บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำ 5 สถานการณ์ที่คุณต้องระวังในระหว่างพาสุนัขเที่ยว ว่ามีเรื่องไหนที่คุณต้องระวังเอาไว้บ้าง เพื่อชีวิตและความปลอดภัยของสุนัข
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังวางแผนพาสุนัขของคุณไปท่องเที่ยวเดินทางไกล ให้คุณลองบทความดู บทความนี้จะบอกว่าสุนัขของคุณมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาได้บ้างในระหว่างที่คุณกำลังท่องเที่ยวอยู่
เพื่อคุณจะได้หาทางป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ว่ามีเหตุการณ์ไหนที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุนัขของคุณในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ได้บ้าง
5 สถานการณ์ที่คุณต้องระวังในระหว่างพาสุนัขเที่ยว
1. ถูกสุนัขจรจัดกัด
เป็นเรื่องที่คนเลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ไม่ค่อยระวังกัน นั้นก็คือ การปล่อยให้สุนัขของตัวเองวิ่งเล่นในสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ โดยลืมไปว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณกำลังท่องเที่ยวอยู่นั้น ก็มีสุนัขจรจัดพักอาศัยอยู่เหมือนกัน
เหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสถูกสุนัขจรจัดที่อยู่แถวไหนกัดเอาได้สูงเป็นอย่างมาก เพราะสุนัขจรจัดแหล่งนั้นจะกลัวว่า สุนัขของคุณจะมาแย่งอาหารของพวกมันหรือเปล่า แถมสุนัขของคุณยังเข้าไปบุกรุกอาณาเขตพื้นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่อีกด้วย
วิธีป้องกัน
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ คุณไม่ควรปล่อยให้สุนัขของคุณวิ่งเล่นได้อย่างอิสระจนเกินไป
ถ้าคุณอยากให้สุนัขของคุณได้เดินเล่นในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้น ให้คุณใส่สายจูงให้กับสุนัขแล้วพาพวกมันเดินท่องเที่ยวในสถานที่แห่งนั้น โดยมีคุณคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
หรือคุณอาจจะอุ้มสุนัขขึ้นรถเข็นแล้วพาเดินเล่นก็ได้เหมือนกัน รถเข็นจะเป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขจรจัดเข้ามาทำร้ายสุนัขของคุณได้
2. สุนัขถูกรถชน
ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ก็จะมีรถยนต์ส่วนตัวกับมอเตอร์ไซค์ขึ้นตามจำนวนเหมือนกัน จึงทำให้มันจะมีโอกาสสูงเป็นอย่างมาก ที่สุนัขของคุณอาจจะถูกรถเหล่านี้ชน ถ้าคุณไม่ดูแลสุนัขของคุณให้ดีๆ
รวมถึงสุนัขของคุณอาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับบรรยายกาศใหม่ๆ จนทำให้สุนัขรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ วิ่งเล่นไปมาจนลืมตัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็อาจจะทำให้สุนัขของคุณถูกรถที่วิ่งผ่านไปมาชนเข้าได้เหมือนกัน
วิธีป้องกัน
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ คุณควรใส่สายจูงให้กับสุนัข แล้วหาที่ผูกสายจูงให้สุนัขอยู่กับที่ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นซุกซนจนไปถูกรถชนเข้าให้
รวมถึงคุณต้องทำให้สุนัขของคุณอยู่ในสภาวะที่สงบ ลดความตื่นเต้นที่เจอผู้คนหน้าใหม่ๆ ลง และเมื่อสุนัขรู้สึกสงบลงแล้ว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ลงได้
รวมถึงให้คุณหาข้อมูลว่าตรงพื้นที่ที่คุณกำลังท่องเที่ยวอยู่นั้น มีโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกสัตว์ที่ไหนที่ใกล้กับที่ที่คุณอยู่มากที่สุด เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คุณจะได้พาสุนัขของคุณไปรักษากับทางสัตวแพทย์ได้ทันการณ์
3. สุนัขจมน้ำ
เหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่คุณพาสุนัขไปท่องเที่ยวตามทะเลหรือชายหาดชื่อดัง แล้วคุณปล่อยให้สุนัขของคุณได้เล่นน้ำทะเลอย่างเต็มที่
