตัวของสุนัขก็จะค่อยๆ เพิ่มจำนวนตัวไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งตัวของสุนัขเลย
เมื่อสุนัขมีอาการแพ้น้ำลายหมัดจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- จะมีผื่นคันสีแดงเกิดขึ้นตามตัวของสุนัข
- สุนัขจะรู้สึกคันตรงบริเวณที่มีผื่นสีแดงๆ เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
- สุนัขจะมีพฤติกรรมยกขาขึ้นมาเกาขนอยู่เป็นประจำ
- ขนของสุนัขจะร่วงหลุดตามจุดที่ตัวหมัดกัดเอ
- ผิวหนังตรงบริเวณที่สุนัขเกิดอาการแพ้ จะมีลักษณะเป็นขุยๆ
- จะมีก้อนสีดำๆ อยู่ตามตัวของสุนัข ซึ่งก้อนสีดำนั้นก็คือ อุจจาระของหมัดนั้นเอง
วิธีตรวจดูว่าบนร่างกายของสุนัขมีหมัดอยู่หรือไม่
คุณสามารถตรวจดูได้ว่าบนร่างกายของสุนัขมีตัวหมัดอยู่หรือไม่ โดยการใช้หวีสางขนหวีตามตัวของสุนัข
เพื่อดูว่ามีตัวหมัด หรืออุจจาระของหมัดติดขึ้นมากับหวีสางขนหรือไม่
ถ้ามีนั้นแสดงว่าสุนัขของคุณกำลังติดหมัดอยู่ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณ ไปเรักษากับทางสัตวแพทย์โดยทันที
วิธีกำจัดหมัดบนตัวของสุนัข
สำหรับวิธีรักษาโรคนี้ในสุนัขนั้น คุณสามารถทำได้อย่างง่ายๆ ด้วยกัน 2 วิธีได้แก่
1. ใช้ยากําจัดเห็บหมัดแบบหยดกับสุนัขของคุณ
คุณสามารถใช้ยากําจัดเห็บหมัดแบบหยด ด้วยการหยดหลังสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ หรือประมาณ 3 – 4 เดือนต่อครั้ง
ยากำจัดเห็บชนิดนี้จะค่อยๆ เข้าไปซึมผ่านผิวหนังของสุนัข และเมื่อตัวหมัดได้ทำการกัดดูดเลือดของสุนัข พวกตัวหมัดก็จะได้รับพิษจากตัวยา จนทำให้ตัวหมัดเสียชีวิตลงได้
แต่ยาชนิดนี้จะค่อนข้างรุนแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะใช้ยาชนิดนี้กับสุนัขของคุณ คุณต้องโทรไปขอคำแนะนำกับทางสัตวแพทย์ก่อนว่า สุนัขของคุณสามารถใช้ยาชนิดนี้ได้หรือไม่
2. พาสุนัขไปรักษากับทางสัตวแพทย์
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณสามารถกำจัดเห็บหมัดบนร่างกายของสุนัขได้ โดยการให้คุณพาสุนัขของคุณเข้ารับการฉีดกำจัดเห็บหมัดกับทางสัตวแพทย์
หรือคุณอาจจะให้ทางสัตวแพทย์ใช้ยาหยอดกําจัดเห็บหมัด กับสุนัขของคุณก็ได้เหมือนกัน โดยก่อนที่ทางสัตวแพทย์จะใช้ยาชนิดนี้ ทางสัตวแพทย์จะดูก่อนว่า สุนัขของคุณสามารถใช้ยาชนิดนี้ได้หรือเปล่า
และหลังจากรักษาอาการเห็บหมัดของสุนัขแล้ว ทางสัตวแพทย์จะให้แชมพูสำหรับป้องกันเห็บหมัด มาให้สุนัขของคุณได้อาบน้ำอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณมีเห็บหมัดได้อีกเป็นครั้งที่สอง
วิธีป้องกันหมัดในสุนัข
และเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเห็บและหมัดอีก รวมถึงยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคโรคผื่นภูมิแพ้หมัด ได้อีกเป็นครั้งที่สอง คุณควรทำตามคำแนะนำต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ให้คุณหมั่นทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้าวของเครื่องใช้ที่สุนัขของคุณใช้อยู่เป็นประจำ อย่างเช่น พวกที่นอน ของเล่นสุนัข จานชามให้อาหารสุนัข อยู่เป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็ถือว่า เป็นการป้องกันหมัดให้กับสุนัขของคุณอย่างเบื้องต้นแล้ว
- ในช่วงหน้าฝนซึ่งเป็นช่วงที่ตัวหมัดแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ในช่วงนี้คุณต้องยิ่งทำความสะอาดให้บ้านของคุณมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะจุดมุมอับตามที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ จุดเหล่านี้จะเป็นจุดที่หมัดชอบเข้าไปอยู่รวมตัวกันเป็นอย่างมาก
- แต่ถ้าสุนัขของคุณมีอาการแพ้หมัดอย่างรุนแรง รวมถึงมีตัวหมัดเข้าไปอาศัยอยู่บนร่างกายของสุนัขเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นแบบนี้ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณเข้าพบกับทางสัตวแพทย์โดยทันที เพื่อที่จะให้ทางสัตวแพทย์ทำการรักษา ด้วยยาปฏิชีวนะประเภทต่างๆ ที่มีส่วนช่วยลดอาการแพ้น้ำลายหมัดของสุนัขลงได้