5 พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัขพร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น ตอนที่ 1

5 พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัขพร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น ตอนที่ 1

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง 5 พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัขพร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น ตอนที่ 1 เผื่อใครที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้อยู่ คุณจะได้หาทางแก้ไขได้

โดยตัวบทความจะบอกถึงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักต่างๆ ของสุนัขอย่างเช่น

  • ชอบส่งเสียงเห่ารบกวนคุณ
  • ชอบกัด หรือแทะสิ่งของต่างๆ ในบ้านของคุณ
  • ขับถ่ายเรี่ยราดไม่เป็นที่ไม่ทาง

พร้อมกับวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเบื้องต้น ว่าถ้าสุนัขของคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ คุณควรทำอย่างไรบ้าง

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

5 พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัขพร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น ตอนที่ 1

1. สุนัขชอบส่งเสียงเห่ารบกวนคุณ

โดยนิสัยของสุนัขตามธรรมชาติแล้ว พวกมันมักจะเป็นสัตว์ที่ชอบส่งเสียงเห่า และหอนกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

แต่การที่สุนัขส่งเสียงเห่า หรือหอนมากจนเกินไปนั้น ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัข ซึ่งเสียงเห่าของพวกมัน อาจจะสร้างความรำคาญให้กับคุณ รวมถึงเพื่อนบ้านของคุณได้

ดังนั้นถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีพฤติกรรมชอบเห่าพร่ำเพรื่อ หรือชอบเห่าไปเรื่อย ให้คุณลองหาสาเหตุดูก่อนว่า สาเหตุที่สุนัขเห่าแบบพร่ำเพรื่อนั้น เกิดจากสาเหตุใดกันแน่น

โดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุที่ทำให้สุนัขส่งเสียงเห่าออกมาน้้น มีได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น

  • ส่งเสียงเห่าเพื่อเตือนภัยให้กับคุณ
  • รู้สึกสนุกหรือตื่นเต้นจนควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่
  • ต้องการเรียกร้องความสนใจจากคุณ
  • รู้สึกเครียดและวิตกกังวล
  • รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีอะไรทำ
  • ส่งเสียงเห่าทักทายสุนัขตัวอื่น หรือส่งเสียงขู่สุนัขตัวอื่นๆ เป็นต้น

วิธีแก้ไขปัญหา

ให้คุณลองหาต้นเหตุที่ทำให้สุนัขเกิดการเห่านั้นเกิดจากสาเหตุใด และเมื่อคุณพบแล้วก็ให้คุณค่อยๆ แก้ปัญหาตามสาเหตุนั้นๆ ไปอย่างเช่น

  • ถ้าคุณพบว่าที่สุนัขของคุณเห่านั้น ก็เพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจจากคุณ คุณก็สามารถแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ได้โดยการ หาเวลามาเล่นกับสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
  • หรือถ้าสุนัขของคุณเห่าเพราะทักทายสุนัขตัวอื่นๆ ที่อยู่นอกบ้าน คุณก็หาอะไรมาปิด หรือพาสุนัขของคุณมาอยู่ในห้องส่วนตัว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณ ไปเห็นสุนัขตัวอื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน

แต่ในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าที่สุนัขของคุณเห่าอย่างพร่ำเพรื่อนั้น เพราะสาเหตุใดกันแน่น คุณก็สามารถพาสุนัขของคุณไปหาสัตว์แพทย์ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ตรวจสอบดูว่า สาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณเกิดการเห่านั้น เกิดจากสาเหตุใดกันแน่น

สุนัขของคุณก็จะมีนิสัยเหล่านี้ติดตัวมาในตอนโต

2. การกัดหรือแทะสิ่งของต่างๆ ในบ้าน

โดยธรรมชาติของสุนัขแล้ว พวกมันจะมีนิสัยชอบกัดหรือแทะสิ่งของต่างๆ ในบ้านกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกสุนัขที่อายุยังไม่ครบ 1 ขวบ

สำหรับการกัดหรือการแทะของสุนัขนั้น ทำไปเพื่อเรียนรู้ว่าสิ่งของต่างๆ แต่ละชิ้นนั้น มีรสชาติเป็นอย่างไร ,มีเนื้อสัมผัสอย่างไร แล้วสิ่งของชิ้นนั้นมีอันตรายใดๆ ต่อพวกมันหรือเปล่า

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นขั้นตอนการเรียนรู้ของสุนัขอีกวิธีหนึ่ง แต่มันคงจะไม่ดีถ้าเกิดว่าสุนัขของคุณไปกัดหรือแทะสิ่งต่างๆ ที่คุณไม่อยากให้พวกมันกัด หรือสิ่งของที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัข

วิธีแก้ไขปัญหา

สำหรับวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้คุณสามารถทำได้โดยการ ให้คุณไปหาซื้อของเล่นที่สุนัขสามารถกัดหรือแทะของเล่นชิ้นนั้นได้ หรืออาจจะเป็นพวกขนมขัดฟันของสุนัขก็ได้เหมือนกัน มาให้สุนัขของคุณได้กัดหรือแทะสิ่งของเหล่านี้ดู

รวมถึงให้คุณคอยสอนสุนัขของคุณว่า มีสิ่งไหนบ้างที่สุนัขสามารถเล่นได้ มีสิ่งไหนบ้างที่สุนัขห้ามเล่น หรือห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด

รวมถึงให้คุณเก็บสิ่งของที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของสุนัขอย่างเช่น ยาสามัญประจําบ้าน ,สารเคมีประเภทต่างๆ ให้พ้นมือของสุนัข หรือจะเก็บไว้ในที่สูงๆ ก็ได้เหมือนกัน

