บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 3 เทคนิคที่ช่วยให้สุนัขทานผักผลไม้ได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงประโยชน์ของการให้สุนัขทานผักและผลไม้นั้นมีอะไรกันบ้าง
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่ยังคิดไม่ออกว่า ควรจะหาวิธีไหนที่ทำให้สุนัขของตัวเองทานผักและผลไม้ได้
คุณก็สามารถนำคำแนะนำต่างๆ ของบทความนี้ไปปรับใช้ดูครับ มันจะเป็นวิธีช่วยให้สุนัขของคุณทานผักผลไม้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้อดีของการให้สุนัขทานผักผลไม้อยู่เป็นประจำ
หัวข้อนี้จะมาบอกถึงประโยชน์ของการให้สุนัขทานผักและผลไม้อยู่เป็นประจำว่า ถ้าคุณช่วยบำรุงร่างกายของสุนัขในด้านไหน คุณควรให้สุนัขของคุณทานผักผลไม้ชนิดไหนบ้าง
ถ้าคุณอยากบำรุงหลอดเลือดและหัวใจของสุนัข คุณควรให้สุนัขของคุณทาน
- แอปเปิ้ล
- แตงโม
- สตรอเบอรี่
- บีทรูท
ถ้าคุณอยากให้ลูกสุนัขเจริญเติบโตแข็งแรงสมวัยและมีพัฒนาการที่ดี คุณควรให้ลูกสุนัขของคุณทาน
- มะม่วง
- ฟักทอง
- แครอท
- มะละกอ
- แคนตาลูป
ถ้าคุณอยากให้สุนัขของคุณมีระบบขับถ่ายที่ดีคุณควรให้สุนัขของคุณทาน
- ถั่วลันเตา
- บล็อกโคลี่
- เมลอน
- แอปเปิ้ลเขียว
- แอปเปิ้ลแดง
- ส้ม
- สับปะรด
ถ้าคุณอยากลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในสุนัข คุณควรให้สุนัขของคุณทาน
- ลูกพรุน
- มันหวานญี่ปุ่น
- กระหล่ำปลีม่วง
- บลูเบอรี่
ถ้าคุณอยากลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดของสุนัข คุณควรให้สุนัขของคุณทาน
- รากบัว
- กล้วย
- ผักกาดขาว
- ลูกแพร์
ข้อควรระวังในการทานผักและผลไม้ของสุนัข
จะมีผักและผลไม้บางชนิดที่สุนัของคุณไม่สามารถทานได้เลยอย่างเช่น
- อัลม่อน
- วอลนัท
- อโวคาโด้
- หัวหอม
- กระเทียม
สุนัขของคุณอาจจะเสียชีวิตลงได้ในทันทีหลังจากที่ทานผักผลไม้เหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นก่อนที่คุณจะให้สุนัขของคุณทานผักผลไม้ชนิดไหน ให้คุณศึกษาดูก่อนว่าสุนัขของคุณสามารถทานสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่
3 เทคนิคที่ช่วยให้สุนัขทานผักผลไม้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
1. ใส่ผักผลไม้ลงไปในอาหารเม็ด
คุณสามารถให้สุนัขของคุณทานผักและผลไม้ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการฉีกผักและผลไม้ที่สุนัขสามารถทานได้ ออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ
แล้วให้คุณนำผักผลไม้ที่ฉีกแล้วไปใส่ผสมรวมกันกับอาหารเม็ดที่คุณจะให้สุนัขของคุณได้ทานในแต่ละมื้อ โดยให้คุณใส่ผักผลไม้ลงไปในจานข้าวของสุนัขประมาณ 20 % ของมื้ออาหารมื้อนั้น
และเพื่อให้สุนัขของคุณสามารถทานผักได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณควรนำผักที่สุนัขสามารถทานได้ไปต้มให้สุกเสียก่อน
สำหรับวิธีนี้นอกจากอาหารเม็ดแล้ว คุณยังสามารถนำผักผลไม้ไปผสมไว้ในอาหารเปียก กับอาหารปรุงสุกที่คุณทำขึ้นมา แล้วให้สุนัขของคุณทานก็ได้เหมือนกัน
