มะเร็งในช่องปากของสุนัขคืออะไร
โดยส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกชนิดนี้มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณเพดานปากของสุนัข รวมถึงบริเวณรอบๆ ฟันบนของสุนัข เนื้อร้ายชนิดนี้จัดว่าเป็นเนื้อร้ายที่แพร่พันธุ์ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก
มะเร็งชนิดนี้จะเกิดขึ้นที่บริเวณช่องปากของสุนัข แล้วจะค่อยๆ แพร่กระจายตัวไปยังกระดูกและเนื้อเยื่อส่วนที่ใกล้ข้างเคียงกับช่องปากของสุนัข และต่อจากนั้นเนื้องอกชนิดนี้ก็จะค่อยๆ แพร่กระจายตัวไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายสุนัขอย่างรวดเร็ว
ทางการแพทย์จัดว่ามะเร็งชนิดนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัขขั้นสูงสุดเลย แถมยังเป็นมะเร็งเนื้อร้ายที่ยากต่อการรักษาเป็นอย่างมาก
โดยส่วนใหญ่แล้วมะเร็งในช่องปากมักจะพบได้กับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่อย่างเช่น สุนัขโกลเด้น ,สุนัขไซบีเรียนเป็นต้น รวมถึงเนื้อร้ายชนิดนี้ยังพบได้ในสุนัขวัยชราอีกด้วย
เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งในช่องปากจะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว
- ใบหน้าของสุนัขจะมีอาการบวมโตเกิดขึ้นที่บริเวณส่วนใกล้ๆ ลูกตาของสุนัขอ
- สุนัขจะมีอาการฟันร่วงจนหมดปาก
- มีเลือดไหลออกมาจากปากของสุนัข และถ้าคุณลองเปิดปากของสุนัขดู คุณจะพบก้อนเนื้ออยู่ภายในช่องปากของสุนัข
- ลมหายใจของสุนัขจะมีกลิ่นเหม็นมากขึ้นจนคุณรู้สึกได้
- มีน้ำลายไหลออกมาจากปากมากกว่าปกติ
- การเคี้ยวอาหารของสุนัขจะเป็นไปได้อย่างยากลำบาก
- จะมีอาการต่อมน้ำหลืองโตขึ้นที่บริเวณช่วงคอของสุนัข ซึ่งต่อมน้ำเหลืองจะขยายตัวใหญ่มากจนคุณสังเกตได้
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งช่องปาก
- ในปัจจุบันทางการแพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุดังกล่าวนั้นเกิดจากสาเหตุใดกันแน่น
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการป่วยของสุนัข ว่าอาการป่วยของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง สุนัขป่วยเป็นอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- หลังจากสอบถามอาการเบื้องต้นเสร็จ ทางสัตวแพทย์ก็จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัขเพื่อดูค่าการทำงานต่างๆ ของอวัยวะภายในร่างกายสุนัข
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายของสุนัขอย่างละเอียด โดยจะเน้นไปที่ช่องปากของสุนัข
- ในกรณีที่ทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่บริเวณช่องปากของสุนัข ทางสัตวแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบางส่วนของก้อนเนื้อออกมา เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง ว่าก้อนเนื้อชนิดนั้นเป็นก้อนเนื้อเซลล์มะเร็งหรือไม่
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์ก็จะทำการตรวจเอ็กซ์เรย์ไปที่ตรงบริเวณช่องอกของสุนัข การเอ็กซ์เรย์จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่าเซลล์มะเร็งดังกล่าว ได้แพร่กระจายตัวไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายสุนัขถึงไหนแล้ว
- ต่อมาทางสัตวแพทย์ก็จะทำการเอ็กซ์เรย์ไปที่บริเวณส่วนใบหน้าของสุนัข เพื่อดูว่าเซลล์มะเร็งในช่องปากได้แพร่กระจายตัวไปตามบริเวณใกล้เคียงอย่างเช่น กระดูก หรือเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ใบหน้าของสุนัขแล้วหรือยัง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
- ทางการแพทย์ถือว่าเซลล์มะเร็งในช่องปากของสุนัข เป็นเซลล์มะเร็งขั้นร้ายแรงสูงสุด ยากที่จะรักษาด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการผ่าตัด หรือวิธีฉายรังสีก็ตามที
- เมื่อทางสัตวแพทย์ตรวจพบแล้วว่าสุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งช่องปาก ทางสัตวแพทย์ก็จะค่อยๆ ทำการผ่าตัดออกเนื้องอกตรงบริเวณช่องปากออกอย่างระมัดระวัง รวมถึงจะทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกตรงบริเวณส่วนใกล้เคียงอย่างกระดูก กับเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณรอบๆ ช่องปากของสุนัขออก
- แต่ในกรณีที่ตรวจพบว่าเนื้องอกได้แพร่กระจายตัวไปอย่างรวดเร็วมากๆ ทางสัตวแพทย์ก็จำเป็นผ่าตัดบางส่วนของกรามสุนัขออกไปด้วย
- การทำเคมีบำบัดกับการฉายแสงนั้นไม่สามารถรักษามะเร็งชนิดนี้ได้ การเคมีบำบัดและการฉายแสงทำได้แค่เพียงทำให้เซลล์มะเร็งชนิดนี้เจริญเติบโตได้ช้าลง กับช่วยทำให้สุนัขรู้สึกสบายตัวขึ้นแค่นั้นเอง
- หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการผ่าตัด สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณช่องปากเป็นอย่างมากและในกรณีที่ต้องผ่าตัดกรามของสุนัขออกสุนัขตัวนั้นจะมีปัญหาในการเคี้ยวและกลืนอาหารเป็นอย่างมาก
- ดังนั้นหลังจากการผ่าตัดในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นตัวอยู่ คุณจำเป็นต้องนำอาหารของสุนัขไปปั่น หรือบดให้ละเอียดก่อนที่จะให้สุนัขของคุณทานอาหารได้
- ถึงแม้ว่าจะทำการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกไปแล้ว แต่สุนัขของคุณก็ยังสามารถเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้อีก ดังนั้นคุณต้องคอยสังเกตอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดว่าอาการต่างๆ ของสุนัขยังไม่ดีขึ้นเลย คุณควรพาสุนัขของคุณกลับเข้าพบกับสัตวแพทย์โดยทันที