บทนำ
สุนัขต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง น่าจะเป็นคำถามที่คนเลี้ยงสุนัขหลายอยากรู้ โดยบทความนี้จะบอกว่า คุณควรพาสุนัขไปฉีดวัคซีนประเภทไหน ตอนอายุเท่าไหร่ดี
การฉีดวัคซีนจะสามารถช่วยป้องกันโรคต่างๆ ให้กับสุนัขของคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างเช่น โรคพิษสุนัขบ้า กับโรคพยาธิหนอนหัวใจ
ซึ่งถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคเหล่านี้แล้ว จะมีโอกาสสูงที่สุนัขของคุณ อาจจะเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้ลงได้
รวมถึงทางบทความจะแนะนำให้คุณพาสุนัขของคุณไปถ่ายพยาธิอยู่เป็นประจำ กับวิธีกำจัดเห็บหมัดของสุนัขอย่างเบื้องต้น เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข
ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนกำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ
สุนัขต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง
อย่างแรกที่คุณต้องดูก่อนว่าสุนัขของคุณนั้นมีอายุเท่าไหร่แล้ว สุนัขของคุณเคยผ่านการฉีดวัคซีนอะไรมาแล้วบ้าง (โดยคุณสามารถโทรไปถามจากฟาร์มที่คุณซื้อสุนัขมาเลยได้ว่า สุนัขของคุณผ่านการฉีดวัคซีนชนิดไหนมาแล้วบ้าง)
แต่ในกรณีที่สุนัขของคุณไม่เคยฉีดวัคซีนมาเลย ให้คุณพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข กับวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบก่อน
ซึ่งในปัจจุบันคุณสามารถพาสุนัขของคุณเข้ารับการฉีดวัคซีนรวมได้เลย ซึ่งวัคซีนรวมของสุนัขจะครอบคลุมโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัขได้แก่
- โรคฉี่หนู
- โรคตับอักเสบ
- โรคไข้หัดสุนัข
- โรคลำไส้อักเสบ
วัคซีนรวมถือว่าเป็นวัคซีนที่สุนัขทุกตัวต้องฉีด
ลูกสุนัขต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง
โดยหลักๆ แล้วลูกสุนัขจำเป็นต้องฉีดวัคซีนดังต่อไปนี้
เมื่อลูกสุนัขมีอายุครบ 2 เดือน
เมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุครบ 2 เดือน วัคซีนที่คุณต้องพาลูกสุนัขของคุณไปฉีดก็จะมี
- วัคซีนป้องกันโรคหวัด
- วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ
- วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบ
- วัคซีนป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ
และให้คุณพาลูกสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนทั้งสามตัวนี้ซ้ำอีกครั้ง เมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุครบ 4 เดือน
เมื่อลูกสุนัขมีอายุครบ 4 เดือน
เมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุครบ 4 เดือน ให้คุณพาลูกสุนัขของคุณไปฉีด
- วัคซีนป้องกันโรคฉี่หนู
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หัด
- วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ
- วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (และให้คุณพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนชนิดนี้ซ้ำอีกครั้ง เมื่อลูกสุนัขมีอายุ 6 ครบเดือน)
******* ข้อควรระวังก่อนที่คุณจะพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีน คุณต้องงดการอาบน้ำของลูกสุนัขเป็นเวลา 7 วัน คุณถึงจะพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนได้
และวัคซีนบางชนิดก็จะมีผลข้างเคียงต่อลูกสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้ลูกสุนัขเกิดอาการตัวร้อนขึ้นมาได้
