บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำ 6 วิธีที่ช่วยให้สุนัขสามารถปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น ว่ามีสิ่งไหนที่คุณควรทำให้กับสุนัขบ้าง เมื่อสุนัขย้ายไปอยู่ที่ใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสุนัขต้องย้ายบ้านใหม่
สุนัขจะรู้สึกเครียดเป็นอย่างมากเมื่อต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ พวกมันจะรู้สึกวิตกกังวลกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่ทำให้พวกมันรู้สึกไม่คุ้นเคย
และถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณมีความเครียดสะสมมากๆ เข้าโดยที่คุณไม่ทำอะไรเลย มันจะทำให้พฤติกรรมต่างๆ ของสุนัขเปลื่ยนแปลงไป สุนัขของคุณจะเริ่มมีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น
จนเป็นเหตุทำให้สุนัขมักจะชอบขู่และกัดคุณอยู่เสมอทุกครั้งที่พวกมันมีโอกาส รวมถึงสุนัขของวิ่งทำลายข้าวของบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขของคุณต้องเป็นแบบนี้
คุณต้องหาทางทำให้สุนัขของคุณปรับตัวให้ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อต้องย้ายมาอยู่ในสถานที่แห่งใหม่
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ อย่าเครียด
มีหลายคนเลยที่มักจะมีความเครียดสะสมเมื่อต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ เพราะพวกคุณต้องคอยกำจัดกับเรื่องต่างๆ ที่น่าปวดหัวไม่ว่าจะเป็น
- ค่าผ่อนบ้านที่คุณต้องผ่อนในแต่ละเดือน
- การขนย้ายสิ่งของต่างๆ เข้ามายังบ้านของคุณ
- การติดต่อให้ช่างมาเดินสายไฟ ทําก๊อกน้ำ ทำครัว ติดตั้งหลอดไฟ ติดตั้งอินเตอร์เน็ต
สิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลทำให้คุณรู้สึกเครียดขึ้นมาได้ ซึ่งความเครียดเหล่านั้นมันจะส่งผลกระทบไปต่อสุนัขของคุณได้ เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่สามารถตรวจจับความรู้สึก และอารมณ์ของมนุษย์ได้
ซึ่งความเครียดของคุณ ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพจิตใจของสุนัขขึ้นมาได้ มันจะทำให้สุนัขรู้สึกเครียดและวิตกกังวลมากขึ้นยิ่งไปอีก
ถ้าคุณไม่อยากให้สุนัขของคุณต้องเครียดมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้ คุณต้องทำกิจกรรมการย้ายบ้านของคุณอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรจะรีบเร่งอะไรมากนัก เพราะมันจะไม่เป็นผลดีทั้งกับตัวของคุณและสุนัขของคุณ
รวมถึงคุณควรให้กำลังใจสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำโดยการเข้าไป ลูบหัว ลูบตัว กอด และคุยเล่นกับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลให้กับสุนัขของคุณได้
6 วิธีที่ช่วยให้สุนัขสามารถปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
1. ใช้สเปรย์ปรับอากาศเข้ามาช่วย
กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นจะเป็นตัวช่วยทำให้สุนัขรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยเมื่อต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ จึงทำให้คุณสามารถปรับใช้นิสัยเหล่านี้ของสุนัขได้ด้วยการ
ก่อนช่วงเวลาที่คุณจะย้ายบ้านประมาณ 2 – 3 เดือน ให้คุณไปหาซื้อสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นที่คุณชื่นชอบ (ควรเป็นกลิ่นแบบธรรมชาติ ไม่ใช่กลิ่นที่ฉุนจนเกินไป)
แล้วให้คุณนำสเปรย์ปรับอากาศขวดนั้นไปฉีดไว้ตามสถานที่ต่างๆ ในบ้านหลังเก่าของคุณ รวมถึงจุดที่สุนัขของคุณพักอาศัยอยู่เป็นประจำ การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นนี้
และเมื่อคุณย้ายมายังบ้านหลังใหม่ ก็ให้คุณใช้สเปรย์กลิ่นเดิมฉีดไปยังสถานที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ รวมถึงพื้นที่ที่คุณจัดให้สุนัขพักอาศัย และเมื่อสุนัขได้กลิ่นที่คุ้นเคยกับสเปรย์ปรับอากาศแล้ว ก็จะทำให้สุนัขรู้สึกสงบลงได้
2. พาสุนัขไปทำความรู้จักกับบ้านหลังใหม่
ก่อนที่คุณจะย้ายบ้านสักประมาณ 3 – 4 เดือน ให้คุณพาสุนัขของคุณไปเดินเล่นสำรวจพื้นที่ในบ้านหลังใหม่ก่อน
เพื่อให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ของคุณ แล้วถ้าจะให้ดีคุณควรบอกกับสุนัขของคุณว่า บ้านหลังนี้คือสถานที่แห่งใหม่ที่สุนัขต้องอยู่