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสจมน้ำขึ้นมาได้ เพราะสุนัขไม่ได้ว่ายน้ำเก่งทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นอย่างเช่น
- ปั๊ก
- บูลด็อก
- เฟรนช์ บูลด็อก
ซึ่งสรีระร่างกายของสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ว่ายน้ำได้เลย จึงทำให้สุนัขพวกนี้จะมีโอกาสจมน้ำทะเลได้สูงเป็นอย่างมาก
วิธีป้องกัน
คุณสามารถป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณจมน้ำในระหว่างที่เล่นน้ำทะเลได้ด้วยการ สวมเสื้อชูชีพให้กับสุนัขของคุณทุกครั้งก่อนลงเล่นน้ำทะเล รวมถึงให้คุณคอยจับตาดูสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิดในขณะที่กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทางบทความไม่แนะนำให้คุณพาสุนัขสายพันธุ์หน้าสั้นลงเล่นน้ำทะเลเลย คุณควรให้สุนัขของคุณทำกิจกรรมอื่นอย่างเช่น การพาเดินเล่นชมทะเลจะเป็นการดีกว่า
4. ภาวะขาดน้ำ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนจัดติดต่อกันตลอดทั้งปี จึงทำให้สุนัขของคุณจะมีโอกาสป่วยเป็นภาวะขาดน้ำขึ้นมาได้ ถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณวิ่งเล่นในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีแสงแดดร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน
โดยคุณสามารถสังเกตได้ว่าสุนัขของคุณมีภาวะขาดน้ำหรือไม่ โดยดูจากอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขของคุณมีอาการเหนื่อย หอบ สิ้นห้อย
- เหงือกของสุนัขเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีที่ซีดลง
- ผิวหนังของสุนัขความขาดความยืดหยุ่น (ให้คุณลองดึงผิวหนังด้านหลังคอของสุนัขดู ถ้าเป็นแบบปกติผิวหนังจะหดตัวกลับสู่จุดเดิมอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าสุนัขของคุณมีภาวะขาดน้ำ ผิวหนังจะค่อยๆ หดตัวลงอย่างช้าๆ)
ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์ ในจุดที่ใกล้ที่สุดของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้น
วิธีป้องกัน
สำหรับวิธีป้องกันภาวะขาดน้ำในระหว่างที่สุนัขกำลังท่องเที่ยวอยู่ คุณก็สามารถทำได้ด้วยการให้สุนัขของคุณทานน้ำเปล่าที่สะอาดอยู่เป็นประจำ
กับหลีกเลี่ยงอย่าให้สุนัขของคุณไปเดินเล่นในที่ที่มีแสงแดดร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน (ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. – 16.00 น.) ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นภาวะขาดน้ำของสุนัขลงได้
5. ทิ้งสุนัขไว้ในรถ
คุณยังจำความรู้สึกในเวลาที่คุณไปจอดรถไว้กลางแดดแล้วออกไปทำธุระอย่างเช่น
- ไปทานข้าวกลางวัน
- ไปเช็คอินโรงแรม
- ไปจองห้องพัก
- ไปเบิกเงินที่ธนาคาร
และเมื่อคุณกลับมาเปิดประตูรถคุณก็พบว่าบรรยากาศภายในรถของคุณนั้นร้อนจัดเป็นอย่างมาก คุณต้องเปิดแอร์บนรถยนต์ของคุณแล้วรอให้เวลาผ่านไปสักพักอากาศภายในรถของคุณถึงจะเย็นลงเลย คุณคิดว่าสุนัขของคุณจะสามารถทนสภาพอากาศร้อนจัดแบบนี้ได้ไหม
มีคนเลี้ยงสุนัขหลายคนเลยที่ชอบทำแบบนี้นั้นก็คือ ปล่อยสุนัขของตัวเองทิ้งไว้บนรถแล้วตัวเองก็ออกไปทำธุระต่างๆ โดยพวกเค้าชอบคิดว่าไปแค่ 5 – 10 นาทีไม่เป็นไรหรอก
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในแต่ละปีมีสุนัขที่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ กับทนความร้อนในรถไม่ได้ถึง 400000 – 5000000 ตัวต่อปีจากทั่วโลกเลยนะ
เรื่องนี้เป็นส่วนที่ร้ายแรงถึงขนาดหลายประเทศออกกฎหมายมาเตือนเลยว่า “ห้ามทิ้งสุนัขไว้บนรถโดยเด็ดขาด”
วิธีป้องกัน
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ ในเวลาที่คุณจะออกไปทำธุระนอกตัวรถ คุณต้องดับเครื่องยนต์ก่อน แล้วให้คุณพาสุนัขออกมาอยู่ในที่ร่มนอกตัวรถ
รวมถึงคุณต้องให้คนในครอบครัวของคุณ เป็นคนดูแลสุนัขของคุณในระหว่างที่คุณออกไปทำธุระ พอคุณทำธุระเสร็จคุณถึงพาสุนัขขึ้นรถได้