เรื่องราวอันน่าประทับใจของสุนัขฮาจิโกะ สุนัขสุดซื่อสัตย์

เรื่องราวอันน่าประทับใจของสุนัขฮาจิโกะ สุนัขสุดซื่อสัตย์

บทนำ

บทความนี้จะมาบอกเล่าถึง เรื่องราวอันน่าประทับใจของสุนัขฮาจิโกะ สุนัขสุดซื่อสัตย์ เรื่องราวของฮาจิโกะนั้นโด่งดังไปทั่วโลก จนถึงขนาดได้สร้างเป็นหนังเลย

ความประทับใจของสุนัขฮาจิโกะก็คือ มันไปยืนรอรับเจ้าของของมันที่หน้าสถานีรถไฟทุกวัน อยู่หลายปีจนกระทั่งมันเสียชีวิตลง (ซึ่งเจ้าของของมันก็เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว) เหตุการณ์นี้สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลก จนได้ทำเหตุการณ์นี้ไปสร้างเป็นหนังเลย โดยหนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า “ฮาชิ..หัวใจพูดได้”

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากรู้เรื่องราวประวัติของสุนัขฮาจิโกะแบบคร่าวๆ กับอยากรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ อินุ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของสุนัขฮาจิโกะมากยิ่งขึ้น ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

ประวัติของสุนัขฮาจิโกะ

ฮาจิโกะ เป็นสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ อินุ ฮาจิโกะเกิดในช่วงเวลาประมาณปี 1923 ในจังหวัดอาคิตะของทางประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ฮาจิโกะ มีอายุครบ 2 เดือน ทางเอซะบุโระ อุเอะโนะ ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล

ได้ทำการรับเจ้าฮาจิโกะมาเลี้ยงไว้บ้าน และโดยในทุกๆ วัน ฮาจิโกะ จะได้เดินไปส่งเอซะบุโระ อุเอะโนะ ออกไปทำงานที่หน้าสถานนีรถไฟทุกวัน และจะทำการรอรับที่หน้าสถานีรถไฟทุกวัน หลังจากที่เอซะบุโระเดินทางกลับมาด้วยรถไฟ

ซึ่งฮาจิโกะ ก็ทำแบบนี้ทุกวันจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 1925 ซึ่งเป็นวันที่เจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก แต่ ฮาจิโกะ ไม่รู้ว่าเจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงแล้ว มันก็ยังมารอคอยเจ้านายของมันอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟในช่วงเวลาเดิมๆ อยู่ทุกวัน

โดยที่มันไม่รู้ตัวเลยว่า มันจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเจ้านายของมันอีกเป็นครั้งที่สอง และถึงแม้ว่าทางภรรยาของเอซะบุโระ จะนำสุนัข ฮาจิโกะไปเลี้ยงไว้ที่บ้านอื่นแล้วก็ตามที สุนัขฮาจิโกะก็จะหาทางหนีออกจากบ้าน เพื่อออกมารอรับเจ้านายของมันหน้าสถานีรถไฟในช่วงเวลาเดิมๆ อยู่ทีทุก

สุนัขฮาจิโกะ ยังคงทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมันได้เสียชีวิตลงในปี 1935 ซึ่งในวาระสุดท้ายของ ฮาจิโกะ ก็คือการนอนตายอยู่ตรงจุดที่มันรอรับเจ้านายของมันกลับบ้านทุกวัน ซึ่งเหตุการณ์นี้เองก็ทำให้สุนัขฮาจิโกะ เป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่นทั่วประเทศในขณะนั้น

ชาวญี่ปุ่นจากทั่วประเทศชื่นชมในความซื่อสัตย์ของสุนัขฮาจิโกะเป็นอย่างมาก พวกเค้าได้นำร่างของสุนัขฮาจิโกะ ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่กรุงโตเกียวของทางประเทศญี่ปุ่น

อันนี้เป็นประวัติโดยย่อๆ ของสุนัขฮาจิโกะ ฮาจิโกะนั้นเป็นสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ อินุ ถ้าคุณผู้อ่านอยากทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ อินุมากยิ่งขึ้น ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

ประวัติของสุนัขอาคิตะ อินุ

ประวัติของสุนัขอาคิตะ อินุ

อาคิตะ อินุ เป็นสุนัขสายพันธุ์แท้ของทางประเทศญี่ปุ่น สุนัขอาคิตะ อินุ เกิดขึ้นที่จังหวัดอาคิตะ เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น

ด้วยความที่ว่าสุนัขอาคิตะ อินุ มีทักษะในการล่าสัตว์ที่เก่งเป็นอย่างมาก จึงทำให้ในช่วงยุคแรกๆ ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะนิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ ไว้สำหรับช่วยพวกเค้าล่าสัตว์กัน

แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสงครามโลก เป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นขาดแคลนอาหารอย่างหนัก รวมถึงมีโรคแพร่ระบาดต่างๆ คนญี่ปุ่นเลยสนใจแต่ปากท้องของตัวเอง

ในช่วงนั้นคนญี่ปุ่นแต่ละคนคิดว่า จะทำยังไงให้ตัวเองมีอาหารกินในแต่ละวัน ในช่วงนั้นพวกเค้าไม่สนใจเลยว่า พวกสุนัขอาคิตะ อินุ จะเป็นยังไง แค่พาอาหารให้ตัวเองกินก็แย่แล้ว

