บทนำ
การติดเชื้อ Bartonella ในสุนัขเป็นอาการที่สุนัขได้รับเชื้อแบคทีเรีย Bartonella henselae เข้าสู่ร่างกาย การที่สุนัขจะติดเชื้อชนิดนี้ได้นั้น เกิดจากการที่สุนัขถูกเห็บและหมัดที่มีเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่ในร่างกายกัดเอา
อันตรายของโรคนี้ก็คือ โรคนี้สุนัขสามารถเป็นเป็นพาหะนำพาโรคนี้มาสู่คนได้ ดังนั้นขอให้คุณระวังเอาไว้ให้ดีๆ ในกรณีที่สุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่
แต่โรคการติดเชื้อ Bartonella ของมนุษย์ ไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงอะไรมากนัก ถ้าคุณมีสุขภาพที่ปกติสมบูรณ์แข็งแรงดี โรคนี้แทบจะไม่สามารถทำอะไรคุณได้เลย
แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าคนที่ติดเชื้อเป็นผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกาย รวมถึงผู้ป่วยที่กำลังทำเคมีบำบัดอยู่ ก็จะมีอาการต่างๆ เหมือนกับอาการที่สุนัขป่วยเป็นโรคนี้เลย
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขติดเชื้อ Bartonella
- สุนัขจะมีอาการอ่อนแรงและอ่อนเพลีย
- สุนัขจะมีอาการคลื่นไส้และมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย
- สุนัขจะมีไข้ตัวร้อน
- สุนัขจะมีอาการท้องเสียและอาเจียนอยู่เป็นประจำ
- ต่อมน้ำเหลืองของสุนัขจะบวมโต และมีการอักเสบเกิดขึ้นมา
- มีการอักเสบเกิดขึ้นที่ดวงตาของสุนัข
- จะมีน้ำมูกกับเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของสุนัข
- สุนัขจะมีอาการเจ็บปวดตามตัวจากอาการข้ออักเสบ
- สุนัขจะมีอาการไอแห้ง
- ถ้าเป็นหนักๆ เข้า สุนัขอาจจะมีอาการชักเกิดขึ้นมาได้
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้
- สุนัขถูกเห็บ หรือหมัดที่มีเชื้อแบคทีเรีย Bartonella อาศัยอยู่ในร่างกายกัดเอา
- มุนษย์สามารถติดโรคนี้ได้จากการที่ถูกสุนัขที่ติดเชื้อ Bartonella กัดเอา
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูสุนัขของคุณว่า คุณชอบปล่อยให้สุนัขของคุณออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านอยู่เป็นประจำหรือเปล่า คุณทำความสะอาดบ้านบ่อยหรือไม่ สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่าภายในร่างกายของสุนัขมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง
- ในกรณีที่สุนัขติดเชื้อ Bartonella อยู่นั้นค่าเกล็ดเลือดของสุนัขจะอยู่ในระดับต่ำ และค่าเม็ดเลือดขาวของสุนัขจะอยู่ในระดับที่สูงเป็นอย่างมาก รวมค่าระดับโปรตีน albumin ในเลือดของสุนัขจะอยู่ในระดับต่ำ
- เพื่อให้ขั้นตอนการวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างบางส่วนจากเนื้อเยื่อของสุนัขที่เป็นแผล แล้วเอาเนื้อเยื่อที่เก็บได้นำไปเพาะเชื้อที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อดูว่าตกลงแล้วสุนัขติดเชื้อประเภทไหนอยู่กันแน่น
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการต่างๆ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจออย่างเช่น
- ถ้าตรวจพบว่าสุนัขมีอาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบและบวมโต ทางสัตวแพทย์จะทำการเจาะเพื่อดูดเอาน้ำหนองออกมา
- ถ้าพบว่าสุนัขมีอาการอาเจียน ก็จะใช้ยาแก้อาเจียนให้กับสุนัข
- ถ้าพบว่าสุนัขมีภาวะขาดน้ำ ก็จะทำการให้สารน้ำเข้าไปในร่างกายของสุนัข เพื่อชดเชยน้ำกับสารอาหารที่สูญเสียไปจากร่างกายของสุนัข จากอาการท้องเสียและอาเจียน เป็นต้น
หลังจากรักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีดูแลสุนัขของคุณในระหว่างที่กำลังพักฟื้นอยู่
รวมถึงจะคอยกำชับกับคุณว่า ถ้าสุนัขมีอาการผิดปกติในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่ ให้คุณรีบพาสุนัขกลับเข้ามาพบสัตวแพทย์โดยทันที เพราะอาจจะมีสาเหตุใดๆ ที่ทางสัตวแพทย์ยังตรวจไม่พบเจอก็ได้เหมือนกัน
วิธีป้องกันติดเชื้อ Bartonella ในสุนัข
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้นั้นเกิดจากการที่สุนัขถูกเห็บและหมัดที่มีเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่ในร่างกายกัดเอา ดังนั้นวิธีป้องกันจึงสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- พาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บและหมัดอยู่เป็นประจำ หรือคุณอาจจะใช้ยาหยอดกําจัดเห็บหมัดให้กับสุนัขของคุณในทุก 2 – 3 เดือน
- ให้คุณหมั่นทำความสะอาดที่พักอาศัยของสุนัขอยู่เป็นประจำ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่สุนัขของคุณใช้เป็นประจำอย่างเช่น ที่นอน หมอน ผ่าห่ม ของเล่นสุนัข เป็นต้น
- โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน คุณต้องยิ่งทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้อยู่เป็นประจำ เพราะในช่วงหน้าฝนนั้น เป็นช่วงที่เห็บและหมัดแพร่ระบาดได้ดีที่สุดเลย
- หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณต้องไปอยู่ในที่ที่มีสุนัขรวมตัวอยู่กันเป็นจำนวนมากๆ เพราะจะมีโอกาสที่สุนัขของคุณจะติดหมัดจากสุนัขตัวอื่นๆ ได้