บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำ วิธีดูแลสุขภาพของสุนัขในแต่ละฤดู ว่าในช่วงฤดูร้อน ในช่วงหน้าฝน ในช่วงฤดูหนาว คุณควรดูแลสุขภาพของสุนัขยังไง มีสิ่งไหนที่คุณต้องระวัง เพื่อจะทำให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่ดีตลอดทั้งปี
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
วิธีดูแลสุขภาพของสุนัขในแต่ละฤดู
1. ฤดูร้อน
เรื่องอาหารการกิน
- ในช่วงอากาศร้อนคุณควรเน้นอาหารที่สดใหม่ หรือพึ่งปรุงสุกมาใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอย่าให้สุนัขของคุณทานอาหารค้างมื้อโดยเด็ดขาด เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดนั้นจะทำให้อาหารของสุนัขเน่าบูดได้ง่ายกว่าปกติ
- ควรให้สุนัขดื่มน้ำอยู่เป็นประจำ เพราะในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ร่างกายของสุนัขจะสูญเสียปริมาณน้ำในร่างกายได้ง่าย ซึ่งมันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้
การออกกำลังกาย
- คุณควรให้สุนัขของคุณออกกำลังกายช่วงเวลาประมาณ 6.00 – 7.00 น. กับช่วงหลัง 17.00 น.ไปแล้ว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดไม่แรงจัดมากนัก เหมาะสำหรับการออกกำลังกายให้กับสุนัขเป็นอย่างยิ่ง
- หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณไปออกกำลังกายในช่วงเวลา 12.00 – 15.00 น. โดยเด็ดขาด เพราะช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่มีแสงแดดร้อนที่สุดในแต่ละวัน มันจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคฮีทสโตรกขึ้นมาได้ง่าย ถ้าออกกำลังกายในที่ที่มีแดดร้อนจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงอย่างให้สุนัขเดินบนพื้นปูนซีเมนต์ หรือเดินบนพื้นยางมะตอยโดยเด็ดขาด เพราะพื้นที่เหล่านี้จะเป็นพื้นที่ที่สะสมความร้อนได้เป็นอย่างดี มันอาจจะทำให้เท้าของสุนัขเกิดเป็นแผลพุพองจากการเดินพื้นที่เหล่านี้ได้
การอาบน้ำ
- ในช่วงที่มีอากาศที่ร้อนจัดคุณควรเพิ่มจำนวนครั้งการอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณเป็นประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อเดือน เพื่อเป็นการช่วยคลายร้อนให้กับสุนัข
- คุณควรอาบน้ำให้กับสุนัขหลังในช่วงเวลา 17.00 น. ไปแล้ว ในช่วงเวลานี้อากาศจะเริ่มเย็นลงแล้ว ห้ามคุณอาบน้ำให้กับสุนัขในช่วงเวลาประมาณ 11.00 – 15.00 น. โดยเด็ดขาด เพราะร่างกายของสุนัขอาจจะปรับตัวกับอากาศร้อนไม่ทัน จนเกิดอาการช็อคจากน้ำที่เย็นจัดได้
2. ฤดูฝน
คราบสีเหลืองเกาะติดตามตัว
ในช่วงหน้าฝนจะมีสภาพอากาศอับชื้นติดต่อกันเป็นเวลานาน มันจะส่งผลทำให้สุนัขมีกลิ่นตัว รวมถึงยังมีคราบสีเหลืองเกาะติดตามตัวของสุนัขอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุ้งเท้า ลำตัว ใต้ท้อง ใต้หู รวมถึงบริเวณรอบปาก
แต่คุณสามารถกำจัดคราบเหลืองเหล่านี้ได้ด้วยการ อาบน้ำให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ หรือคุณอาจจะนำผ้าขนหนูเอามาชุบน้ำเปล่าที่สะอาด แล้วมาเช็คทำความสะอาดตรงบริเวณที่เกิดคราบสีเหลืองของสุนัขก็ได้เหมือนกัน
พาสุนัขไปตัดขน
ในช่วงหน้าฝนขนของสุนัขจะมีความอับชื้นสูง ซึ่งมันอาจจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาได้ ถ้าคุณอยากลดความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนังของสุนัขในช่วงหน้าฝน
