บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำให้คุณผู้อ่านฟังว่า ส่วนผสมที่ใช้ในแชมพูรักษาโรคผิวหนังของสุนัขนั้นมีอะไรบ้าง ส่วนผสมดังกล่าวช่วยรักษาโรคผิวหนังชนิดไหนได้บ้าง
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ โดยเรามาเริ่มกันในส่วนผสมแรกซึ่งนั้นก็คือ
1. คีโตโคนาโซล (ketoconazole)
คีโตโคนาโซล เป็นยาที่ใช้รักษาอาการของโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา กลาก เกลื้อน และรังแค โดยตัวยาจะเข้าไปยับยั้ง เออร์กอสเตอรอล (Ergosterol) ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มของเซลล์เชื้อรา ไม่ให้ส่งอาหารไปเลี้ยงเซลล์ของเชื้อราได้
ซึ่งมันจะส่งผลทำให้เซลล์เชื้อราเกิดการขาดสารอาหาร และอยู่เจริญเติบโตได้ในทันที แชมพูรักษาโรคผิวหนังของสุนัขส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมชนิดนี้อยู่ประมาณ 1 – 2%
2. ไมโคนาโซล (miconazole)
ไมโครนาโซล เป็นยาที่สามารถรักษาเชื้อราและเชื้อยีสต์ได้เป็นอย่างดี แต่ตัวยาดังกล่าวมักจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนักถ้าใช้เป็นแบบกิน ตัวยาชนิดนี้จะแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่เมื่อใช้เป็นแบบทา จึงทำให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักนิยมเอา ไมโครนาโซล มาเป็นส่วนผสมในแชมพูรักษาโรคผิวหนังของสุนัข
3 คลอเฮกซิดีน (chlorhexidine)
คลอเฮกซิดีน เป็นยาที่ใช้สำหรับกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ในกล่มของ Staphylococcus spp. ทางการแพทย์นิยมใช้แชมพูที่มีส่วนผสมนี้ในการรักษาโรคกลากของสุนัข
4. เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide)
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ เป็นยาที่ใช้สำหรับกำจัดโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก กับแกรมลบ รวมถึงโรคขี้เรื้อนเปียกได้เป็นอย่างดีแต่ตัวยาชนิดนี้ไม่เหมาะกับสุนัขที่มีผิวหนังแห้งกร้าน
เพราะเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ จะเข้าไปชำระล้างเคราตินที่มีส่วนช่วยทำให้ผิวหนังของสุนัขที่สุขภาพที่แข็งแรงออกไปจนหมด
5. ซัลเฟอร์ (sulfur)
ซัลเฟอร์ เป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังของสุนัขเป็นไขมันเยิ้ม ถ้าสุนัขตัวไหนป่วยเป็นโรคผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังมีลักษณะมันเยิ้ม ทางสัตวแพทย์มักจะนิยมใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์ เข้ามาช่วยในการรักษา
6. กรดซาลิไซลิก (salicylic acid)
กรดซลิไซลิก เป็นยาที่มีคุณสมบัติช่วยลอกผิวหนังให้หลุดลอกออกได้มาอย่างสมดุล ทางการแพทย์นิยมใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของกรดซลิไซลิก รักษาอาการอักเสบกับอาการคันในสุนัข
7. โคลทาร์ (coal tar)
โคลทาร์ เป็นสารที่ได้จากถ่านไม้ มีฤทธิ์ช่วยกำจัดคราบไขมัน สะเก็ดรังแค รวมถึงยังช่วยรักษาภาวะเซเบอเรีย (Seborrhea) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ผิวหนังของสุนัขเกิดความมันและตกสะเก็ด จากภาวะภูมิแพ้หรือฮอร์โมนทำงานผิดปกติได้เป็นอย่างดี
8. สารเพิ่มความชุ่มชื้น กับกรดไขมันต่าง
ภายในแชมพูรักษาโรคผิวหนังของสุนัขมักจะมีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังของสุนัขอย่างเช่น
- พรีไบโอติกโอ๊ต (Natural colloidal oatmeal)
- โพรพิลีนไกลคอล (Propylene glycol)
- กลีเซอรีน (Glycerin)
- รวมถึงกรดไขมันประเภทต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังของสุนัข
โดยส่วนผสมเหล่านี้จะมีหน้าที่คอยเคลือบชั้นผิวหนังให้กับสุนัข รวมถึงยังช่วยลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ซึ่งมันจะช่วยให้ผิวหนังของสุนัขฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น หลังจากที่หายป่วยจากการเป็นโรคผิวหนังแล้ว
ข้อควรระวัง
บทความนี้เป็นเพียงให้ความรู้เกี่ยวกับส่วนผสมที่ใช้ในแชมพูอาบน้ำรักษาโรคผิวหนังแต่เพียงเท่านั้น ห้ามคุณไปซื้อแชมพูที่มีส่วนผสมเหล่านี้ มารักษาอาการโรคผิวหนังของสุนัขเองโดยเด็ดขาด
เพราะสภาพผิวหนังของสุนัขแต่ละตัวจะมีสภาพผิวหนังที่แตกต่างกันไป ซึ่งสุนัขของคุณอาจจะแพ้ส่วนผสมบางอย่างที่บทความนี้ได้กล่าวไปได้ คุณจะใช้แชมพูที่มีส่วนผสมเหล่านี้ได้ ต่อเมื่อทางสัตวแพทย์อนุญาตให้ใช้ได้แต่เพียงเท่านั้น
ซึ่งการพาสุนัขของคุณไปตรวจดูว่าสุนัขของคุณกำลังป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดไหนอยู่ แล้วให้ทางสัตวแพทย์วินิจฉัยดูว่า สุนัขที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้ควรใช้แชมพูรักษาโรคผิวหนังชนิดไหน จะได้ผลในการรักษาดีที่สุด