บทนำ
บทความนี้จะมาพูดถึงการวางยาสลบในสุนัข ว่าการวางยาสลบในสุนัขจะมีอันตรายใดๆ ต่อร่างกายของสุนัขหรือเปล่า ขั้นตอนการวางยาสลบให้กับสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
ทำไมถึงต้องวางยาสลบให้กับสุนัข
โดยปกติแล้วการวางยาสลบให้กับสุนัขมักจะใช้ในตอนที่ต้องการผ่าตัดใหญ่ให้กับสุนัข ซึ่งมันจะช่วยให้สุนัขไม่รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างผ่าตัด กับช่วยให้ขั้นตอนการผ่าตัดของทางสัตวแพทย์ผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะถ้าไม่ใช้ยาสลบก่อนที่จะทำการผ่าตัดสุนัขเกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อและดิ้นในระหว่างผ่าตัด จนทำให้สัตวแพทย์ไม่สามารถผ่าตัดสุนัขได้เลย
ยาสลบเป็นอันตรายต่อสุนัขไหม
คุณไม่ต้องกังวลไปว่าสุนัขของคุณจะได้รับอันตรายใดๆ จากการใช้ยาสลบหรือเปล่าเพราะก่อนที่จะทำการวางยาสลบให้กับสุนัข ทางสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวางยาสลบให้กับสุนัข
เค้าจะคำนวณดูก่อนว่าสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขสายพันธุ์อะไร มีน้ำหนักเท่าไหร่ อยู่ในช่วงวัยไหน จนได้ปริมาณยาสลบที่เหมาะสมกับร่างกายของสุนัข
และคนที่จะวางยาสลบให้กับคุณได้นั้น ต้องเป็นวิสัญญีสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการวางยาสลบสุนัขแต่เพียงเท่านั้น
สัตวแพทย์แบบปกติไม่สามารถวางยาสลบให้กับสุนัขของคุณได้ โดยก่อนที่จะทำการวางยาสลบทางวิสัญญีสัตวแพทย์จะคํานึงถึงความปลอดภัยของชีวิตสุนัขเป็นอันดับแรกสุด
วิธีวางยาสลบให้กับสุนัข
การวางยาสลบให้กับสุนัขสามารถทำได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการฉีด การดม หรือการใช้ยาชาเข้าไปบล็อกตามจุดต่างๆ ของร่างกายสุนัข โดยแต่ละวิธีที่จะใช้นั้นก็จะขึ้นอยู่กับโรคที่สุนัขกำลังเป็นอยู่
สำหรับขั้นตอนการวางยาสลบให้กับสุนัขจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ตรวจสุขภาพร่างกายให้กับสุนัข
โดยก่อนที่ทางสัตวแพทย์จะทำการวางยาสลบให้กับสุนัข ทางสัตวแพทย์จะตรวจร่างกายของสุนัขอย่างละเอียดก่อนว่า
สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหน้านั้นหรือเปล่า สุนัขมีโรคประจำตัวหรือไม่ สุขภาพโดยรวมของสุนัขเป็นอย่างไร ร่างกายของสุนัขแข็งแรงพอที่จะได้รับยาสลบหรือไม่
2. นัดให้สุนัขมาผ่าตัด
หลังจากตรวจสุขภาพของสุนัขจนเสร็จแล้ว ทางสัตวแพทย์ประเมินได้แล้วว่า สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงพอที่จะรับยาสลบได้ ทางสัตวแพทย์ก็จะนัดเวลาให้คุณพาสุนัขเข้ามารับการผ่าตัด
โดยในวันที่สุนัขของคุณจะทำการผ่าตัด คุณต้องงดไม่ให้สุนัขของคุณทานข้าวทานน้ำเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง สุนัขของคุณถึงจะเข้ารับการผ่าตัดได้