ถ้าเป็นไปได้คุณควรให้สุนัขของคุณทานอาหารเม็ด หรืออาหารเปียกที่มีผักและผลไม้ผสมอยู่สัปดาห์ละ 3 – 4 มื้อ จะเป็นอะไรที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขในระยะยาวเลย
2. นำผักผลไม้ไปปั่นแล้วให้สุนัขทาน
เพื่อให้สุนัขของคุณทานผักและผลไม้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น คุณสามารถนำผักกับผลไม้ที่สุนัขสามารถทานได้ ไปปั่นให้ละเอียดเป็นน้ำแล้วให้สุนัขของคุณกินได้เลย
แต่มีสิ่งที่คุณห้ามทำอยู่อย่างสำหรับวิธีนี้ก็คือ ห้ามคุณใส่น้ำเชื่อม กับสารปรุงแต่งใดๆ ลงไปในน้ำผักผลไม้โดยเด็ดขาด เพราะไตของสุนัขต้องทำงานหนักถึง 2 – 3 เท่า ในการกรองของเสียเหล่านี้ออกสู่ร่างกาย ซึ่งมันอาจจะส่งทำให้ไตของสุนัขเสื่อมได้ง่ายในอนาคต
วิธีนี้นอกจากจะให้สุนัขของคุณได้ทานผักผลไม้แล้ว มันยังช่วยให้สุนัขของคุณทานน้ำได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
3. ทำน้ำหมักผักผลไม้ให้สุนัขทาน
วิธีนี้จะค่อนข้างได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก สำหรับวิธีการหมักน้ำผักผลไม้คุณสามารถทำได้ด้วยการ
- ให้คุณเตรียมกะละมัง หรือภาชนะอะไรก็ได้ที่มีขนาดใหญ่หน่อยมา 1 ใบ
- แล้วก็ให้คุณเทน้ำเปล่าที่สะอาดลงไปในกะละมัง หรือภาชนะที่คุณเตรียมไว้ ในปริมาณเศษหนึ่งส่วนสามของภาชนะที่คุณเตรียมไว้
- เสร็จแล้วก็ให้คุณนำผักผลไม้ที่คุณเตรียมไว้อย่างเช่น มันเทศ ,กะหล่ำปลี ,แครอท ,แอปเปิ้ล (ที่แกะเม็ดออกหมดแล้ว) ,ขิง กระเทียม โดยให้คุณปอกผักผลไม้เหล่านี้ให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโยนลงไปในภาชนะที่คุณเตรียมไว้
- หลังจากนั้นก็ให้คุณเทน้ำเซเลอรี่ กับผงโพรไบโอติคส์ (Probiotics) ลงไป แล้วคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเหล่านั้นเข้ากัน
- เสร็จแล้วก็ให้คุณนำน้ำที่คุณคลุกเคล้าขึ้นมา ลงไปบรรจุไว้ในขวดพลาสติกปิดฝาให้สนิท แล้วเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
- เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว น้ำที่คุณผสมไว้ก็จะกลายเป็นน้ำหมัก ที่คุณสามารถนำไปให้สุนัขของคุณทานได้เลย
ประโยชน์ของน้ำหมักในสุนัข
สำหรับน้ำหมักสูตรนี้จะมีส่วนช่วยบำรุงเลือด และตับของสุนัข กับยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกายของสุนัขให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นโรคมะเร็งของสุนัขลงได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง
ร่างกายของสุนัขแต่ละตัวไม่เหมือนกัน จึงทำให้สุนัขบางตัวอาจจะได้รับผลข้างเคียงจากการทานน้ำหมักได้อย่างเช่น อาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนหลังจากที่ทานน้ำหมักเข้าไปได้
ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจให้สุนัขของคุณทานน้ำหมักผลไม้ คุณควรโทรไปขอคำแนะนำจากทางสัตวแพทย์ก่อนว่า สุนัขของคุณสามารถทานน้ำหมักผลไม้ได้หรือเปล่า
สำหรับคุณผู้อ่านท่านไหนที่ไม่มั่นใจว่าสุนัขของตัวเองจะสามารถทานน้ำหมักได้ไหม ทางบทความแนะนำให้คุณทำตามคำแนะนำในข้อที่ 1 กับ 2 ก็ถือว่าเพียงพอ ที่จะทำให้สุนัขของคุณสามารถทานผักและผลไม้ได้แล้ว