วิธีดูแลขนของสุนัขในช่วงหน้าร้อน

วิธีดูแลขนของสุนัขในช่วงหน้าร้อน

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง วิธีดูแลขนของสุนัขในช่วงหน้าร้อน ว่าคุณควรดูแลขนของสุนัขอย่างไรบ้างถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ขนยาว ขนปานกลาง ขนสั้น และหน้าย่น

รวมถึงวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรกอย่างเบื้องต้น ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

วิธีดูแลขนของสุนัขแต่ละประเภทในช่วงหน้าร้อน

1. สุนัขขนยาว

สุนัขสายพันธุ์ขนยาวจะค่อนข้างป่วยเป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้ง่ายเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์ขนยาวที่มีขนหนาถึง 2 ชั้นอย่างเช่น

  • สุนัขชิสุ
  • เชา เชา
  • ปอมเมอเรเนียน

และเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ป่วยเป็นโรคลมแดดได้ง่ายในช่วงหน้าร้อน คุณควรหาวิธีป้องกันด้วยการพาสุนัขของคุณไปตัดขนให้สั้น

กับหมั่นแปรงขนให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนพันกันจนกลายเป็นสังกะตัง คุณควรแปรงขนให้กับสุนัขของคุณวันละประมาณ 5 – 10 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละประมาณ 4 – 5 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

พยายามหลีกเลี่ยงอย่าอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณมากครั้งจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อผิวหนังของสุนัข ทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาได้ คุณควรอาบน้ำให้กับสุนัขของคุณเดือนละ 1 – 2 ครั้งก็พอแล้ว

สุนัขพูเดิ้ลดูแลขนยังไงดี

2. สุนัขขนยาวปานกลาง

สำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนยาวปานกลางอย่างเช่น

  • พูเดิ้ล
  • บางแก้ว
  • โกลเด้น รีทริฟเวอร์

ถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้อยู่ คุณควรหมั่นแปรงขนตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นของพวกมันอยู่เป็นประจำอย่างเช่น

  • ขนรอบดวงตา
  • ขนรอบปาก
  • ขนใต้อุ้งเท้า
  • ขนใต้ท้อง
  • ขนบริเวณรอบก้น

ขนตรงบริเวณเหล่านี้จะพันกันเป็นสังกะตังได้ง่าย คุณต้องหมั่นแปรงขนที่บริเวณเหล่านี้อยู่เป็นประจำวันละประมาณ 5 – 10 นาที

เพื่อเป็นการช่วยหวีขนที่หลุดร่วงอยู่ตามตัวออกมา รวมถึงจนช่วยให้ขนของสุนัขคลายตัว ไม่พันกันจนกลายเป็นสังกะตังอีกด้วย

รวมถึงให้คุณหลีกเลี่ยงอย่าให้สุนัขของคุณต้องอยู่ในที่ที่มีแสงแดดร้อนจัดติดต่อกันโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคลมแดดขึ้นมาได้

แถมยังทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคแผลพุพอง หรือภาวะผิวหนังอักเสบจากการถูกแดดเผาขึ้นมาได้ ซึ่งอาการเหล่านี้ก็เกิดกับสุนัขสายพันธุ์ขนยาวด้วยเหมือนกัน

3. สุนัขขนสั้น

สำหรับสุนัขสายพันธุ์ขนสั้นอย่างเช่น

  • บีเกิล
  • ไทยหลังอาน
  • มิเนเจอร์พินช์เชอร์

คุณไม่จำเป็นต้องดูแลขนอะไรให้กับพวกมันมากนัก คุณเพียงใช้แปรงสลิคเกอร์ หรือแปรงขนลวดสางขนให้กับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ

ควบคู่กับการใช้แปรงขนหมู แปรงขนของสุนัขซ้ำลงอีกที เพียงเท่านี้สุนัขของคุณก็จะมีเส้นขนที่เงางามอยู่เสมอแล้ว

เพราะแปรงสลิคเกอร์ จะช่วยให้ขนของสุนัขคลายตัว ส่วนแปรงขนหมู จะช่วยนวดให้ผิวหนังของสุนัขผลิตน้ำมันชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งน้ำมันชนิดนี้จะมีส่วนช่วยบำรุงผิวหนังของสุนัข ให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ

ข้อควรระวัง

ห้ามสุนัขของคุณไปนอนอาบแดดติดต่อกันเป็นเวลายาวนานอย่างต่อเนื่องโดยเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้สุนัขของคุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังขึ้นมาได้ แถมมันยังทำให้สีขนของสุนัขดูซีดลงอีกด้วย

วิธีดูแลสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น

4. สุนัขสายพันธุ์หน้าย่น

สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์หน้าย่นอย่างเช่น

  • ชาเป๋ย
  • บูลด็อก
  • เฟรนช์ บูลด็อก

คุณควรหาผ้าชุบน้ำ หรือสำลีชุบน้ำมาเช็ดตรงบริเวณร่องแก้ม กับรอยย่นตามหน้ากับตามร่างกายของสุนัขก่อน

เพราะตรงบริเวณเหล่านี้จะเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งมันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณมีกลิ่นตัว และป่วยเป็นโรคผิวหนังขึ้นมาได้

และหลังจากที่คุณเช็คทำความสะอาดตรงบริเวณส่วนนี้แล้ว คุณค่อยแปรงขนให้กับสุนัขของคุณ ด้วยแปรงขนลวด กับแปรงขนหมูอยู่เป็นประจำก็ถือว่าเพียงพอแล้ว