จึงทำให้สุนัขอาคิตะ อินุ ล้มตายเพราะขาดอาหารในช่วงสงครามเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ชาวญี่ปุ่นเริ่มทำมาค้าขายมีมีฐานะมากยิ่งขึ้น พวกเค้าถึงรู้สึกว่าสุนัขอาคิตะ อินุ แทบจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว

พวกเค้าจึงได้รวมตัวกันเพาะพันธุ์สุนัขอาคิตะ อินุ ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้สุนัขสายพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้

สำหรับสุนัขอาคิตะ อินุ ในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ก็คือ

  1. สุนัขอาคิตะ อินุ เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เป็นสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ อินุ แท้ๆ จากทางประเทศญี่ป่นเลย
  2. สุนัขอาคิตะ อินุ เวอร์ชั่นอเมริกา สุนัขอาคิตะในเวอร์ชั่นนี้ จะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ซึ่งเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขอาคิตะ อินุ กับสุนัขเยอรมันเชฟเฟิร์ด

ลักษณะโดยทั่วไปของสุนัขอาคิตะ อินุ

  • อาคิตะ อินุ เป็นสุนัขขนาดใหญ่ มีดวงตาเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีจมูกสีดำและมีใบหูเป็นรูปสามเหลื่ยมตั้งขึ้น
  • สุนัขสายพันธุ์นี้จะมีขนที่หยาบกระด้างเป็นอย่างมาก หางของพวกมันจะมีลักษณะม้วนกลับไปข้างหลัง
  • อาคิตะ อินุ จะมีสีขนอยู่ด้วยกันประมาณ 3 สีได้แก่ สีน้ำตาลแดง ,สีเหลืองอ่อนและสีขาว
  • สุนัขสายพันธุ์นี้เมื่อพวกมันเจริญเติบโตจนเต็มวัยแล้ว พวกมันจะมีส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 65 – 70 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 45 – 50 กิโลกรัม

นิสัยของสุนัขอาคิตะ อินุ

นิสัยของสุนัขอาคิตะ อินุ

  • อาคิตะ อินุ เป็นสุนัขที่รักสงบและอ่อนโยนเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้านายของพวกมันอีกด้วย
  • อาคิตะ อินุ เป็นสุนัขที่มีพลังเหลือล้นเป็นอย่างมาก พวกมันมักจะชอบวิ่งเล่นทำลายข้าวของและขุดดินเล่นอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ คุณต้องจับพวกมันออกกำลังกายให้ได้วันละประมาณ 20 – 25 นาทีอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถลดพฤติกรรมเหล่านี้ของสุนัขลงได้
  • สุนัขอาคิตะ อินุ เป็นสุนัขที่ค่อนข้างรักเด็กเป็นอย่างมาก พวกมันสามารถปรับตัวให้เข้ากับเด็กตัวเล็กๆ ได้เป็นอย่างดี
  • แต่เด็กคนนั้นต้องทำตัวน่ารักกับพวกมันด้วยนะ ในกรณีที่เด็กคนนั้นเล่นกับสุนัขอาคิตะ อินุอย่างรุนแรง ก็อาจจะทำให้ถูกสุนัขอาคิตะ อินุ กัดเอาได้ ดังนั้นทางที่ดีคุณไม่ควรให้ลูกของคุณได้อยู่กับสุนัขอาคิตะ อินุ ตามลําพัง
  • สุนัขอาคิตะ อินุ เป็นสุนัขที่เก่งในเรื่องของการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก คุณสามารถเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้สำหรับเฝ้าบ้านได้เลย พวกมันจะคอยเป็นหูเป็นตาให้กับคุณเอง
  • สุนัขอาคิตะ อินุ จะมีนิสัยเหมือนกับสุนัขบางแก้วตรงที่ พวกมันมักจะใจดีและอ่อนโยนกับเจ้านายของพวกมัน แต่สำหรับคนแปลกหน้าแล้ว สุนัขอาคิตะ อินุ จะมีความดุร้ายและก้าวร้าวเป็นอย่างมาก

โรคประจำตัวของสุนัขอาคิตะ อินุ

ด้วยความที่ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้มีขนาดตัวที่ใหญ่เป็นอย่างมาก พวกมันจึงมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกข้อต่ออักเสบ รวมถึงอาการสะโพกอักเสบอยู่เป็นประจำ

แถมสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีขนาดหัวใจที่เล็กกว่าปกติ จึงทำให้พวกมันมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานของหัวใจกันอยู่เป็นประจำ ถ้าคุณเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้อยู่ คุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจหัวใจกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสุนัขอาคิตะ อินุ

  • สุนัขสายพันธุ์นี้จะมีอายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 – 12 ปี
  • ขนชั้นนอกของสุนัขอาคิตะ อินุ จะสามารถกันน้ำและสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี คุณจึงไม่ต้องดูแลขนอะไรของพวกมันมากนัก เพียงคุณคอยแปรงขนให้กับพวกมันสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
  • รวมถึงขนของพวกมันสามารถปกป้องสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ดี คุณจึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้กับพวกมันมากนัก คุณเพียงแค่อาบน้ำให้กับพวกมันเดือนละ 1 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว