7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขพุดเดิล

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขพุดเดิล

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขพุดเดิล เป็นเรื่องน่ารู้ทั่วไปอย่างเช่น เกิดที่ไหน ที่มาของชื่อ ฉายา คนแพ้ขนสุนัขเลี้ยงสุนัขพุดเดิลได้ไหม ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็ สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขพุดเดิล

1.สุนัขพุดเดิล มีต้นกำเนิดมาจากทางประเทศเยอรมัน

ถึงแม้ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะเป็นสุนัขประจำชาติของทางประเทศฝรั่งเศส ส่วนสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า คนฝรั่งเศสชอบสุนัขพุดเดิลเป็นอย่างมาก พวกเค้าชอบถึงขนาดยกย่องให้สุนัขพุดเดิลเป็นมรดกประจำชาติของประเทศเค้าเลย

ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าสุนัขพุดเดิลเป็นของทางประเทศฝรั่งเศส แต่ถ้าคุณลองได้ศึกษาเกี่ยวกับประวัติของสุนัขพุดเดิลจริงๆ แล้ว คุณจะพบว่าสุนัขสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากทางประเทศเยอรมันเมื่อ 400 ปีที่ผ่านมา

โดยที่ต้นตระกูลของสุนัขพุดเดิล มาจากสุนัขบาร์เบต (Barbet) สุนัขที่มีขนสีดำหยิกและหยักศก โดยทางเยอรมันค่อยๆ ทำการพัฒนาสายพันธุ์สุนัขไปเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นสุนัขพุดเดิล เหมือนกับทุกวันนี้

2. ชื่อของสุนัขพุดเดิล มาจากทักษะของพวกมัน

คุณรู้หรือไม่ว่าสุนัขพุดเดิล นั้นมีทักษะในการล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามบึง หรือตามหนองน้ำได้เป็นอย่างดี

จนทำให้ชาวเยอรมันส่วนใหญ่เรียกสุนัขสายพันธุ์นี้ว่า “พุเดลิน” (Pudelin) ซึ่งในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า “นักล่าในหนองน้ำ”

คนที่แพ้ขนสุนัขสามารถเลี้ยงสุนัขพุดเดิลได้

3. ฉายาของสุนัขพุดเดิล

นอกจากชาวเยอรมันจะเป็นคนตั้งชื่อให้กับสุนัขพุดเดิลแล้ว ชาวฝรั่งเศสก็ยังตั้งฉายาให้กับสุนัขพุดเดิลอีกด้วย

โดยชาวฝรั่งเศสได้ตั้งฉายาให้กับสุนัขพุดเดิลว่า “กานีช” (Caniche) หรือถ้าจะให้แปลเป็นภาษาไทยก็แปลว่า “สุนัขล่าเป็ด”

สาเหตุที่ชาวฝรั่งเศสตั้งฉายานี้ให้กับสุนัขพุดเดิลนั้นก็เพราะว่า สุนัขพุดเดิลสามารถช่วยนายพรานล่าเป็ดได้เป็นอย่างดีเยื่ยม

4. คนที่แพ้ขนสัตว์ก็สามารถเลี้ยงสุนัขพุดเดิลได้

คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อกันว่าเรานั้นแพ้ขนสัตว์อย่างเช่น ขนสุนัข กับขนแมว แต่ถ้าคุณได้ลองศึกษาดูจริงๆ แล้ว คุณจะพบว่าอาการแพ้ขนสัตว์นั้น

เกิดจากการที่เราแพ้โปรตีนบางชนิด ที่อยู่ในเศษขี้ไคลตามขนของสุนัข รวมถึงบางคนอาจจะแพ้น้ำลาย หรือฉี่ของสุนัขที่เลอะอยู่ตามขนของสุนัขก็ได้เหมือนกัน

แต่สำหรับสุนัขพุดเดิลแล้ว พวกมันจะมีสารก่อเกิดอาการภูมิแพ้ขนสุนัขน้อยกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ เป็นอย่างมาก จึงทำให้คนที่มีอาการแพ้ขนสุนัขก็สามารถเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ได้

5. สุนัขพุดเดิลเป็นสุนัขที่ไม่มีการผลัดขนเลย

โดยปกติทั่วไปแล้วสุนัขจะมีการผลัดขนอยู่ด้วยกันประมาณ 1 – 2 ครั้งต่อปี แต่สำหรับสุนัขพุดเดิลนั้นพวกมันจะไม่มีช่วงเวลาในการผลัดขนเลย

ขนของสุนัขพุดเดิลจะค่อยๆ ยาวและหยิกไปเรื่อยๆ ไม่มีอาการขนร่วงโดยเด็ดขาด ยกเว้นแต่จะป่วยเป็นโรคผิวหนังจริงๆ

ดังนั้นถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้อยู่ คุณควรหมั่นแปรงขนให้กับสุนัขพุดเดิลของคุณอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนของพวกมันพันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้

รวมถึงถ้าคุณรู้สึกว่าขนของสุนัขพุดเดิลนั้นมีความยาวจนเกินไป คุณก็สามารถพาสุนัขของคุณไปตัดขนให้สั้นลงก็ได้เหมือนกัน

ฉายาของสุนัขพุดเดิล

6. ถ้านำสุนัขพุดเดิลไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ลูกที่ออกมาจะมีขนหยิกอยู่เสมอ

เป็นเรื่องที่น่าแปลกแต่จริง ถ้าคุณลองนำสุนัขพุดเดิลของคุณไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ อย่างเช่น  สุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หรือสุนัขลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ดู

คุณจะพบว่าลูกสุนัขที่ออกมานั้น จะมีขนหยิกตลอดทั่วทั้งตัวเลย และไม่ใช่จะเป็นแต่กับลูกสุนัขตัวใดตัวหนึ่งในครอกเท่านั้น มันจะเป็นแบบนี้หมดทั้งครอกเลย

7. สุนัขพุดเดิลมีให้คุณเลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน

โดยปกติแล้วคุณมักจะเห็นสุนัขพุดเดิลในแบบปกติ หรือขนาดมาตรฐานซึ่งเป็นขนาดตัวที่ใหญ่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสุนัขพุดเดิลนั้นยังมีให้คุณเลือกอีก 2 ขนาดนั้นก็คือ

  • ขนาดเล็ก ที่มีขนาดประมาณสุนัขปอมเมอเรเนียน
  • ขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดประมาณสุนัขชิวาวา

โดยทั้งสองขนาดนี้จะมีราคาที่สูงกว่าขนาดปกติเป็นอย่างมาก