บทนำ
บทความนี้จะมาแนะนำถึง 12 สิ่งที่คุณควรทำเมื่อเริ่มเลี้ยงลูกสุนัข ว่าในเบื้องต้นคุณต้องเตรียมตัวอย่างไร ลูกสุนัขของคุณถึงจะใช้ขีวิตได้อย่างมีความสุข
โดยตัวบทความจะกล่าวถึง ส่วนที่คุณควรทำเมื่อคุณพาลูกสุนัขเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้าน ว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง คุณต้องฝึกอะไรให้กับลูกสุนัขบ้าง มีสิ่งไหนที่คุณไม่ควรทำกับลูกสุนัขของคุณ
บทความนี้เขียนขึ้นมาสำหรับคุณผู้อ่านท่านไหน ที่กำลังพึ่งเริ่มเลี้ยงลูกสุนัข แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ถึงจะทำให้คุณภาพชีวิตของลูกสุนัขดีอยู่เสมอ
ให้คุณลองอ่านบทความนี้เป็นไกด์นำทางให้กับคุณดู เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
12 สิ่งที่คุณควรทำเมื่อเริ่มเลี้ยงลูกสุนัข
1. ให้ลูกสุนัขทานแต่อาหารที่มีประโยชน์
ในช่วงที่ลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 2 – 6 เดือน ในช่วงนี้ร่างกายของลูกสุนัขจะพัฒนาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายของลูกสุนัขเจริญเติบโตสมวัย คุณควรให้ลูกสุนัขของคุณทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน
โดยอาหารที่ลูกสุนัขทานได้และมีประโยชน์ต่อร่างกายของลูกสุนัขในช่วงนี้ก็จะมี
- นมแพะสำหรับลูกสุนัข
- อาหารเม็ดสำหรับลูกสุนัข
- อาหารเปียกสำหรับลูกสุนัข
- เนื้อไก่กับเนื้อปลาต้มสุก ที่คุณต้องแกะกระดูกออกจนหมดแล้ว กับคุณต้องฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ลูกสุนัขของคุณทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
2. ฝึกให้ลูกสุนัขรู้จักเข้าสังคม
สิ่งแรกที่คุณควรฝึกให้ลูกสุนัขของคุณ หลังจากที่พาลูกสุนัขเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านก็คือ การทำให้ลูกสุนัขรู้จักกับความรัก และความอบอุ่นในบ้านของคุณ
โดยคุณอาจจะแสดงความรักให้กับลูกสุนัขของคุณด้วยลูบหัว ลูบตัว กอด บอกรัก พูดให้กำลังใจลูกสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
เมื่อลูกสุนัขของคุณได้รับความรักจากคุณอย่างเพียงพอแล้ว พวกมันก็จะเติบโตขึ้นมาเป็นสุนัขที่มีสุขภาพจิตดี อยู่ในโอวาทของคุณพร้อมทั้งเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของคุณ เป็นสุนัขที่ไม่ก้าวร้าวใจดีกับผู้อื่น
3. ฝึกให้ลูกสุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งของต่างๆ ในบ้านของคุณ
ในช่วงแรกๆ ที่คุณพึ่งพาลูกสุนัขเข้าบ้าน คุณควรปล่อยให้ลูกสุนัขของคุณได้เดินสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในบ้านของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยมีคุณคอยระวังลูกสุนัขอยู่ห่างๆ
อย่าให้ลูกสุนัขเดินเข้าไปในพื้นที่อันตราย หรือเดินขึ้นไปในที่สูงๆ จนตกลงมาโดยเด็ดขาด
การปล่อยให้ลูกสุนัขของคุณได้เดินสำรวจพื้นที่ภายในบ้านอย่างเต็มที่นั้น จะช่วยให้ลูกสุนัขรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่ที่พวกมันมาอยู่ใหม่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกสุนัขรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในบ้านของคุณ
4. หมั่นแปรงขนให้กับลูกสุนัขอยู่เป็นประจำ
สิ่งที่คุณควรทำอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ การหมั่นแปรงขนให้กับลูกสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำสัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้ง