3. การขุด

การขุดดิน หรือการขุดพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณ ก็เป็นนิสัยอีกอย่างหนึ่งของสุนัข ที่มักจะชอบทำกันอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุนัขสายพันธุ์ที่เป็นนักล่าอย่างเช่น

  • สุนัขเทอร์เรีย
  • สุนัขแจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีนิสัยขุดดิน หรือขุดตามสถานที่ต่างๆ นั้นเกิดจาก

  • สุนัขต้องการระบายพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไป
  • สุนัขทำไปเพราะสัญชาติญาญความเป็นนักล่าในตัวของพวกมัน
  • สุนัขรู้สึกเครียดและกลัว จนต้องทำการขุดหลุมเพื่อหลบหนีปัญหา
  • สุนัขสัมผัสได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในพื้น เลยทำการขุดเอาสิ่งของเหล่านั้นออกมา

วิธีแก้ปัญหา

โดยส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมการขุดของสุนัขมักจะเกิดจาก สุนัขต้องการระบายพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไป

ดังนั้นคุณสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ได้ด้วยการให้สุนัขของคุณออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

วันละประมาณ 15 – 20 นาทีต่อวัน เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการช่วยระบายเอาพลังงานที่สะสมในร่างกายของสุนัขออกไปจนหมดแล้ว

อย่าทิ้งให้สุนัขอยู่ที่บ้านเพียงตัวคนเดียว

4. กลัวที่จะถูกทิ้ง

เมื่อสุนัขรู้ตัวว่าพวกมันกำลังจะถูกทิ้งให้อยู่ที่บ้านแต่เพียงตัวคนเดียว สุนัขก็จะแสดงอาการส่งเสียงร้องครางออกมา พร้อมทั้งวิ่งเข้ามากัดเจ้าของของสุนัขแบบเบาๆ

หรือบางทีสุนัขอาจจะมีพฤติกรรมขับถ่ายเรี่ยราด พร้อมทำลายข้าวของภายในบ้าน ซึ่งการที่สุนัขทำแบบนี้นั้นก็เพราะว่า พวกมันไม่ต้องการให้ถูกทิ้งอยู่เพียงตัวคนเดียว

วิธีแก้ไขปัญหา

ไม่ว่ายังไงคุณก็ไม่ควรทิ้งสุนัขให้อยู่ที่บ้านแต่เพียงตัวคนเดียว เพราะมันจะทำให้สุนัขของคุณเกิดความเครียดสะสมขึ้นมาได้ ซึ่งมันจะมีผลต่อนิสัยของสุนัขในอนาคต

ถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณมีความเครียดสะสมมากๆ เข้า มันจะทำให้นิสัยของสุนัขเปลื่ยนแปลงไป มันจะทำให้สุนัขของคุณมีนิสัยที่ดุร้ายและก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ คุณควรหาคนมาดูแลสุนัขของคุณ ในวันที่คุณจำเป็นต้องออกไปทำธุระนอกบ้านจริงๆ

5. ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นการ

โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าคุณไม่สอนสุนัขของคุณในเรื่องของการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางตั้งแต่ยังเล็กๆ สุนัขของคุณก็จะมีนิสัยเหล่านี้ติดตัวมาในตอนโต

และนอกจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สาเหตุที่ทำให้สุนัขพฤติกรรมขับถ่ายเรี่ยราดเกิดจาก

  • สุนัขรู้สึกเครียดและวิตกกังวล
  • สุนัขต้องการเรียกร้องความสนใจจากคุณ
  • สุนัขไม่ได้รับการฝึกในเรื่องของการขับถ่ายตั้งแต่ยังเล็กๆ
  • สุนัขรู้สึกตื่นเต้นจนไม่สามารถควบคุมปัสสาวะได้
  • สุนัขต้องการสร้างอาณาเขต โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดกับสุนัขตัวผู้

วิธีแก้ไขปัญหา

คุณต้องหาสาเหตุก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณพฤติกรรมขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรถ้า คุณพบแล้วคุณก็ค่อยๆ จัดการจากสาเหตุนั้นๆ อย่างเช่น

  • ถ้าคุณพบว่าสาเหตุนั้นเกิดจากการที่สุนัขเครียดเพราะถูกดุด่าอยู่เป็นประจำ ก็ให้คุณเลิกดุด่าสุนัขของคุณ ให้คุณเปลื่ยนจากการดุด่ามาเป็นสอนสุนัขแทน
  • หรือในกรณีที่คุณพบว่า สาเหตุนั้นเกิดจากการที่คุณไม่ต้องสอนให้พวกมันขับถ่ายตั้งแต่ยังเล็กๆ คุณก็สามารถฝึกให้สุนัขของคุณขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกมากขึ้นสักหน่อย

ส่วนในกรณีที่คุณไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณขับถ่ายเรี่ยราดนั้นเกิดจากสาเหตุใด คุณก็สามารถพาสุนัขของคุณไปหาสัตวแพทย์ เพื่อช่วยหาสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ได้เหมือนกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าบทความของผมน่าจะช่วยคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ แต่บทความนี้ยังไม่จบลงนะครับ

ยังมีต่อในตอนที่ 2 อีก ยังเหลือพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของสุนัขอีก 5 พฤติกรรม ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากรู้ว่ายังมีพฤติกรรมไหนอีก ก็สามารถมาตามอ่านใน ตอนที่ 2 ได้เลยครับ