บทนำ
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่มักจะชอบไปเสพสื่อต่างๆ ตามโลกโซเชียล ซึ่งก็มีผู้สอนหลายคนเลยที่ไปฟังคนอื่นเค้าเล่ามาแล้วนำมาบอกต่อ โดยไม่กรองข้อมูลหรือค้นหาข้อมูลต่อเลยว่า การรักษาแบบนั้นมันช่วยรักษาอาการของสุนัขได้จริงๆ ไหม
จึงเป็นที่มาของบทความนี้ว่า มีความเชื่อวิธีรักษาสุนัขแบบไหนบ้างที่เป็นสิ่งที่ผิด ห้ามคุณทำให้กับสุนัขของคุณโดยเด็ดขาด เพราะมันจะส่งผลเสียต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่อยากรู้ว่าความเชื่อเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
7 ความเชื่อผิดๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้รักษาสุนัขของตัวเองกัน
1. ใช้น้ำมันก๊าดรักษาโรคขี้เรื้อนให้กับสุนัข
ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ คนส่วนใหญ่คิดว่าการทาน้ำมันก๊าดลงบนตัวสุนัขจะช่วยรักษาอาการป่วยจากโรคผิวหนังของสุนัขลงได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเพราะภายในส่วนผสมของน้ำมันก๊าดจะมีส่วนผสมหลายส่วนเลยที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัขไม่ว่าจะเป็น
- สารไฮโดรคาร์บอน
- โลหะ
- กำมะถัน
ซึ่งสารเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของสุนัข ทำให้ผิวหนังของสุนัขเกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง สุนัขจะรู้สึกปวดแสบ ปวดร้อนที่ผิวหนังของพวกมันเป็นอย่างมาก
ในสุนัขบางตัวที่มีอาการแพ้น้ำมันก๊าดหนักๆ ก็อาจจะทำให้ผิวหนังของสุนัขหลุดลอกออกมา รวมถึงสุนัขยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง ช็อก หมดสติ ได้อีกด้วย
2. ให้สุนัขทานฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาอาการลำไส้อักเสบ
น่าจะมีหลายคนเลยที่เห็นคลิปจากตามสื่อโซเชียลมีเดียชื่อดังต่างๆ ออกมาไลฟ์ ออกมาทำวีดีโอแนะนำต่างๆ ว่า การให้สุนัขทานฟ้าทะลายโจรจะสามารถช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบในสุนัขลงได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะโรคลำไส้อักเสบในสุนัขเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสอย่างเช่น
- เชื้อพาร์โวไวรัส
- เชื้อโคโรนาไวรัส
- โรต้าไวรัส
ซึ่งไวรัสเหล่านี้จะไม่มียา หรือสมุนไพรชนิดไหนสามารถกำจัดไวรัสได้โดยตรง สิ่งที่ทำได้เพียงแค่หาทางบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ร่างกายของสุนัขสร้างภูมิคุ้มกันไปต่อสู้กับไวรัสเหล่านี้ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถรักษาโรคลำไส้อักเสบในสุนัขได้
3. ปล่อยให้สุนัขเลียแผล แล้วแผลของสุนัขจะหายดีเอง
จริงอยู่ที่ว่าการปล่อยให้สุนัขเลียแผลจะทำให้แผลของสุนัขหายได้ไวมากยิ่งขึ้น เพราะภายในน้ำลายของสุนัขจะมีคุณสมบัติสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียอย่างอ่อนได้
แต่ในทางกลับกันน้ำลายของสุนัขก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ชั้นดีเลย ซึ่งมันจะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้บาดแผลของสุนัขเกิดการติดเชื้อผ่านการเลียแผลของสุนัขได้
ดังนั้นทางที่ดีเมื่อสุนัขของคุณมีบาดแผลเกิดขึ้น คุณควรพาสุนัขของคุณไปล้างแผลกับทางสัตวแพทย์ อย่าให้สุนัขของคุณรักษาแผลบาดด้วยการเลียแผลโดยเด็ดขาด
4. สุนัขกินหญ้าเพราะป่วย
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่คิดว่า เมื่อสุนัขของตัวเองป่วยพวกมันมักจะชอบไปกินหญ้าเพื่อรักษาอาการต่างๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะการกินหญ้าของสุนัขมีได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น
