บทนำ
ถุงน้ำดีของสุนัขเป็นถุงที่อยู่ใกล้ๆ กับตับของสุนัข หน้าที่ของถุงน้ำดีจะช่วยกักเก็บน้ำดีในร่างกายของสุนัข และเมื่อสุนัขทานอาหารเข้าสู่ร่างกาย น้ำดีจะคอยทำหน้าที่ย่อยอาหารให้กับสุนัข
สาเหตุที่ทำให้ถุงน้ำดีของสุนัขเกิดการอักเสบนั้น เกิดจากมีก้อนนิ่วเกิดขึ้นภายในถุงน้ำดีของสุนัข ซึ่งมันจะส่งผลทำให้สุนัขมีภาวะดีซ่าน หรือตัวเหลือง
และนอกจากอาการตัวเหลืองแล้ว สุนัขยังมีอาการตัวร้อนเป็นไข้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย อ่อนแรง ได้อีกด้วย
โรคถุงน้ำดีอักเสบในสุนัขสามารถเกิดขึ้นได้กับสุนัขทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงสุนัขทุกสายพันธุ์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดกับสุนัขวัยชรา หรือสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
เมื่อถุงน้ำดีของสุนัขเกิดการอักเสบจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหาร
- สุนัขจะตัวร้อนมีไข้ขึ้นสูง
- สุนัขจะมีอาการอาเจียน อ่อนเพลีย อ่อนแรง
- สุนัขจะรู้สึกปวดท้อง
- สุนัขจะมีภาวะดีซ่าน หรือมีอาการตัวเหลือง
- เหงือกและตาของสุนัขจะเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีเหลือง
- ในกรณีขั้นร้ายแรงอาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการช็อกและหมดสติลงได้
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคถุงน้ำดีอักเสบ
- เส้นเลือดภายในถุงน้ำดีของสุนัขมีการหดตัวเกิดขึ้น
- มีความผิดปกติเกิดขึ้นในลำไส้ของสุนัข
- สุนัขติดเชื้อแบคทีเรียบางประเภทอย่างเช่น เชื้อแบคทีเรีย e.coli Emphysematous cholecystitis เป็นต้น
- สุนัขที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้สูงเป็นอย่างมาก
- สุนัขติดเชื้อปรสิตบางประเภท
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามกับคุณว่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่าภายในร่างกายของสุนัขมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจส่วนต่างๆ ของร่างกายสุนัขเพื่อดูว่า สุนัขกำลังป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ ,เยื้อบุช่องท้องอักเสบ ,เยื้อบุท่อน้ำดีอักเสบ อยู่หรือเปล่า
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเอกซเรย์ (X-Ray) ไปที่ช่องท้องของสุนัข เพื่อดูว่างน้ำดีของสุนัขเป็นอย่างไร ยังทำงานเป็นปกติดีอยู่หรือไม่ มีก้อนนิ่วเกิดขึ้นภายในถุงน้ำดีของสุนัขหรือไม่
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
ทางสัตวแพทย์จะทำการรักษาไปตามอาการต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจออย่างเช่น
- ถ้าพบว่ามีนิ่วเกิดขึ้นภายในถุงน้ำดีของสุนัข ก็จะให้ยาสลายนิ่วกับสุนัข
- ถ้าพบว่าสุนัขมีภาวะขาดน้ำจากการอาเจียนอย่างรุนแรง ก็จะให้สารน้ำและอิเล็คโทรไลท์กับสุนัข เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปจากร่างกายของสุนัข
- ถ้าพบว่าตับและถุงน้ำดีของสุนัขได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ก็จะใช้วิธีการผ่าตัดเข้ามาช่วยในการรักษา
- เมื่อรักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลสุนัขในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่ว่าควรดูแลอย่างไร ให้สุนัขทานอะไรบ้าง มีข้อควรระวังอะไรไหม
- รวมถึงทางสัตวแพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะสำหรับช่วยบรรเทาอาการต่างๆ มาให้สุนัขทาน ในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่
- ก่อนจะให้สุนัขกลับมา ทางสัตวแพทย์จะนัดให้สุนัขกลับเข้ามาพบอีกประมาณ 2 – 3 ครั้ง เพื่อติดตามผลของการรักษา ว่าหลังจากที่รักษาไปแล้วอาการต่างๆ ของสุนัขดีขึ้นหรือไม่