บทนำ
6 สิ่งที่คุณควรทำก่อนพาสุนัขเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัวของคุณ ว่ามีสิ่งไหนที่คุณควรทำ เพื่อให้การเดินทางระหว่างคุณกับสุนัขของคุณผ่านไปได้อย่างราบรื่น
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่กำลังวางแผนพาสุนัขของตัวเองไปท่องเที่ยวตามสถานที่ไกลๆ อย่างเช่น
- พาสุนัขไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด
- พาสุนัขไปเที่ยวทะเล
- พาสุนัขขึ้นภูเขา
แต่คุณไม่รู้ว่ามีสิ่งไหนที่คุณต้องเตรียมพร้อม มีสิ่งไหนที่คุณควรหาข้อมูลก่อนพาสุนัขเดินทางไกล คุณก็สามารถใช้บทความนี้เป็นไกด์นําทางให้กับคุณก็ได้เหมือนกันครับ
6 สิ่งที่คุณควรทำก่อนพาสุนัขเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัวของคุณ
1. ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ของคุณให้พร้อมก่อนเดินทางไกล
สิ่งแรกที่คุณควรทำเป็นอย่างแรกก็คือ ให้คุณนำรถยนต์ส่วนตัวของคุณไปตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางไกลทุกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถของคุณเกิดเสียในระหว่างเดินทางไกล
รวมถึงการที่รถของคุณเสียในระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่ ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้นมาในระหว่างเดินทางไกลได้
และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญก็คือ ก่อนถึงวันเดินทางไกลคุณควรพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเกิดง่วงในระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ จนเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ขึ้นมาได้
รวมถึงให้คุณศึกษาเส้นทางจุดหมายปลายทางที่คุณต้องเดินทางไป และเพื่อป้องกันการหลงทางคุณควรติด GPS ไว้ในรถ หรือคุณอาจจะโหลด app google map ไว้ช่วยนำทางให้กับคุณก็ได้เหมือนกัน
2. ฝึกสุนัขให้คุ้นเคยกับการเดินทางไกล
ก่อนถึงวันเดินทางไกลประมาณ 2 – 3 เดือน คุณต้องฝึกให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับรถยนต์ส่วนตัวของคุณ กับฝึกให้สุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในระยะไกลๆ ก่อน โดยคุณสามารถฝึกได้อย่างง่ายๆ ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีฝึกให้สุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับรถยนต์ส่วนตัว และเดินทางไกล
วิธีฝึกให้สุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับรถยนต์ส่วนตัว
ให้คุณอุ้มสุนัขมาไว้ในรถยนต์ของคุณ เพื่อให้สุนัขของคุณได้เดินสำรวจทำความรู้จักพื้นที่ต่างๆ ในรถของคุณ ให้คุณทำแบบนี้วันละประมาณ 10 – 15 นาที ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์
การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรวมถึงกลิ่นต่างๆ ที่อยู่ภายในรถของคุณได้ ซึ่งมันจะช่วยลดอาการตื่นกลัวของสุนัขในระหว่างเดินทางไกลได้
วิธีฝึกสุนัขให้รู้คุ้นเคยกับการเดินทางไกล
เมื่อสุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับรถของคุณแล้ว ให้คุณลองพาสุนัขของคุณขับรถเดินทางใน ระยะสั้นๆ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวของคุณดู โดยคุณอาจจะพาสุนัขขับรถวนเล่นรอบหมู่บ้านของคุณวันละประมาณ 5 – 10 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละประมาณ 4 – 5 ครั้ง ให้คุณทำแบบนี้ไปประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ สุนัขของคุณก็จะเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินทางในระยะสั้นๆ
และเริ่มสุนัขของคุณเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับการเดินทางในระยะสั้นๆ แล้ว ก็ให้คุณเพิ่มระยะเวลาที่สุนัขต้องอยู่บนรถ กับระยะเวลาในการเดินทางให้ไกลมากยิ่งขึ้น โดยคุณอาจจะเพิ่มเวลาที่สุนัขต้องอยู่บนรถจาก 5 – 10 นาทีไปเป็นเวลา 10 – 15 นาทีแทน