- รู้สึกไม่สบายท้อง การกินหญ้าจะช่วยให้สุนัขอาเจียนออกมา ซึ่งมันจะช่วยทำให้สุนัขรู้สึกสบายท้องมากยิ่งขึ้น
- ลดอาการท้องผูก เมื่อสุนัขรู้สึกว่าตัวเองมีอาการท้องผูก พวกมันจะหาหญ้าทานเพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันขับถ่ายของเสียออกมา
- ต้องการสารอาหารเพิ่มเติม จะมีหลายครั้งเลยที่สุนัขรู้สึกว่าร่างกายของพวกมันไม่ได้รับสารอาหารประเภทไฟเบอร์ พวกมันจึงไปทานหญ้าเพื่อชดเชยสารอาหารที่ร่างกายของพวกมันขาดไป
และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การทานหญ้าของสุนัขไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาการป่วยใดๆ เลย
5. นำแอลกอฮอล์มาเช็คทำความสะอาดหูของสุนัข
มีหลายคนเลยที่มีความเชื่อว่า การเช็คทำความสะอาดหูของสุนัขด้วยแอลกอฮอล์จะทำให้หูของสุนัขสะอาดกว่าการเช็คทำความสะอาดแบบอื่น
แต่ในความเป็นจริงแล้วฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะค่อนข้างแรง ซึ่งมันอาจจะส่งผลทำให้ช่องหูของสุนัขเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ ดังนั้นคุณไม่ควรทำความสะอาดหูของสุนัขด้วยแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
ให้คุณใช้น้ำยาทำความสะอาดหูสำหรับสุนัข ในการทำความสะอาดหูของสุนัขจะเป็นการดีกว่า
6. ใช้ยาคุมกําเนิดของมนุษย์กับสุนัข
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆ ที่คิดว่า การให้สุนัขเพศเมียทานยาคุมกําเนิดของมนุษย์จะช่วยลดการตั้งท้องในสุนัขได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วยาคุมกําเนิดของมนุษย์แทบไร้ประโยชน์ต่อร่างกายของสุนัขเลย เพราะร่างกายของสุนัขกับมนุษย์จะมีสรีระระบบภายในไม่เหมือนกัน
แถมยาคุมกำเนิดยังส่งผลเป็นโทษต่อร่างกายของสุนัขตัวเมียอีกด้วย เพราะภายในยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศ 2 ตัว ได้แก่ เอสโตรเจน (Estrogen) กับโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะส่งผลทำให้ลูกมดของสุนัขตัวเมียเกิดการอักเสบขึ้นมาได้
สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการคุมกำเนิดของสุนัขตัวเมียก็คือ การพาสุนัขตัวเมียไปทําหมันในช่วงเวลาที่สุนัขสามารถทำหมันได้แล้ว (สุนัขมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป)
7. ให้สุนัขทานยาของมนุษย์ เพื่อรักษาอาการป่วยต่างๆ
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่มีความเชื่อว่า ยาของมนุษย์จะสามารถรักษาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขได้ จึงทำให้พวกเค้ามักจะให้สุนัขของตัวเองทานยาพาราเซตามอล ทุกครั้งที่พวกเค้าพบว่าสุนัขของตัวเองมีอาการปวดหัว ตัวร้อน
คุณรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิดและร้ายแรงเป็นอย่างมาก เพราะตัวยาที่ใช้กับมนุษย์จะใช้ส่วนผสมคนละตัวกับยาที่ใช้กับสุนัข ซึ่งมันอาจจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณได้รับผลกระทบจากการทานยาชนิดต่างๆ ของมนุษย์
จนเป็นเหตุทำให้สุนัขของคุณมีอาการ
- อาเจียน
- น้ำลายฟูมปาก
- เป็นแผลในกระเพาะอาหาร
- ตับวาย ไตวาย
- หายใจไม่ออก เหงือกมีสีคล้ำ
- เกิดภาวะดีซาน (ตัวเหลือง)
- ในสุนัขบางตัวที่มีอาการแพ้อย่างหนัก ก็อาจจะทำให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตลงได้
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวขอให้คุณระลึกอยู่เสมอว่า สุนัขของคุณสามารถทานได้แต่ยาที่ใช้สำหรับสุนัขแต่เพียงเท่านั้น และต้องเป็นยาที่ทางสัตวแพทย์อนุญาตให้ทานแต่เพียงเท่านั้น ห้ามคุณไปซื้อยาสำหรับสุนัขมาให้สุนัขของคุณทานเองโดยเด็ดขาด