ให้คุณทำแบบนี้อยู่เป็นประจำเดือนละประมาณ 3 – 4 ครั้ง ก่อนที่คุณจะทำการย้ายบ้าน ก็จะช่วยลดความตื่นกลัวของสุนัขลงได้
3. จัดห้องส่วนตัวให้สุนัขพักอาศัย
ถ้าคุณอยากให้สุนัขของคุณปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณควรหาห้องส่วนตัวให้สุนัขของคุณได้อยู่โดยเฉพาะ
ซึ่งห้องดังกล่าวต้องมีสภาพความเป็นอยู่เหมือนกับพื้นที่ที่สุนัขพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าเลย คือให้คุณจัดห้องแห่งนี้ให้เหมือนกับห้องที่สุนัขพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่า
ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางของเล่นไว้ยังจุดเดิม มีชามให้น้ำสุนัขใบเดิม มีเตียงนอนอันเก่าที่สุนัขใช้นอนอยู่เป็นประจำ
รวมถึงให้คุณหาผ้าเช็ดตัวซักผืนมาถูตามตัวของสุนัข เพื่อให้มีกลิ่นตัวของสุนัขเกาะติดอยู่บนผ้าเช็คตัว แล้วก็ให้คุณนำผ้าเช็คตัวผืนนั้น ไปเช็คตามจุดต่างๆ ในห้องที่สุนัขของคุณพักอาศัยอยู่
สุนัขจะรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมาก ถ้ามีกลิ่นตัวของพวกมันเกาะติดอยู่ตามจุดต่างๆ ที่พวกมันกำลังพักอาศัยอยู่ และสุนัขจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายลง เมื่อพวกมันได้อยู่ในห้องที่มีสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
4. ใช้กระบะทรายของสุนัขอันเดิม
ปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขแทบทุกตัวที่พึ่งย้ายมาอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ก็คือ สุนัขจะไม่ยอมขับถ่ายอุจจาระออกมา เพราะพวกมันรู้สึกไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งใหม่
โดยคุณสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการ ให้สุนัขใช้กระบะทรายอันเก่าที่สุนัขใช้อยู่เป็นประจำ วางไว้ยังจุดที่เป็นมุมสงบในบ้านของคุณ การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณกลับมาขับถ่ายได้เหมือนปกติ
แล้วเมื่อคุณทำให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่แล้ว คุณถึงค่อยซื้อกระบะทรายอันใหม่มาให้สุนัขของคุณได้ใช้
5. ให้คุณใช้ชีวิตเหมือนเดิมเหมือนตอนที่อยู่บ้านหลังเก่า
การทำกิจกรรมเดิมๆ เหมือนกับตอนที่คุณอยู่บ้านหลังเก่า ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้สุนัขของคุณปรับตัวได้ไวมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณชอบพาสุนัขของคุณไปเดินเล่นในทุกวันศุกร์ คุณก็ควรพาสุนัขของคุณไปเดินเล่นในทุกวันศุกร์เหมือนกัน เมื่อคุณย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่
หรือคุณชอบเปิดรายการทีวีนี้อยู่เป็นประจำ คุณก็ควรเปิดรายการทีวีนี้ให้สุนัขของคุณดูอยู่เป็นประจำ เมื่อคุณยังมาอยู่ในบ้านหลังใหม่
การทำแบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณรู้สึกคุ้นเคย และสามารถปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
6. ออกกำลังกายให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำ
การออกกำลังกายให้กับสุนัขอยู่เป็นประจำนั้น จะช่วยลดความเครียดให้กับสุนัขลงได้ และเพื่อให้ผลดีมากยิ่งขึ้น คุณควรมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายกับสุนัขด้วยอย่างเช่น
- เล่นวิ่งไล่จับกับสุนัขของคุณ
- พาสุนัขไปเดินเล่นในสนามหญ้า
- พาสุนัขเดินเล่นบริเวณรอบหมู่บ้านของคุณ
- โยนจานร่อนแล้วสั่งให้สุนัขวิ่งไปคาบกลับมา
สิ่งเหล่านี้จะช่วยคลายความเครียดให้กับสุนัขของคุณ และเมื่อความเครียดลดลง ก็จะทำให้สุนัขปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
โดยปกติแล้วสุนัขจะใช้เวลาปรับตัวกับบ้านหลังใหม่อยู่ที่ประมาณ 1 – 2 เดือน แต่ถ้าเวลาผ่านไป 2 เดือนแล้ว สุนัขของคุณยังไม่สามารถปรับตัวได้
พวกมันยังมีอาการเครียด วิตกกังวล ไม่ร่าเริงเบื่ออาหาร และชอบเก็บตัว ถ้าสุนัขของคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณเข้าพบสัตวแพทย์โดยทันที
เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ได้ตรวจหาสาเหตุ และหาวิธีรักษาอาการเหล่านี้ของสุนัข ในขั้นตอนต่อๆ ไป