บทนำ
โรค anaplamosis ในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย 2 สายพันธุ์ ได้แก่
- Anaplasma phagocytophilium เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เม็ดเลือดขาวของสุนัขเกิดการติดเชื้อ
- Anaplasma platys เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เกล็ดเลือดของสุนัขเกิดการติดเชื้อ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้นั้น จะมีอยู่ 2 สาเหตุด้วยกันได้แก่
- การติดเชื้อแบบ Anaplasma phagocytophilium การติดเชื้อแบบนี้เกิดจาก การที่สุนัขถูกเห็บกวาง กับเห็บขาดำกัดเอา
- สำหรับการติดเชื้อแบบ Anaplasma platys เกิดจากการที่สุนัขถูกเห็บสีน้ำตาลกัดเอา
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขติดเชื้อ anaplamosis
อาการต่างๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบได้แก่
ถ้าสุนัขติดเชื้อ Anaplasma phagocytophilium จะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- สุนัขจะมีอาการเซื่องซึมและเบื่ออาหาร
- สุนัขจะรู้สึกปวดเจ็บตามข้อ
- สุนัขจะมีอาการตัวร้อนเป็นไข้
- สุนัขจะมีอาการไอ อาเจียน และท้องเสีย
ถ้าสุนัขติดเชื้อ Anaplasma platys จะมีอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- จะมีการติดเชื้อเกิดขึ้นกับเกล็ดเลือดของสุนัข
- จะมีรอยช้ำเกิดขึ้นตามตัวของสุนัข
- จะมีเลือดไหลออกมาตามเหงือกของสุนัข
- จะมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกของสุนัข
การวิจัยฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขว่ามีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจสอบร่างกายของสุนัขอย่างละเอียด
- ถ้าทางสัตวแพทย์ตรวจพบว่ามีเห็บอาศัยอยู่บนร่างกายของสุนัข ก็จะนำเห็บเหล่านั้นไปตรวจสอบอย่างละเอียด ด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อดูว่าเป็นเห็บชนิดไหนกันแน่น
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดของสุนัข เพื่อดูว่าค่าเกล็ดเลือดในร่างกายของสุนัขเป็นอย่างไรบ้าง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
โรคนี้สามารถรักษาให้ขาดหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะที่ชื่อว่า doxycycline โดยให้สุนัขทานยาชนิดนี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 30 วัน ก็จะสามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะมีข้อควรระวังอยู่อย่างก็คือ ห้ามคุณไปซื้อยาชนิดนี้มาให้สุนัขของคุณทานเองโดยเด็ดขาด สุนัขของคุณจะทานยาชนิดนี้ได้ ต่อเมื่อทางสัตวแพทย์อนุญาตให้ทานแต่เพียงเท่านั้น
วิธีป้องกันโรค anaplamosis ในสุนัข
สำหรับวิธีป้องกันโรค anaplamosis ในสุนัข คุณสามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยการพาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันเห็บหมัดอยู่เป็นประจำ
หรือคุณอาจจะใช้ยาหยอดกําจัดเห็บหมัดกับสุนัขของคุณในทุกๆ 3 เดือน ควบคู่กับการทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณอยู่เป็นประจำ
รวมถึงให้คุณทำความสะอาดพื้นที่ ที่สุนัขของคุณจะพักอาศัยอยู่เป็นประจำ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ที่สุนัขของคุณใช้อยู่เป็นประจำอย่างเช่น ที่นอนของสุนัข ของเล่นของสุนัข เพียงเท่านี้ก็เป็นการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ของสุนัขไปได้เยอะเลยครับ