การแปรงขนให้กับลูกสุนัขอยู่เป็นประจำนั้น จะช่วยให้ลูกสุนัขมีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดีอยู่เสมอ แถมมันยังช่วยให้ขนคลายตัว ไม่พันกันจนกลายเป็นสังกะตังอีกด้วย
5. หลีกเลี่ยงไม่อาบน้ำให้กับลูกสุนัข
ในช่วงแรกๆ ที่ลูกสุนัขของคุณมีอายุได้ประมาณ 2 – 3 เดือน คุณไม่ควรจับลูกสุนัขของคุณอาบน้ำ เพราะการได้สัมผัสกับน้ำติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณป่วยขึ้นมาได้
ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะใช้ผ้าเช็คตัวชุบน้ำทำความสะอาดร่างกายของลูกสุนัขไปก่อน และเมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุได้ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป คุณถึงจะสามารถอาบน้ำให้กับลูกสุนัขได้
6. ฝึกให้ลูกสุนัขรู้จักกับการเคี้ยว
โดยธรรมชาติแล้วการเรียนรู้ของลูกสุนัขคือ การได้ลองเคี้ยวสัมผัสสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของมันว่า สิ่งเหล่านั้นมีรสสัมผัส มีรสชาติยังงไง สิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายต่อพวกมันหรือไม่
ดังนั้นเพื่อพัฒนาการทางสมองที่ดีของลูกสุนัข คุณควรปล่อยให้ลูกสุนัขของคุณเรียนรู้สิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่ โดยที่คุณคอยระวังอยู่ห่างๆ อย่าให้ลูกสุนัขของคุณทานสิ่งของที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของพวกมันก็พอ
หรือในกรณีที่คุณไม่อยากให้ลูกสุนัขของคุณไปกัดหรือเคี้ยวสิ่งของต่างๆ คุณก็สามารถหาของเล่นสุนัขสำหรับเคี้ยว หรือพวกขนมช่วยขัดฟันของลูกสุนัข มาให้ลูกสุนัขของคุณได้ลองกัดหรือเคี้ยวก็ได้เหมือนกัน
7. ระวังอย่าให้ลูกสุนัขกินอุจจาระ
การที่คุณปล่อยให้ลูกสุนัขของคุณกินอุจจาระของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ นิสัยเหล่านี้มันจะติดตัวมากับลูกสุนัขในตอนที่พวกมันโตแล้ว
ดังนั้นคุณควรฝึกนิสัยไม่ให้ลูกสุนัขกินอุจจาระตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นลูกสุนัข โดยคุณอาจจะป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้โดยการ ทุกครั้งที่ลูกสุนัขของคุณขับถ่ายอุจจาระออกมา ให้คุณรีบเก็บอุจจาระกองนั้นทิ้งโดยทันที
8. สร้างที่กั้นคอกให้กับลูกสุนัข
ในช่วงที่ลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 2 – 6 เดือน ลูกสุนัขจะมีนิสัยที่ซุกซนเป็นอย่างมา คุณควรทำที่กั้นคอกเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขไปเล่นซุกซนจนได้รับอุบัติเหตุทางร่างกายได้
แต่ถ้าคุณไม่อยากทำที่กั้นคอกให้กับลูกสุนัขคุณต้องคอยจับตาดูลูกสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีโอกาสสูงที่ลูกสุนัขจะได้รับอุบัติเหตุการจากเล่นซุกซนได้
9. ไม่ควรพาลูกสุนัขออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ
ในช่วงที่ลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 2 – 6 เดือน ร่างกายของพวกมันจะยังไม่เจริญเติบโตดีพอ ในช่วงนี้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกสุนัขจะน้อยกว่าปกติ เมื่อเทียบกับสุนัขที่โตจนเต็มวัยแล้ว
การที่คุณพาลูกสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะที่ต่างๆ อาจจะทำให้ลูกสุนัขของคุณได้สัมผัสถูกกับเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ภายนอกบ้าน
