กระดูกอักเสบในสุนัข (Panosteitis)

สุนัขโกลเดิน ริทรีฟเวอร์ มีโอกาสป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบได้ง่าย

บทนำ

โดยส่วนใหญ่แล้วอาการกระดูกอักเสบในสุนัข (Panosteitis) มักจะเกิดกับสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ นั้นก็เพราะว่าสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ จะมีการเจริญเติบโตทางร่างกายรวดเร็วกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกัน

จึงทำให้มีหลายครั้งที่กระดูกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ทันร่างกายของสุนัข จนส่งผลทำให้กระดูกต้องรับน้ำหนักตัวที่หนักอยู่ตลอดเวลา จนทำให้กระดูกของสุนัขเกิดการอักเสบขึ้นมาได้

โดยส่วนใหญ่แล้วกระดูกที่ได้รับกระทบเป็นอย่างแรกก็คือ กระดูกขาหน้าข้างใดข้างหนึ่งของสุนัข และเมื่อสุนัขมีอาการกระดูกอักเสบ มันจะส่งผลทำให้สุนัขรู้สึกเจ็บปวดที่ขาข้างที่กระดูกเกิดการอักเสบเป็นอย่างมาก

โดยอาการปวดเจ็บของสุนัขอาจจะกินเวลาเป็นเดือนเลย การรักษาโรคนี้ในสุนัขสามารถทำได้โดยการ ให้สุนัขทานยาแก้อักเสบ หรือให้ทานยาแก้ปวด

อาการต่างๆ เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบ Panosteitis

  • สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่ขาข้างใดข้างหนึ่งที่เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง
  • สุนัขจะมีอาการตัวร้อนเป็นไข้
  • น้ำหนักตัวของสุนัขจะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • สุนัขจะมีอาการเซื่องซึมและเบื่ออาหาร
  • สุนัขจะหลีกเลี่ยงการลุกขึ้นเดิน เพราะสุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเดิน สุนัขจึงเลือกนั่ง หรือนอนอยู่เฉยๆ ตลอดทั้งวันดีกว่า

สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ด มีโอกาสป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบได้ง่าย

สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบ (Panosteitis)

  • สุนัขมีความเครียดสะสมอยู่ในร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ความดันภายในกระดูกของสุนัขเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ
  • สุนัขป่วยเป็นโรคทางภูมิคุ้มกัน
  • สุนัขมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกระดูกของสุนัขปรับตัวไม่ทัน
  • มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับกระดูกของสุนัข
  • สุนัขตัวผู้จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขตัวเมีย
  • สุนัขสายพันธุ์ขนาดตัวใหญ่อย่างเช่น เยอรมันเชเพิร์ด (German Shepherd) ,แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ,โกลเดินริทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกัน

การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์

  • ทางสัตวแพทย์จะสอบถามที่อาการต่างๆ ของสุนัขว่า มีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจขาของสุนัขอย่างเบื้องต้นก่อน โดยจะดูว่า ลักษณะกระดูกของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง สุนัขรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณส่วนไหนของขา
  • ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเอกซเรย์ (X-Ray) ถ่ายภาพรังสีที่ขาหน้าของสุนัข เพื่อดูว่าสภาพกระดูกของสุนัขเป็นอย่างไร มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาบ้างไม สุนัขป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับข้อสะโพกอักเสบ หรือป่วยเป็นโรคข้อต่ออักเสบอยู่หรือเปล่า
  • ในกรณีที่การเอกซเรย์ (X-Ray) ครั้งแรกแล้วทางสัตวแพทย์ยังไม่เห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระดูกของสุนัข ทางสัตวแพทย์อาจจะจำเป็นต้องรอให้เวลาผ่านไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วค่อยให้สุนัขกลับเข้ามาเอกซเรย์ (X-Ray) ที่ขาใหม่อีกครั้ง เพื่อจะได้ทำการเปรียบเทียบภาพเอกซเรย์ทั้งสองภาพ ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วโครงสร้างของกระดูกสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับส่วนไหน การวินิจฉัยแบบนี้จะค่อนข้างได้ผลที่แม่นยำเป็นอย่างมาก

สุนัขแลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ มีโอกาสป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบได้ง่าย

การรักษาโรคกระดูกอักเสบ (Panosteitis) ในสุนัข

โรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการให้สุนัขทานยาแก้ปวด กับยาแก้อักเสบอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ก็จะสามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้แล้ว

แต่ในกรณีที่กระดูกของสุนัขเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง ทางสัตวแพทย์อาจจะจำเป็นต้องใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) เข้ามาช่วยในการรักษา

เมื่อรักษาจนอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทยจะแนะนำถึงวิธีดูแลสุนัขของคุณในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่

โดยทางสัตวแพทย์จะแนะนำให้สุนัขของคุณทานอาหารที่มีวิตามินซี กับกรดโอเมก้า 3 และ 6 สารอาหารเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสุนัขลงได้

รวมถึงทางสัตวแพทย์จะแนะนำวิธีออกกำลังกายของสุนัขให้กับคุณ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณป่วยเป็นโรคอ้วน

เพราะเมื่อสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคอ้วนแล้ว มักจะส่งผลทำให้กระดูกของสุนัขต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าปกติ