บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำให้คุณผู้อ่านฟังว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้สุนัขของคุณเกิดป่วยเป็นโรคอัมพาตขึ้นมาได้นั้น มีโรคอะไรบ้าง
โดยคุณสามารถป้องกันหลีกเลี่ยงโรคเหล่านี้ได้ด้วยการพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ หรือประมาณ 6 เดือนครั้งต่อ เผื่อตรวจเจอโรคดังกล่าวจะได้ทำการรักษาตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ หรืออยากรู้ว่ามีโรคไหนบ้างที่จะทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคอัมพาตขึ้นมาได้นั้น ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
10 โรคร้ายที่ทำให้สุนัขมีโอกาสป่วยเป็นโรคอัมพาต
1. โรคไขสันหลังเสื่อม (Degenerative myelopathy)
โดยส่วนใหญ่โรคนี้มักจะเกิดกับสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป รวมถึงยังเป็นโรคประจำตัวของสุนัขสายพันธุ์
- บ๊อกเซอร์
- พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้
- เยอรมันเชฟเฟิร์ด
ซึ่งโรคดังกล่าวจะส่งผลทำให้สุนัขมีอาการขาหลังอ่อนแรง เดินเซ เดินขาลาก รวมถึงยังทำให้สุนัขมีอาการป่วยเป็นโรคอัมพาตขึ้นมาได้
2. โรคติดเชื้อในระบบประสาท
โรคติดเชื้อในระบบประสาทเป็นโรคที่เกิดได้ทั้งกับเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อไวรัสประเภทต่างๆ ซึ่งเชื้อดังกล่าวจะส่งผลทำให้สมอง ไขสันหลัง รวมถึงเยื่อหุ้มสมองของสุนัขเกิดการอักเสบขึ้นมา จนเป็นสาเหตุทำให้สุนัขมีอาการอัมพาตขึ้นมาได้
โดยหลักๆ แล้วเชื้อที่ทำให้สุนัขเกิดป่วยเป็นโรคอัมพาตขึ้นมาก็จะมี
- Rabies virus เป็นเชื้อที่พบได้ในโรคพิษสุนัขบ้า
- Canine distemper virus เป็นเชื้อที่เกิดจากโรคไข้หัดของสุนัข
- Brucella canis เป็นเชื้อที่เกิดจากโรคแท้งติดต่อในสุนัข
- Staphylococcus aureus เป็นเชื้อที่เกิดจากโรคอาหารเป็นพิษของสุนัข
ซึ่งเชื้อดังกล่าวนอกจากจะส่งผลทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคอัมพาตแล้ว มันยังทำให้สุนัขของคุณมีอาการต่างๆ อย่างเช่น เป็นไข้ ตัวร้อน ซึม เบื่ออาหารร่วมด้วย
3. โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis ; MG)
เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายของสุนัขสร้างแอนติบอดีชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งแอนติบอดีดังกล่าวจะไปขัดขวางการทำงานของระบบประสาทสุนัข จนทำให้กล้ามเนื้อของสุนัขมีอาการอ่อนแรง คล้ายกับอาการของโรคอัมพาต
จึงทำให้สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะเคลื่อนไหวไม่ได้ดังใจ รวมถึงมีอาการต่างๆ ร่วมด้วยอย่างเช่น อาการกลืนอาหารลำบาก ลำลักอาหารออกมาหลังจากที่ทานเข้าไป
ในปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ทำได้แค่เพียงใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
4. โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง (Intervertebral disc disease ; IVDD)
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังในสุนัขถูกแบ่งออกมาได้ 2 ชนิดด้วยกันได้แก่
4.1 Hansen type 1
เป็นอาการที่เกิดจากกระดูกอ่อนชั้นนอกปิดอย่างไม่สมบูรณ์ หรืออาจจะเกิดจากการที่ร่างกายของสุนัขได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุทำให้เจลลาตินชั้นใน ไปกดเบียดที่ช่องไขสันหลังของสุนัข
ซึ่งอาการดังกล่าวจะสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรงให้กับสุนัขเป็นอย่างมาก รวมถึงสุนัขบางตัวอาจจะมีอาการอัมพาตร่วมด้วย
โดยส่วนใหญ่โรคดังกล่าวมักจะเกิดกับสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้น กับสุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 – 9 ปี
4.2 Hansen type 2
เป็นอาการที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนชั้นนอก จนทำให้กระดูกอ่อนชั้นนอกเคลื่อนไปกดทับที่ไขสันหลังของสุนัข อาการดังกล่าวก็ส่งผลทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคอัมพาตขึ้นมาได้เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักจะเกิดกับสุนัขวัยชราที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
5. Myelomalacia
โรคนี้เกิดจากการที่เนื้อเยื่อภายในกระดูกสันหลังของสุนัขเกิดการตาย เพราะไม่มีเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยง ทางสัตวแพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีอาการเหล่านี้เกิดจากสาเหตุใด