ส่วนระยะทางก็จากวนรอบหมู่บ้าน ก็ให้คุณลองขับรถออกถนนใหญ่แล้วขับรถวนเล่นบริเวณแถวนั้นดู ให้คุณค่อยๆ เพิ่มระยะทางกับเวลาที่สุนัขต้องอยู่ไปรถไปทีละนิด ให้คุณทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุนัขของคุณก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับการทางเดินไกลเอง
3. ให้สุนัขนั่งเบาะหลังรถ
การให้สุนัขของคุณได้นั่งที่เบาะหลังรถในระหว่างเดินทางไกลด้วยรถยนต์ส่วนตัวของคุณ จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
เพราะพื้นที่เบาะหลังจะมีพื้นที่มากกว่าพื้นที่เบาะหน้าเป็นอย่างมาก แถมมันยังช่วยไม่ให้สุนัขมารบกวนคุณในระหว่างที่คุณกำลังขับรถอยู่ได้
อุปกรณ์ที่คุณต้องเตรียมไว้ที่เบาะหลังรถของคุณ
- เบาะรองนั่งสำหรับสุนัข กับสายรัดนิรภัยสำหรับสุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณได้รับอุบัติเหตุในระหว่างทางเดินไกลได้
- เตรียมกระติกใส่น้ำแบบมีฝาปิดที่เป็นแก้วพลาสติก ที่คุณสามารถเปิดฝาแล้วเทน้ำใส่ฝาพลาสติกแล้วให้สุนัขของคุณทานน้ำได้เลย
- อาหารเม็ด (ไม่แนะนำอาหารเปียกเพราะจะมีโอกาสหกเลอะเทอะบนตัวรถของคุณได้)
- ขนมของสุนัข ขนมสุดโปรดของสุนัขจะเป็นตัวช่วยคลายเครียดให้สุนัขของคุณในระหว่างเดินทางไกลได้
- ของเล่น หรือตุ๊กตาที่สุนัขชอบ ของเล่นเหล่านี้จะเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้สุนัขรู้สึกเครียดเมื่อต้องอยู่บนรถ
- และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ คุณต้องหาคนมาดูแลสุนัขของคุณในระหว่างที่ทางเดินไกล
4. ตรวจสอบดูว่าที่พักที่คุณจะไปนั้น เค้าอนุญาตให้สุนัขเข้าพักได้หรือไม่
ก่อนที่คุณจะพาสุนัขของคุณออกทริปหรือเดินทางไกล ให้คุณลองหาข้อมูลดูก่อนว่า สถานที่ที่คุณจะเข้าพัก หรือจุดหมายปลายทางของคุณนั้น เค้าอนุญาตให้สุนัขของคุณเข้าไปใช้บริการหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พักอาศัย ร้านอาหาร รวมถึงสถานที่แหล่งเที่ยวต่างๆ สถานที่เหล่านี้เค้าอนุญาตให้สุนัขของคุณเข้าไปใช้บริการได้หรือไม่
มันคงจะเสียอารมณ์ไม่ใช้น้อยถ้าคุณขับรถมาเป็นเวลา 4 – 5 ชั่วโมง แล้วพบว่าโรงแรมที่คุณจะเข้าพักนั้นไม่อนุญาตให้สุนัขเข้าพักได้ ดังนั้นก่อนที่คุณจะเดินทางไกลไปไหน ให้คุณหาข้อมูลหรือโทรไปสอบถามสถานที่เหล่านั้นว่า เค้าอนุญาตให้สุนัขเข้าไปใช้บริการได้ไหม
5. ใส่ข้อมูลติดต่อของคุณลงไปที่ปลอกคอของสุนัข
การพาสุนัขไปท่องเที่ยวสถานที่ห่างไกลบ้านของคุณ รวมถึงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านจำนวนมหาศาล จะมีโอกาสสูงมากที่คุณอาจจะเกิดผลัดหลงกับสุนัขของคุณได้ง่าย
ดังนั้นทางที่ดีคุณควรใส่ข้อมูลต่างๆ ที่สามารถติดต่อคุณได้ไว้ลงบนปลอกคอของสุนัขอย่างเช่น
- ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรของคุณ
- line id
เผื่อคุณเกิดพลัดหลงกับสุนัขแล้วมีคนอื่นมาเจอตัวสุนัขของคุณ พวกเค้าจะได้ติดต่อหาคุณได้
กับอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องใส่ใจก็คือ ให้คุณหาเบอร์โทรของโรงพยาบาลสัตว์ ,คลินิกรักษาสัตว์ ,สถานีตำรวจ รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่สำคัญต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่คุณกำลังท่องเที่ยวอยู่
เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินสุนัขของคุณเกิดล้มป่วยระหว่างทาง คุณจะได้พาสุนัขของคุณไปรักษาไปรักษาได้ทันกาล
6. หยุดพักรถระหว่างทางเดินทางไกลบ้าง
สุนัขของคุณอาจจะมีความเครียดสะสมขึ้นมาได้ ถ้าพวกมันต้องนั่งรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นเพื่อให้สุนัขของคุณรู้สึกผ่อนคลาย คุณควรอยู่พักรถบ้าง ทุกครั้งที่คุณขับรถไปได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
โดยคุณอาจจะหยุดพักรถตามปั้มน้ำมัน หรือตามจุดซื้อของฝากต่างๆ เพื่อให้สุนัขของคุณได้ลงมาเดินเล่น สูดอากาศ ลงมาทานน้ำทานขนม
ให้คุณหยุดพักรถอยู่ประมาณ 15 – 20 นาที เสร็จแล้วคุณถึงค่อยเดินทางต่อ การให้คุณแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายทางของคุณ การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกผ่อนคลายจากการเดินทางไกล ด้วยรถยนต์โดยสารส่วนตัวได้