คุณควรพาสุนัขของคุณไปตัดขนออกบางส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดซ่อนเร้นที่จะมีโอกาสเกิดคราบเหลืองอย่างเช่น ขนใต้ท้อง ขนตรงอุ้งเท้า และขนที่ใต้หูเป็นต้น
ให้สุนัขทานอาหารเม็ดในช่วงหน้าฝน
สาเหตุที่ให้สุนัขทานแต่อาหารเม็ดในช่วงหน้าฝนนั้นก็เพราะว่า หลังจากที่สุนัขทานอาหารเสร็จ จะไม่มีคราบต่างๆ เกาะติดอยู่ที่ขนตามปากของสุนัข เหมือนกับอาหารเปียก
ซึ่งคราบอาหารเหล่านี้อาจจะส่งผลทำให้ขนตรงบริเวณหน้าของสุนัขเกิดเป็นคราบเหลืองขึ้นมาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็สามารถให้สุนัขของคุณทานอาหารเปียกในช่วงหน้าฝนได้นะ แต่หลังจากที่ทานเสร็จ
ให้คุณหาผ้าชุบน้ำเปล่ามาเช็ดทำความสะอาดบริเวณขนที่อยู่รอบปากของสุนัขอีกทีหนึ่ง ก็จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้
อาบน้ำให้กับสุนัขทุกครั้งที่พวกมันไปวิ่งเล่นตากฝนกลับมา
โดยส่วนใหญ่สุนัขเป็นสัตว์ที่มีนิสัยซุกซนกันอยู่แล้ว จึงทำให้มีหลายครั้งที่สุนัขเห็นฝนแล้วพวกมันมักจะชอบออกไปวิ่งเล่นตากฝนจนเนื้อตัวสกปรกมอมแมมกลับมาให้คุณเห็นอยู่เป็นประจำ
เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังจากขนที่เปียกชื้นจากน้ำฝน คุณควรอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณในทันที ทุกครั้งที่คุณพบว่าพวกมันไปวิ่งเล่นตากฝนกลับมา
และคุณต้องเป่าขนของสุนัขให้แห้งสนิททุกครั้งหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณเกิดป่วยเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาจากขนที่เปียกหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ
3. ฤดูหนาว
ใส่เสื้อผ้าให้กับสุนัข
คุณควรสวมเสื้อผ้าให้กับสุนัขของคุณทุกครั้ง เมื่อคุณรู้สึกว่าในช่วงนี้มีสภาพอากาศที่หนาวจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคหวัดในช่วงที่มีอากาศหนาวจัด
ให้สุนัขออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ
การออกกำลังกายจะเป็นการวอร์มร่างกายทำให้ร่างกายของสุนัขอบอุ่นอยู่เสมอ ซึ่งมันจะช่วยป้องกันโรคหวัดของสุนัขในช่วงหน้าหนาวได้
โดยการออกกำลังกายของสุนัขอาจจะเป็นการ
- เล่นวิ่งไล่จับ
- พาสุนัขไปเดินเล่นนอกบ้าน
- เล่นซ่อนหากับสุนัข
- โยนตุ๊กตาแล้วให้สุนัขไปคาบกลับ
คุณควรทำกิจกรรมเหล่านี้อยู่เป็นประจำวันละประมาณ 10 – 15 นาที ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหวัดของสุนัขไปได้เยอะเลย
งดการอาบน้ำ
คุณไม่ควรอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณในช่วงหน้าหนาวเลย เพราะสุนัขของคุณอาจจะเกิดอาการช็อคจากน้ำที่เย็นจัดได้
คุณควรเปลื่ยนมาใช้วิธีเช็คตัวทำความสะอาดของสุนัขด้วยผ้าห่มขนหนูชุปน้ำอุ่นจะเป็นการดีกว่า (น้ำอุ่นที่คุณใช้ต้องเป็นน้ำที่มีณหภูมิพอดีพอเหมาะไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดจนเกินไป )
และคุณต้องใช้ผ้าแห้งที่สะอาดเช็คตัวของสุนัขซ้ำอีกทีหนึ่ง หลังจากที่คุณเช็คตัวของสุนัขจนเสร็จแล้ว
ให้สุนัขทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
การให้สุนัขทานอาหารที่มีโปรตีนสูง จะช่วยเสริมสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของสุนัขในช่วงหน้าหนาวได้ ซึ่งมันจะช่วยให้ร่างกายของสุนัขสามารถทนต่อสภาพอากาศที่หนาวจัดได้เป็นอย่างดี