บทนำ
สมองอักเสบในสุนัข หรือ encephalitis ในสุนัขเป็นอาการที่เยื่อหุ้มสมองของสุนัขเกิดการอักเสบ หรือบางทีอาการอักเสบเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นที่ไขสันหลังของสุนัข
โดยอาการสมองอักเสบเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เยอรมันพอยน์เตอร์ขนสั้น (German Shorthaired Pointer)
- มอลทีส (Maltese)
- ยอร์กเชอร์เทร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)
อาการของสมองอักเสบในสุนัข
เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคสมองอักเสบจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ตัวร้อนมีไข้ขึ้นสูง
- มีอาการซึมและเบื่ออาหาร
- ใบหน้าของสุนัขจะเกิดการเป็นอัมพาต และมีอาการชักตามมา
- พฤติกรรมการเดินของสุนัขจะเปลื่ยนไปจากการเดินตรงๆ กลายเป็นการเดินวนไปวนมา
- สุนัขจะตอบสนองต่อเสียงเรียกของคุณน้อยลง หรือบางทีพวกมันอาจจะไม่รู้เลยว่าคุณกำลังเรียกชื่อของพวกมันอยู่
- รูม่านตาของสุนัขจะมีขนาดเล็กลง หรือหดตัวลง ในช่วงนี้ถ้าคุณลองมองเข้าไปที่ดวงตาของสุนัขดีๆ คุณจะพบว่ารูม่านตาทั้งสองข้างของสุนัขจะไม่เท่ากันดี
- หัวของสุนัขจะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคสมองอักเสบ
- เกิดจากภาวะแทรกซ้อนหลังจากการฉีดวัคซีนโรคต่างๆ
- สุนัขติดเชื้อไวรัสบางประเภทอย่างไวรัสโรคหัด หรือไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า
- สุนัขติดเชื้อรารวมถึงเชื้อแบคทีเรียบางประเภท
- สุนัขติดเชื้อปรสิตบางประเภทอย่าง Rocky Mountain spotted fever กับ ehrlichiosis เป็นต้น
- มีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างเข้าไปอุดตันในร่างกายของสุนัข จนทำให้สมองของสุนัขเกิดการอักเสบ
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- สิ่งแรกที่ทางสัตวแพทย์จะทำหลังจากที่คุณพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์ก็คือ ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการต่างๆ ของสุนัขจากคุณว่า อาการเหล่านี้เกิดขึ้นมานานแล้วหรือยัง สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรก่อนมาหน้านั้นอยู่หรือเปล่า ในขั้นตอนนี้ถ้าคุณให้ข้อมูลกับทางสัตวแพทย์อย่างครบถ้วนก็จะทำให้ขั้นตอนการวินิจฉัยทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
- หลังจากการสอบถามประวัติเบื้องต้นเสร็จแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจหาค่าทางชีวเคมีในร่างกายของสุนัข ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเลือด เพื่อนับค่าของเม็ดเลือดแดง รวมถึงตรวจค่าปัสสาวะ
- การตรวจหาค่าทั้งสองตัวนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายของสุนัขมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นมาบ้าง
- ในกรณีที่ทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่า ค่าของเม็ดเลือดขาวในสุนัขขึ้นสูงเป็นอย่างมาก นั้นแสดงว่าสุนัขอาจจะกำลังติดเชื้อบางอย่างอยู่
- แต่ในกรณีที่ตรวจพบว่าค่าเม็ดเลือดขาวของสุนัขลดต่ำลง นั้นแสดงว่าสุนัขอาจจะกำลังติดเชื้อไวรัสอยู่ก็เป็นต้น
- เพื่อให้ขั้นตอนการวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้นทางสัตวแพทย์จะใช้วิธี การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) กับการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่าสมองของสุนัขมีการอักเสบใดๆ เกิดขึ้นมาเปล่า สมองของสุนัขยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือไม่
- รวมถึงทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างจากน้ำไขสันหลังของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องแล็บอีกทีหนึ่ง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- โดยหลักๆ แล้วการรักษาโรคสมองอักเสบในสุนัข ทางสัตวแพทย์จะเน้นรักษาไปที่การช่วยลดการอักเสบของสมองสุนัข
- ถ้าทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่าสมองของสุนัขมีอาการบวม และมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง รวมถึงสุนัขมีอาการชักร่วมด้วย ทางสัตวแพทย์จะถือว่าเคสนี้เป็นเคสที่ฉุกเฉิน ต้องคอยเฝ้าระวังอาการของสุนัขอยากใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องให้สุนัขได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน จะยังไม่อนุญาตให้สุนัขกลับบ้านได้
- ในกรณีที่พบว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นที่บริเวณส่วนสมองและกระดูกไขสันหลังของสุนัข ทางสัตวแพทย์จะทำการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับฆ่าเชื้อต่างๆ เข้าไปยังบริเวณส่วนสมองและส่วนไขสันหลังของสุนัข
- หลังจากรักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะทำการปรับเปลื่ยนเมนูอาหารของสุนัขให้เป็นเมนูอาหารชนิดนี้ โดยทางสัตวแพทย์จะเน้นไปที่อาหารที่มีประโยชน์ และยังมีส่วนช่วยบำรุงสมองของสุนัขอีกด้วย เพื่อให้ร่างกายของสุนัขสามารถฟื้นฟูได้เร็วมากยิ่งขึ้น
- โดยส่วนใหญ่โรคสมองอักเสบในสุนัข หลังจากที่ได้รับการรักษาไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขก็จะเริ่มค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 – 2 เดือน
- ในช่วงแรกๆ หลังจากการรักษาทางสัตวแพทย์จะนัดให้สุนัขของคุณ กลับเข้ามาพบอยู่เป็นประจำ เพื่อตรวจดูว่าอาการต่างๆ ของสุนัขดีขึ้นแล้วหรือยัง