6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขซาลูกิ

6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขซาลูกิ

บทนำ

บทความนี้จะมาแนะนำถึง 6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขซาลูกิ เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากทางยุคสมัยอียิปต์โบราณ เป็นสุนัขที่ค่อนข้างขี้อายและเก็บตัวเป็นอย่างมาก

พวกมันจะเปิดใจให้กับคนในครอบครัวของพวกมันแต่เพียงเท่านั้น แต่กับคนแปลกหน้าพวกมันจะเดินหนีหาที่หลบมุมโดยทันที

รวมถึงสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีนิสัยที่เรียบร้อยและ สุขภาพเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยส่งเสียงเห่าออกมาอีกด้วย จึงทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้จะค่อนข้างเหมาะสำหรับ คนที่อยากเลี้ยงสุนัขแต่ไม่อยากฟังเสียงเห่าของสุนัข

สำหรับในประเทศไทยแล้ว สุนัขซาลูกิไม่ได้รับความนิยมจากคนไทยเลย จะมีเลี้ยงอยู่เหมือนกันแต่ก็เป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนอยากทำความรู้จักกับสุนัขซาลูกิมากยิ่งขึ้น ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุนัขซาลูกิ

ซาลูกิ เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

1.สุนัขซาลูกิ เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกหนึ่งสายพันธุ์

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้ระบุไว้ว่า สุนัขซาลูกิ (Saluki) นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกเป็นเวลามากกว่า 5000 ปีแล้ว โดยที่สุนัขสายพันธุ์นี้มีมาตั้งแต่ยุคสมัยอียิปต์โบราณ

ถ้าคุณได้ลองไปเที่ยวที่ประเทศอียิปต์ดู คุณจะพบว่ามีสุนัขซาลูกิ อยู่บนสถานที่ต่างๆ ในประเทศอียิปต์ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ภาพแกะสลักต่างๆ ผนังในวัดวาอารามของประเทศอียิปต์ สิ่งเหล่านี้ถ้วนบอกได้ว่าสุนัขซาลูกิ ได้อาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์เป็นเวลายาวนานแล้ว

2. มีแต่เชื้อพระวงศ์เท่านั้นถึงจะได้เลี้ยงสุนัขซาลูกิ

ในยุคสมัยอียิปต์โบราณสุนัขซาลูกิ ถือว่าเป็นของสูงส่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้ในยุคนั้นคนที่จะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ได้ ต้องเป็นคนของเชื้อพระวงศ์เท่านั้น ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ได้

รวมถึงในยุคนั้นสุนัขซาลูกิ ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเชื้อพระวงศ์เลย ทั้งในเรื่องของการกินดีอยู่ดี มีเต็นท์รับรองไว้สำหรับนอนพักผ่อน ถ้าคุณลองศึกษาประวัติของประเทศอียิปต์ดูคุณจะพบว่าสุนัขซาลูกิ นั้นได้รับการฝังศพไปพร้อมกับกษัตริย์ของทางประเทศอียิปต์ด้วย

3. ชาวอาหรับถือว่าสุนัขซาลูกิ เป็นของที่สูงส่งเป็นอย่างมาก

ในยุคสมัยก่อนชาวอาหรับส่วนใหญ่เชื่อว่า สุนัขซาลูกิ เป็นของขวัญจากเทพเจ้าพวกเค้าพากันเรียกสุนัขซาลูกิว่า “El hor” ซึ่งแปลความหมายเป็นภาษาไทยได้ว่า ชนชั้นสูงดุจดังพระผู้เป็นเจ้า

ในยุคสมัยนั้นสุนัขซาลูกิมีค่าสูงถึงขนาดสามารถแลกบ้านกับที่ดินได้ทั้งผื่นเลย เรียกได้ว่าสุนัขซาลูกิ มีค่ามากกว่าบ้านและที่ดินในยุคนั้น

ซาลูกิ เป็นสุนัขที่ล่าสัตว์ได้เก่งเป็นอย่างมาก

4. ซาลูกิ เป็นสุนัขที่มีความเร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลย

จากการจัดอันดับของหนังสือบันทึกสถิติโลกอย่างโลกกินเนสส์ พวกเขาได้ทำการบันทึกไว้ว่าสุนัขซาลูกิ  นั้นมีความเร็วเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสุนัขเกรย์ฮาวด์ ที่มีความเร็วเป็นอันดับ 1 ของโลกตลอดกาล

แต่ก็มีคนบางกลุ่มจับสุนัขสองสายพันธุ์นี้มาลองวิ่งแข่งกันดูจริงๆ ว่าใครนั้นเร็วกว่ากัน พวกเขาพบว่าถ้าในระยะสั้นสุนัขเกรย์ฮาวด์จะวิ่งได้เร็วกว่า แต่ในระยะทางไกลๆ สุนัขซาลูกิจะทำความเร็วได้ดีกว่า

หรือถ้าจะให้พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ สุนัขซาลูกิจะมีความอืดและอดทนกว่า สุนัขเกรย์ฮาวด์ จึงทำให้พวกมันสามารถรักษาระดับความเร็วได้อย่างคงที่ ถ้าต้องวิ่งในระยะทางไกลๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ

5. สุนัขซาลูกิ เป็นสุนัขที่มีขนยาวเพียงบางส่วนเท่านั้น

โดยปกติแล้วสุนัขซาลูกิเป็นสุนัขสายพันธุ์ขนสั้น แต่พวกมันก็จะมีขนยาวๆ ออกมาบางส่วนเหมือนกัน โดยขนที่ยาวออกมานั้นจะมีในส่วนของใบหูกับช่วงหาง

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังเลี้ยงสุนัขซาลูกิอยู่ คุณต้องหมั่นแปรงขนที่บริเวณที่มีขนยาวๆ ออกมาอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ขนยาวตรงบริเวณเหล่านั้น พันกันจนกลายเป็นสังกะตังได้

6. สุนัขซาลูกิ เป็นนักล่าตัวยง

ถึงแม้ว่านิสัยโดยปกติแล้วสุนัขซาลูกิ จะเป็นสุนัขที่รักสงบและชอบอยู่เงียบๆ เพียงตัวคนเดียว แถมยังเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยส่งเสียงเห่ารบกวนเจ้าของ

แต่เมื่อพวกมันเห็นสัตว์ป่าที่มีขนาดเล็กๆ อย่างเช่น กระต่ายป่า (hare) หรือกวาง (gazelle) สัญชาตญาณในการเป็นนักล่าของพวกมันก็จะเริ่มตื่นตัวขึ้น

สมองของสุนัขซาลูจิจะคิดในทันทีเลยว่า พวกมันจะหาทางล่าสัตว์ชนิดนั้นอย่างไรดี และด้วยทักษะเหล่านี้เอง จึงทำให้มีนายพรานหลายคนที่มักจะเลี้ยงสุนัขซาลูกิ ไว้สำหรับช่วยพวกเขาล่าสัตว์กัน