ทางโรงพยาบาลสัตว์มีจัดโปรแกรมการฉีดวัคซีนให้กับสุนัขแล้ว
ในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าควรฉีดวัคซีนประเภทไหนให้กับลูกสุนัขของคุณดี คุณสามารถโทรไปขอคำปรึกษาจากทางสัตวแพทย์ได้เลย โดยในปัจจุบันได้มีหลายโรงพยาบาลสัตว์ ได้ทำการจัดโปรแกรมการฉีดวัคซีนให้กับสุนัขแล้ว
เพียงแค่คุณพาสุนัขของคุณไปตรวจร่างกายกับทางสัตวแพทย์ เพื่อดูว่าสุนัขของคุณฉีดวัคซีนประเภทไหนไปแล้ว แล้วทางสัตวแพทย์ก็จะทำการจัดโปรแกรมการฉีดซีนให้กับสุนัขของคุณเอง
หน้าที่ของคุณก็แค่ลงเวลาว่า คุณสะดวกที่จะมาสุนัขของคุณมาฉีดวัคซีนในวันไหน ช่วงเวลาใด แล้วคุณก็พาสุนัขของคุณมาฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดไว้
และเมื่อฉีดเสร็จทางสัตวแพทย์ก็จะนัดต่อไปเลยว่า ในครั้งต่อไปสุนัขของคุณจะได้ฉีดวัคซีนประเภทไหน วันที่เท่าไหร่ ในช่วงเวลาใด คุณก็แค่พาสุนัขมาฉีดวัคซีนให้ครบตามที่ทางสัตวแพทย์ได้กำหนดไว้
คุณควรพาสุนัขของคุณไปถ่ายพยาธิอยู่เป็นประจำ
พยาธินั้นถือว่าเป็นภัยเงียบที่คนเลี้ยงสุนัขหลายคนไม่รู้ตัวกัน คุณรู้หรือไม่ว่าภายในลำไส้ของสุนัขจะมีพวกพยาธิตัวกลม กับพยาธิปากขออาศัยอยู่
โดยพยาธิเหล่านี้จะคอยแย่งอาหารที่สุนัขทานเข้าไปในร่างกาย ซึ่งมันจะส่งผลทำให้สุนัขตัวนั้นมีการเติบโตที่ช้าลงกว่าปกติ แถมยังทำให้สุนัขตัวนั้นเป็นโรคขาดสารอาหารอีกด้วย
คุณสามารถสังเกตได้ว่าสุนัขของคุณมีพยาธิอาศัยอยู่ในร่างกายหรือไม่ โดยดูจากรูปร่างของสุนัข ถ้าเกิดว่าสุนัขของคุณมีรูปร่างที่ดูผอมมาก
แต่ตรงส่วนท้องของพวกมันดูโตขึ้นแบบผิดหูผิดตา นั้นแสดงว่าสุนัขของคุณอาจจะมีพยาธิอาศัยอยู่ในร่างกายก็เป็นได้ อันตรายของพยาธิเหล่านี้อาจจะส่งผลทำให้ลำไส้ของสุนัขเกิดการอุดตัน จนเป็นเหตุทำให้สุนัขเสียชีวิตลงได้
ถ้าคุณไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ คุณควรพาสุนัขของคุณไปถ่ายพยาธิกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำในทุกๆ 3 – 6 เดือน
เห็บและหมัดในสุนัข
เห็บและหมัดก็เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่คนเลี้ยงสุนัขหลายคนไม่รู้ตัวกัน เห็บและหมัดนอกจากจะคอยดูดเลือดสุนัขของคุณแล้ว พวกมันยังเป็นพาหนะนำพาโรคต่างๆ มาติดให้กับสุนัขของคุณอีกด้วย
ซึ่งก็มีหลายโรคเลยที่เมื่อสุนัขเป็นแล้ว ก็จะสร้างความเจ็บปวดกับความทรมานให้กับร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางที่ดีคุณควรพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บและหมัดกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ
หรือคุณอาจจะใช้ยากำจัดเห็บหมัดแบบหยอดหลังในทุกๆ 3 – 6 เดือน เพียงเท่านี้ปัญหาเรื่องเห็บหมัดในสุนัขก็จะไม่มากวนใจคุณอีก
******* ข้อควรระวัง
ยากำจัดเห็บหมัดแบบหยอดหลัง เป็นตัวยาที่ค่อนข้างรุนแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะใช้ตัวยาตัวนี้ คุณควรโทรไปขอคำปรึกษาจากทางสัตวแพทย์ก่อนว่าสุนัขของคุณมีอายุเท่านี้ สายพันธุ์นี้สามารถใช้ตัวยาเหล่านี้ได้หรือเปล่า
หรือในกรณีที่คุณไม่อยากใช้ตัวยาตัวนี้กับสุนัขของคุณ คุณสามารถพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนกำจัดเห็บหมัดแทนก็ได้เหมือนกัน