บทนำ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์มักจะเกิดจาก ความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข จนเป็นเหตุทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาได้เหมือนอย่างปกติ
โดยส่วนใหญ่แล้วอาการต่อมไทรอยด์มีปัญหาของสุนัข มักจะเกิดกับสุนัขวัยชรา หรือสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป รวมถึงสุนัขบางสายพันธุ์อย่างเช่น
- สุนัขโดเบอร์แมน พินเชอร์ (doberman pinscher)
- ไอริช เซตเทอร์ (Irish setter)
- โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (golden retriever) เป็นต้น
เมื่อต่อมไทรอยด์ของสุนัขมีความผิดปกติเกิดขึ้น จะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ขนของสุนัขจะหยาบกระด้าง
- สุนัขจะมีอาการอ่อนแรง อ่อนเพลีย
- สุนัขมีอาการขนหลุดร่วงอยู่เป็นประจำ
- สุนัขจะป่วยเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติ
- น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
- ในสุนัขบางตัวที่มีอาการหนักและรุนแรง อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของสุนัข จนทำให้สุนัขมีอาการคอเอียง และมีอาการชักขึ้นมาได้
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะทำการสอบถามถึงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขว่าอาการอะไรบ้างแล้ว สุนัขมีอาการเหล่านั้นมานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของสุนัขบ้าง
- การตรวจเลือดจะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายของสุนัขมีความผิดอะไรเกิดขึ้นมาหรือเปล่า โดยดูจากค่า T3 และ T4 ในร่างกายของสุนัข
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจผิวหนังของสุนัขอย่างละเอียด รวมถึงจะทำการตรวจสอบรากขนของสุนัข รากขนของสุนัขจะเป็นตัวที่บอกได้ว่า สุนัขกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์หรือไม่
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
การรักษาอาการผิดปกติของต่อมไทรอยด์ในสุนัขนั้น สามารถรักษาได้โดยการให้สุนัขทานฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ทดแทนอยู่เป็นประจำ
แต่จะมีมีข้อแม้อยู่ตรงที่สุนัขต้องทานยาชนิดนี้ไปตลอดชีวิต เพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายของสุนัข
โดยทางสัตวแพทย์จะเป็นคนคำนวณเองว่า ในแต่ละวันสุนัขต้องทานยาชนิดนี้ ในปริมาณเท่าไหร่ ตามอายุและน้ำหนักตัวของสุนัข
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะนัดให้คุณพาสุนัขเข้ามาพบอยู่เป็นประจำ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายของสุนัข
ในกรณีถ้าพบว่าอาการต่างๆ ของสุนัขยังไม่ดีขึ้นหลังจากที่ทางยาไป ทางสัตวแพทย์ก็จะปรับตัวยาให้มีขนาดที่อ่อนลง หรือแรงขึ้น ตามดุลพินิจของทางสัตวแพทย์ รวมถึงจะทำการหาสาเหตุอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- คุณต้องให้สุนัขของคุณทานยาให้ครบถ้วน ตามที่ทางสัตวแพทย์ได้กำหนดไว้
- ห้ามคุณไปปรับตัวยาเองโดยเด็ดขาด เพราะการให้สุนัขทานยาฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ ในจำนวนที่มาก หรือน้อยจนเกินไปนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือดของสุนัขได้
- ห้ามคุณไปซื้อยามาให้สุนัขของคุณทานเองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ สมุนไพรที่อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ แบบเกินจริง เพราะอาจจะทำให้สุนัขของคุณแพ้ตัวยาเหล่านี้ จนเสียชีวิตลงได้
- ขอให้คุณจำไว้เสมอว่า ยาที่สุนัขของคุณจะทานได้ ต้องเป็นยาที่ทางสัตวแพทย์อนุญาตให้ทานได้ แต่เพียงเท่านั้น
- สุนัขที่ป่วยเป็นโรคต่อมไทรอยด์ควรงดอาหารที่มีไขมันสูง แต่คุณไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะหลังจากที่รักษาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะแนะนำอาหารสำหรับสุนัขที่ป่วยเป็นโรคต่อมไทรอยด์ผิดปกติให้กับคุณเอง
- หน้าที่ของคุณก็คือ ให้สุนัขของคุณทานแต่อาหารที่ทางสัตวแพทย์แนะนำอยู่เป็นประจำ