บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำเทคนิควิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ใหญ่กับสุนัขสายพันธุ์เล็กควบคู่กัน ว่าคุณควรเลี้ยงสุนัขทั้งสองสายพันธุ์นี้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
- สามารถใช้จานข้าวร่วมกันได้ไหม
- การออกกำลังกายของสุนัขทั้งสองสายพันธุ์นี้เหมือนกันหรือไม่
- จะทำยังไงดีถ้าสุนัขตัวใหญ่กับตัวเล็กไม่ถูกกัน
- แล้วของเล่นละ ควรเลือกซื้อของเล่นแบบไหนดี
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังสงสัยเรื่องเหล่านี้อยู่ ทางบทความจะมาช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณผู้อ่านเอง เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าว่า ถ้าจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ใหญ่กับสุนัขสายพันธุ์เล็กร่วมกัน ต้องดูเรื่องไหนกันบ้าง
5 วิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็ก ควบคู่กับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่
1. แยกจานอาหารกันอย่างชัดเจน
สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็ก กับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ไว้ด้วยกันก็คือ คุณต้องแยกจานอาหารของสุนัขแต่ละตัวแบบของใครของมันเลยตัวอย่างเช่น
จานอาหารใบเล็กสำหรับสุนัขสายพันธุ์เล็กของคุณโดยเฉพาะ ส่วนจานอาหารใบใหญ่เป็นสำหรับของสุนัขสายพันธุ์ใหญ่โดยเฉพาะเป็นต้น
ส่วนชามให้น้ำคุณสามารถให้สุนัขทั้งสองตัวของคุณทานร่วมกันได้เลย
2. สุนัขทั้งสองสายพันธุ์จะออกกำลังกายไม่เหมือนกัน
สุนัขสายพันธุ์เล็ก
สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีวิธีการออกกำลังกายแตกต่างกันไป โดยการออกกำลังกายของสุนัขสายพันธุ์เล็ก ควรจะเป็นการออกกำลังกายอย่างเบาๆ อย่างเช่น
- พาสุนัขไปเดินเล่นบริเวณรอบหมู่บ้านของคุณ
- เล่นวิ่งไล่จับกับสุนัข
- โยนลูกบอลขนาดเล็ก แล้วสั่งให้สุนัขของคุณวิ่งไปคาบกลับ
- พาไปเดินเล่นตามสนามหญ้า
- ให้เดินเล่นบนลู่วิ่ง ด้วยความเร็วระดับต่ำสุด
สำหรับการออกกำลังกายที่ดีของสุนัขสายพันธุ์เล็กควรอยู่ที่เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้งจะกำลังดีเลย
สุนัขสายพันธุ์ใหญ่
สาเหตุที่สุนัขสายพันธุ์ใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่มากกว่านั้นก็เพราะว่า สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้จะมีพลังงานที่เหลือล้นเป็นอย่างมาก คุณต้องหากิจกรรมทำให้พวกมันได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ถึงจะเป็นการเผาผลาญพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายให้หมดไป
ส่วนกิจกรรมการออกกำลังกายของสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จะคล้ายๆ กับสุนัขสายพันธุ์เล็กเลยก็คือ
- พาสุนัขออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน
- โยนจานร่อนแล้วให้สุนัขไปคาบกลับมา
แต่คุณยังสามารถเพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงได้อย่างเช่น
- พาสุนัขไปวิ่งในระยะทางไกล
- ให้สุนัขว่ายในระยะทางไกล
- กระโดดข้ามเครื่องกีดขวางต่างๆ
- วิ่งบนลู่วิ่งในระดับความเร็วปานกลางถึงสูง
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้สุนัขสายพันธุ์ใหญ่ของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง
การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงของสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ อาจจะทำให้สุนัขของคุณบาดเจ็บได้ทุกเมื่อ คุณควรออกกำลังกายให้กับสุนัขของคุณอย่างระมัดระวัง
3. สร้างความคุ้นเคยกันตั้งแต่ตอนยังเป็นลูกสุนัข
เพื่อให้สุนัขทั้งสองสายพันธุ์เป็นมิตรกันได้ง่าย คุณควรเลี้ยงสุนัขทั้งสองสายพันธุ์นี้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นลูกสุนัขเลย ลูกสุนัขจะเปิดใจกันได้ง่ายกว่าตอนที่สุนัขโตจนเต็มวัยแล้ว การเลี้ยงร่วมกันจะช่วยให้สุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นตัวของแต่ละฝ่าย
สำหรับในกรณีที่สุนัขไม่ถูกกัน
ในกรณีนี้มักจะเกิดกับคนที่พึ่งพาสุนัขตัวใหม่เข้ามาที่บ้าน โดยที่มีสุนัขตัวเก่าพักอาศัยอยู่ในบ้านก่อนหน้านั้นแล้ว จะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมากที่สุนัขตัวเก่าจะหวงที่ จนทำให้สุนัขเก่าตัวขู่และกัดสุนัขตัวใหม่ได้