จนทำให้ลูกสุนัขของคุณล้มป่วยลงได้ ทางที่ดีคุณควรรอให้ลูกสุนัขของคุณมีอายุครบ 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสุนัขโตจนเต็มวัยแล้ว คุณถึงคอยพาลูกสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้
10. อย่าแกล้งให้ลูกสุนัขกลัว
การที่คุณชอบแอบแกล้งให้ลูกสุนัขกลัวบ่อยๆ มันจะส่งผลทำให้ลูกสุนัขของคุณเกิดความเครียดสะสมขึ้นมาได้
และเมื่อลูกสุนัขมีความเครียดสะสมในร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานๆ แล้ว มันจะส่งต่อพฤติกรรมต่างๆ ของลูกสุนัข
มันจะทำให้ลูกสุนัขของคุณกลายเป็นสุนัขที่ขี้กลัว ชอบขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง และมีนิสัยที่ก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นได้
11. อย่าลงโทษลูกสุนัข หรือตามใจลูกสุนัขจนเกินไป
ผลเสียการลงโทษลูกสุนัข
การลงโทษลูกสุนัขมากจนเกินไปอย่างเช่น การตีลูกสุนัข หรือการตะโกนดุด่าลูกสุนัขของคุณอยู่เป็นประจำ
มันจะส่งผลทำให้ลูกสุนัขของคุณเกิดความเครียด และหวาดระแวงขึ้นมาได้ ซึ่งมันจะส่งผลต่อนิสัยในอนาคตของลูกสุนัข มันจะทำให้ลูกสุนัขของคุณมีนิสัยที่ดุร้ายขึ้นมาได้
ผลเสียของการตามใจลูกสุนัข
รวมถึงการตามใจลูกสุนัขของคุณมากจนเกินไป ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเหมือนกัน เพราะมันจะทำให้ลูกสุนัขของคุณกลายเป็นสุนัขที่มีนิสัยเอาแต่ใจ
ไม่เชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของคุณ รวมถึงพวกมันยังมีนิสัยถ้าไม่พอใจกับสิ่งไหน พวกมันก็จะส่งเสียงเห่ารบกวนคุณ หรือพุ่งเข้ากัดคุณเลยก็ได้เหมือนกัน
12. พาลูกสุนัขของคุณเข้ารับวัคซีนตามที่กำหนด
โดยหลักๆ แล้วลูกสุนัขของคุณจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนดังต่อไปนี้
ฉีดเข็มแรก
เมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 2 – 3 เดือน คุณต้องพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกัน
- โรคหวัด
- โรคไข้หัด
- ลำไส้อักเสบ
- โรคตับอักเสบ
- โรคทางเดินหายใจ
ฉีดเข็มที่สอง
เมื่อลูกสุนัขของคุณมีอายุได้ประมาณ 4 เดือนขึ้นไป ให้คุณพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกัน
- โรคไข้หัด
- ลำไส้อักเสบ
- โรคตับอักเสบ
- โรคทางเดินหายใจ
ฉีดเข็มที่สาม
เมื่อลูกสุนัขมีอายุได้ประมาณ 5 – 6 เดือนขึ้นไป ให้คุณพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกัน
- โรคตับอักเสบ
- โรคพิษสุนัขบ้า
- โรคลำไส้อักเสบ
- โรคพยาธิหนอนหัวใจ
วัคซีนที่ต้องฉีดซ้ำเป็นประจำทุกปี
และในทุกๆ 1 ปีคุณต้องพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเหล่านี้ปีละ 1 เข็มได้แก่ วัคซีนป้องกัน
- โรคหัด
- โรคไข้ฉี่หนู
- โรคตับอักเสบ
- โรคลำไส้อักเสบ
- โรคทางเดินหายใจ
แต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเหล่านี้มากนักเพราะในปัจจุบันทางโรงพยาบาลสัตว์ รวมถึงตามคลินิกสัตว์ต่างๆ ได้มีการใช้โปรแกรมฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้กับลูกสุนัขอยู่แล้ว
เพียงแค่คุณเลือกหาโรงพยาบาลสัตว์ที่คุณสะดวกเดินทาง รวมถึงแพ็คเก็จราคาวัคซีนที่คุณต้องจ่าย
แล้วทางสัตวแพทย์จะทำการนัดให้คุณพาลูกสุนัขเข้ามาฉีดวัคซีนตามที่กำหนดไว้ หน้าที่ของคุณก็แค่พาลูกสุนัขของคุณ ไปฉีดวัคซีนตามวันเวลาที่ทางโรงพยาบาลสัตว์ได้นัดไว้