แต่จากข้อสันนิษฐานต่างๆ พบว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้นั้นเกิดจากกระดูกสันหลังของสุนัขได้รับแรงกระแทกอย่างหนักจากอุบัติเหตุต่างๆ อย่างเช่น สุนัขถูกรถชน หรือตกจากที่สูงๆ
โดยโรคดังกล่าวจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีอาการอัมพาตที่ขาหลังขึ้นมา รวมถึงในกรณีที่เนื้อเยื่อได้รับความเสียหายอย่างหนัก ก็อาจจะส่งผลทำให้สุนัขเสียชีวิตลงได้ในทันที
6. อาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง (Injury to the spine)
กระดูกสันหลังของสุนัขเป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นส่วนที่เปราะบางง่าย ได้รับการกระทบกระเทือนนิดหน่อยก็เกิดการเคลื่อนตัวแล้ว
ซึ่งมันทำให้สุนัขของคุณได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กเล็กน้อยอย่างเช่น ตกจากที่สูงๆ หรือมีสิ่งของหนักๆ ตกใส่สุนัข ก็อาจจะส่งผลทำให้กระดูกสันหลังเกิดการแตกหัก เคลื่อนที่ผิดรูปขึ้นมาได้แล้ว
และเมื่อกระดูกไขสันหลังของสุนัขได้รับความเสียหาย ก็จะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง รวมถึงอาจจะมีอาการอัมพาตร่วมด้วย
7. โรคอัมพาตจากเห็บในสุนัข (Tick paralysis)
เห็บนอกจากจะนำพาโรคร้ายแรงต่างๆ มาให้กับสุนัขของคุณแล้ว มันยังนำพาโรคอัมพาตมาให้กับสุนัขของคุณอีกด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคอัมพาตจากเห็บเกิดจาก
การที่เห็บปล่อยสารพิษ neurotoxin ใส่สุนัข ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะอยู่ในน้ำลายของเห็บ และเมื่อสุนัขของคุณได้รับสารพิษชนิดนี้มากๆ เข้า ก็จะส่งผลกระทบทำให้ระบบประสาทของสุนัขได้รับความเสียหายอย่างหนัก
จนเป็นเหตุทำให้กล้ามเนื้อขาของสุนัขอ่อนแรง และป่วยเป็นโรคอัมพาตแบบกระทันหันขึ้นมาได้
สำหรับวิธีป้องกันโรคนี้คุณสามารถทำได้ด้วยการ พาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนกำจัดเห็บหมัดกับทางสัตวแพทย์ในทุก 3 – 4 เดือน หรือคุณอาจจะใช้ยากำจัดเห็บหมัดแบบหยดหลังในทุก 4 เดือนก็ได้เหมือนกัน
8. โรคมะเร็ง กับเนื้องอกในระบบประสาท
โรคมะเร็งกับเนื้องอกในระบบประสาทของสุนัข เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ตามส่วนต่างๆ บนของสุนัขไม่ว่าจะเป็นบริเวณ
- สมอง
- ไขสันหลัง
- กระดูกสันหลัง
- เยื่อหุ้มสมอง
- เส้นประสาท
ซึ่งก้อนเนื้อร้ายดังกล่าวจะค่อยๆ โตขึ้นและไปกดเบียดทับตามส่วนต่างๆ ของร่างกายสุนัข ซึ่งจะมีบางครั้งที่ก้อนเนื้อร้ายไปกดเบียดช่องไขสันหลังของสุนัขขึ้นมา
จนทำให้สุนัขของคุณเกิดเจ็บปวดที่ไขสันหลัง กับมีอาการอัมพาตขึ้นมาได้ สำหรับโรคนี้มักจะพบได้กับสุนัขวัยชราที่มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป
9. Fibrocartilaginous embolism
เป็นภาวะที่เกิดการอุดตันจากเจล หรือเยลลี่ที่อยู่ภายในหมอนรองกระดูกสันหลังของสุนัข เกิดหลุดลอยออกมาอยู่ในกระแสเลือด แล้วเข้าไปอุดตันอยู่จุดที่เลือดต้องผ่านไปเลี้ยงไขสันหลังของสุนัข
ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ไขสันหลังของสุนัขขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง จนเป็นเหตุทำให้สุนัขเกิดอาการอัมพาตอย่างกะทันหันขึ้นมาได้ รวมถึงอาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอย่างเช่น อาการปวดหัว อาการขับถ่ายปัสสาวะกับอุจจาระไม่ออก
โดยส่วนใหญ่โรคดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นกับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดตัวใหญ่โต สำหรับโรคนี้ถ้ารักษาได้ทันการ หรือรักษาภายใน 24 ชั่วโมง สุนัขก็จะมีโอกาสหายดีได้
10. Wobbler’s syndrome
เป็นโรคที่เกิดจากความเจริญเติบโตผิดปกติที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนลำคอของสุนัข จนทำให้กระดูกสันหลังตรงบริเวณส่วนลำคอไปกดเบียด สร้างความเสียหายให้กับไขสันหลัง กับเส้นประสาทของสุนัข
จนเป็นเหตุทำให้สุนัขของคุณเกิดเจ็บปวดที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนลำคออย่างรุนแรง รวมถึงมีอาการอัมพาตร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่โรคนี้มักจะเกิดกับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่อย่างเช่น
- โดเบอร์แมน
- เกรทเดน
- อลาสกัน มาลามิวท์
- ชามอย
- อัลเซเชี่ยล