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ ทางบทความมีวิธีทำให้สุนัขทั้งสองตัวนี้เปิดใจกันได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยการ
- ให้คุณจับสุนัขทั้งสองตัวแยกเลี้ยงกันก่อน โดยให้อยู่ห้องส่วนตัวห้องใครห้องมันไปเลย อย่าให้สุนัขทั้งสองตัวนี้เจอหน้ากันเด็ดขาด
- แล้วในระหว่างนั้นคุณก็หาผ้าขนหนูมาหนึ่งผืน แล้วนำผ้าขนหนูผืนนั้นไปถูตามตัวของสุนัขทั้งสองฝ่าย
- การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขทั้งสองตัว รู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นตัวของสุนัขอีกฝ่าย ซึ่งมันจะช่วยให้สุนัขทั้งสองตัวเปิดใจให้กัน ได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเจอหน้ากัน ให้คุณทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน
- และเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 ก็ให้คุณเริ่มพาสุนัขทั้งสองตัวมาทำความรู้จักกันสัปดาห์ละ 1 ครั้งเป็นเวลาประมาณ 10 – 15 นาที โดยให้คุณคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
- ถ้าคุณพบว่าสุนัขทั้งสองตัวยังมีท่าทางจะกัดกัน ก็ให้คุณแยกสุนัขทั้งสองตัวกลับไปอยู่ในห้องส่วนตัวในทันที ไว้สัปดาห์หน้าค่อยพาสุนัขทั้งสองตัวมาเจอหน้ากันใหม่ (ในระหว่างนั้นก็ให้คุณเอาผ้าขนหนูผืนเดิมมาทูตัวของสุนัขทั้งสองอยู่เป็นประจำนะ)
- ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาประมาณ 3 – 4 เดือน สุนัขทั้งสองตัวก็จะเริ่มผูกมิตรเข้าหากันได้
4. เลือกของเล่นให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละสายพันธุ์
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คุณต้องใส่ใจก็คือ การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละสายพันธุ์ที่คุณเลี้ยงไว้อย่างเช่น
สุนัขสายพันธุ์เล็ก
ถ้าเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก คุณควรเลือกของเล่นที่มีขนาดพอดีกับปากของสุนัข เพราะถ้าคุณเลือกของเล่นที่มีขนาดเล็กจนเกินไป ก็อาจจะทำให้สุนัขของคุณเผลอกลืนของเล่นชิ้นนั้น เข้าสู่ร่างกายในขณะที่กำลังเล่นของเล่นชิ้นนั้นอยู่ได้
สุนัขสายพันธุ์ใหญ่
ส่วนสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ คุณควรเลือกของเล่นที่ใช้พลังงานในการเล่นสูงๆ อย่างเช่น เชือกกัดสำหรับสุนัขตัวใหญ่ ของเล่นพวกนี้นอกจากจะช่วยให้สุนัขสายพันธุ์ใหญ่รู้สึกผ่อนคลายแล้ว มันยังช่วยฝึกทักษะในด้านการกัดของสุนัขได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง
คุณควรแยกของเล่นสุนัขแบบของใครของมัน อย่าให้สุนัขทั้งสองใช้ร่วมกันโดยเด็ดขาด เพราะของเล่นที่มีขนาดพอดีกับปากของสุนัขสายพันธุ์เล็ก อาจจะมีขนาดเล็กกว่าปากของสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ จนทำให้สุนัขสายพันธุ์ใหญ่เผลอกลืนของเล่นชิ้นนั้นในระหว่างที่กำลังเล่นอยู่ได้ยกเว้นแต่
ของเล่นที่สุนัขทั้งสองสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างเช่น อุโมงค์สุนัข ของเล่นชิ้นนี้ไม่ว่าจะเป็นทั้งสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ หรือสายพันธุ์เล็กก็สามารถเล่นร่วมกันได้ แถมยังช่วยให้สุนัขทั้งสองตัวสนิทกันได้ไวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. พาสุนัขไปเปิดหูเปิดตาบ้าง
เป็นสิ่งที่คุณเลี้ยงสุนัขทุกคนควรทำนั้นก็คือ การพาสุนัขสายพันธุ์เล็ก กับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ออกไปเดินเล่นนอกบ้านเพื่อเปิดหูเปิดตาบ้างอย่างเช่น
คุณอาจจะพาสุนัขทั้งสองของคุณไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะใกล้บ้าน ตามงานแฟร์สุนัข หรือห้างสรรพสินค้าที่อนุญาตให้สุนัขเข้าไปใช้บริการก็ได้เหมือนกัน
การพาสุนัขออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก จะช่วยให้สุนัขของคุณได้พบเจอกับผู้คนหน้าใหม่ๆ รวมถึงสุนัขตัวอื่นๆ ที่เดินเล่นอยู่ตามสถานที่แห่งนั้น ซึ่งมันจะทำให้สุนัขของคุณรู้สึกผ่อนคลาย กับมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอ
ข้อดีของการทำให้สุนัขมีสุขภาพจิตที่ดีอยู่เสมอนั้น มันจะช่วยให้สุนัขของคุณมีนิสัยที่อ่อนโยน ลดความก้าวร้าวลง และเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของคุณอยู่เสมอ