บทนำ
บทความนี้จะมาช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณผู้อ่านฟังว่า สุนัขทานบร็อคโคลี่กับมะเขือเทศได้ไหม จริงอยู่ที่ว่าสุนัขสามารถทานผักกับผลไม้ได้
แต่ก็มีผักกับผลไม้บางชนิดเหมือนกันที่สุนัขไม่สามารถทานได้เลย เรามาดูกันดีกว่าว่าผักและผลไม้ทั้งสองประเภทนี้ สุนัขสามารถทานได้หรือเปล่า
สุนัขทานบร็อคโคลี่กับมะเขือเทศได้ไหม
1.สุนัขกินบร็อคโคลี่ได้หรือเปล่า
บร็อคโคลี่ นั้นเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น
- ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane)
- ไอโซธิโอไซยาเนต (Isothiocyanate)
- อินดอล (indole)
โดยสารอาหารประเภทเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งให้กับคุณได้ รวมถึงภายใน บร็อคโคลี่ ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารคุณภาพสูง ที่มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แต่สำหรับสุนัขแล้วผักบร็อคโคลี่ไม่ใช่ผักที่สุนัขควรจะทานเลย เพราะมันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ในกรณีที่สุนัขทานผักบร็อคโคลี่เข้าไปในปริมาณเยอะๆ
บร็อคโคลี่ ส่งผลอะไรต่อร่างกายของสุนัขบ้าง
คุณต้องเข้าใจก่อนว่าลำไส้ของสุนัขนั้นอ่อนแอกว่าลำไส้ของมนุษย์อย่างพวกเราเป็นอย่างมาก จึงทำให้สารอาหารบางอย่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของพวกเรา
อาจจะส่งผลเสียต่อลำไส้ของสุนัขได้อย่างเช่น สารไอโซธิโอไซยาเนต (Isothiocyanate) ถึงแม้ว่าสารอาหารตัวนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งให้กับคุณได้ แต่สำหรับสุนัขแล้วสารอาหารตัวนี้อาจจะส่งผลทำให้ลำไส้ของสุนัขเกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้
แล้วสุนัขควรทานบร็อคโคลี่ ในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี
ถึงแม้ว่าการให้สุนัขทานบร็อคโคลี่จะส่งผลเสียต่อร่างกายของสุนัข แต่ในกรณีที่สุนัขทานผักบร็อคโคลี่ในปริมาณที่พอดีพอเหมาะ มันจะส่งผลดีต่อร่างกายของสุนัข
สำหรับปริมาณผักบร็อคโคลี่ที่สุนัขควรทานนั้นจะอยู่ที่ปริมาณไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่สุนัขต้องทานในแต่ละวัน
ถ้าคุณให้สุนัขของคุณทานผักบร็อคโคลี่ในปริมาณที่มากกว่านั้น หรือมากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป อาจจะทำให้ลำไส้ของสุนัขเกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้
2. สุนัขสามารถทานมะเขือเทศได้หรือไม่
น่าจะมีหลายคนที่เข้าใจว่ามะเขือเทศนั้นเป็นผักชนิดหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วตามหลักวิทยาศาสตร์มะเขือเทศนั้นถือว่าเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น
สารอาหารไลโคปีน (Lycopene) ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นโรคมะเร็งให้กับคุณได้ รวมถึงพวกวิตามิน A ,B ,C ที่มีส่วนช่วยบำรุงให้ผิวหนังของคุณเปล่งปลั่งและชุ่มชื้นอยู่เสมอ
จริงๆ แล้วสุนัขก็สามารถทานมะเขือเทศได้ แถมมะเขือเทศยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของสุนัขอีกด้วย มะเขือเทศจะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารของสุนัข
อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกระดูกของสุนัขให้แข็งแรง และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจของสุนัขลงได้อีกด้วย
แต่สิ่งที่คุณต้องจำไว้ก็คือ สุนัขของคุณสามารถทานได้แต่มะเขือเทศสุกที่เป็นสีแดงแต่เพียงเท่านั้น ห้ามไม่ให้สุนัขของคุณทานมะเขือดิบที่ยังเป็นสีเขียวอยู่โดยเด็ดขาด เพราะภายในมะเขือดิบจะมีสารบางชนิด ที่ส่งผลต่อร่างกายของสุนัข จนทำให้สุนัขของคุณเสียชีวิตลงได้
ทำไมสุนัขทานมะเขือเทศดิบแล้วจะมีโอกาสเสียชีวิต
สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ภายในมะเขือเทศดิบที่เป็นสีเขียวจะมีสารอยู่ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า “ไกลโคแอลคาลอยด์ (Glycoalkaloid)” ซึ่งสารดังกล่าวจะส่งผลเสียโดยตรงต่อร่างกายของสุนัข
มันจะทำให้สุนัขเกิดอาการ ท้องเสียอย่างรุนแรง กล้ามเนื้ออ่อนแรงลง หายใจติดขัด และในกรณีที่สุนัขทานมะเขือดิบเข้าไปเป็นจำนวนมาก มันอาจจะส่งผลทำให้สุนัขเกิดอาการช็อค หัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตลงได้
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเขือเทศดิบในสุนัข
ไม่ใช่แต่ผลของมะเขือเทศดิบเท่านั้นที่จะส่งผลเป็นพิษต่อร่างกายของสุนัข พวกกิ่ง ก้าน ใบของต้นมะเขือเทศ ก็ล้วนแต่ส่งผลเป็นพิษต่อลำไส้กับหัวใจของสุนัขได้เหมือนกัน
ดั้งนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณเข้าใกล้ต้นมะเชือเทศโดยเด็ดขาด รวมถึงห้ามสุนัขของคุณทานสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับต้นมะเขือเทศ รวมถึงผลของมะเขือเทศดิบโดยเด็ดขาด
สุนัขทานมะเขือเทศสุกได้ในปริมาณถึงจะกำลังดี
เพื่อให้สุนัขของคุณได้รับประโยชน์จากมะเขือเทศแดงสุกอย่างเต็มที่ คุณควรให้สุนัขของคุณทานมะเขือเทศแดงสุกร่วมกับอาหารประเภทอื่นๆ
หรือคุณอาจจะให้สุนัขของคุณทานอาหารที่มีส่วนประกอบของมะเขือเทศสุกก็ได้เหมือนกัน แต่คุณไม่ควรให้สุนัขของคุณทานมะเขือเทศทุกวัน
คุณควรจะให้สุนัขของคุณทานอาหารร่วมกับมะเขือเทศสุกสัปดาห์ละประมาณ 1 – 2 ครั้งจะกำลังดีเลย เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะได้รับสารอาหารจากมะเขือสุกอย่างเต็มที่แล้ว
