เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำในสุนัขและภาวะขาดน้ำในสุนัข

สุนัขควรดื่มน้ำต่อวันในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดี

บทนำ

สุนัขก็เหมือนกับมนุษย์อย่างพวกเราที่ต้องการดื่มน้ำในแต่ละวัน ให้ได้ตามปริมาณที่ร่างกายของสุนัขต้องการในแต่ละวัน เพื่อให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายของสุนัขทำงานได้อย่างราบรื่น และช่วยมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายของสุนัขทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

แต่ในทางกลับกันถ้าสุนัขของคุณดื่มน้ำน้อยกว่าปกติติดต่อกันเป็นเวลานานๆ มันจะทำให้สุนัขของคุณ มีโอกาสเกิดภาวะหายน้ำในร่างกายจนทำให้สุนัขของคุณเสียชีวิตลงได้

สำหรับบทความนี้จะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการทานน้ำในสุนัขว่า ในแต่ละวันสุนัขควรดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี รวมถึงวิธีที่ช่วยให้สุนัขของคุณสามารถทานน้ำได้มากยิ่งขึ้น

และในส่วนที่ 2 เราจะมาพูดถึงภาวะขาดน้ำในสุนัข ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงต่อร่างกายของสุนัข มันจะส่งผลทำให้สุนัขของคุณเสียชีวิตลงได้ ถ้าคุณพาสุนัขของคุณไปรักษาไม่ทันการณ์

โดยทางบทความจะมาบอกว่าสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีภาวะขาดน้ำนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณเกิดภาวะขาดน้ำ

ถ้าคุณผู้อ่านคนไหนที่กำลังสนใจเรื่องเหล่านี้อยู่ก็สามารถมาตามอ่านกันต่อได้เลยครับ

ส่วนที่ 1

ในหนึ่งวันสุนัขควรดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะกำลังดี

คุณเคยจะได้ยินว่ามนุษย์อย่างพวกเรานั้นควรจะดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวันถึงจะกำลังดี แต่สำหรับในสุนัขไม่ได้คิดคำนวณเป็นจำนวนลิตรเหมือนกับมนุษย์

แต่สำหรับสุนัขนั้นพวกมันจะคิดตามน้ำหนักตัวของพวกมันคือ ทุกๆ น้ำหนักหนึ่งกิโลกรัมของสุนัขต้องกินน้ำประมาณ 25 – 50 มิลลิลิตร

ตัวอย่างเช่น ถ้าสุนัขของคุณมีน้ำหนักตัวอยู่ประมาณ 3 กิโลกรัม ในหนึ่งวันสุนัขของคุณต้องกินน้ำประมาณ 150 ซีซีต่อวัน ถึงจะเพียงพอตามที่ร่างกายของสุนัขต้องการ

แต่ในกรณีที่คุณกะปริมาณน้ำต่อวันของสุนัขไม่ถูก คุณก็สามารถโทรไปขอคำปรึกษาจากทางสัตวแพทย์ก็ได้เหมือนกัน โดยให้คุณถามทางสัตวแพทย์ไปว่า สุนัขของคุณสายพันธุ์นี้ มีอายุเท่านี้ มีน้ำหนักตัวเท่านี้ ควรจะทานน้ำในแต่ละวันในปริมาณเท่าไหร่ดีก็ได้เหมือนกัน

วิธีทำให้สุนัขอยากกินน้ำมากขึ้น

วิธีเพิ่มโอกาสให้สุนัขของคุณกินน้ำ

โดยปกติแล้วคุณควรเตรียมชามให้น้ำสำหรับสุนัขไว้หลายๆ ใบ แล้ววางชามให้น้ำสุนัขไว้หลายๆ จุดในบ้านของคุณ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้สุนัขของคุณดื่มน้ำได้มากขึ้น  

อีกทั้งคุณควรจะหมั่นทำความสะอาดชามให้น้ำของสุนัข รวมถึงเปลื่ยนน้ำในชามให้น้ำของสุนัขให้ใหม่เป็นประจำ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของสุนัข

รวมถึงในตอนที่คุณพาสุนัขของคุณไปออกกำลังกาย หรือพาไปวิ่งเล่นนอกบ้าน คุณควรจะเตรียมน้ำติดตัวไปด้วย เพราะเมื่อเวลาที่สุนัขของคุณวิ่งเล่นจนเหนื่อยแล้ว พวกมันจะรู้สึกกระหายน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าคุณเตรียมน้ำติดตัวไว้ มันจะเพิ่มโอกาสให้สุนัขของคุณกินน้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในกรณีที่สุนัขของคุณไม่ชอบทานน้ำเลย หรือกินน้ำได้น้อยมากในแต่ละวัน ให้คุณลองเอาน้ำแข็งใส่ลงไปในน้ำที่คุณจะให้สุนัขดื่มดู วิธีนี้จะช่วยให้น้ำในสายตาของสุนัขดูน่าดื่มมากยิ่งขึ้น

ส่วนที่ 2

ในส่วนนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณเกิดภาวะขาดน้ำ รวมถึงอาการและวิธีป้องกันภาวะขาดน้ำในสุนัขอย่างเบื้องต้น

สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นภาวะขาดน้ำ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขเกิดภาวะขาดน้ำ

  • สุนัขไม่ได้ทานน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
  • สุนัขตากแดดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
  • สุนัขที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง สุนัขวัยชรา และสุนัขที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ จะมีโอกาสเป็นภาวะขาดน้ำได้สูงเป็นอย่างมาก
  • สุนัขท้องเสียติดต่อวันเป็นเวลานานๆ

อาการของภาวะขาดน้ำในสุนัข

  • สุนัขมีอาการอ่อนเพลีย อ่อนแรง
  • สุนัขมีอาการตาลอยๆ ตาโหล และปากแห้ง
  • ผิวหนังของสุนัขขาดความยืดหยุ่น
  • เหงือกซีด เหงือกของสุนัขมีสีที่เปลื่ยนไปไม่ใช่สีชมพูอ่อนเหมือนอย่างปกติ
  • ในกรณีที่เป็นหนักๆ สุนัขของคุณจะมีอาการช็อกหมดสติและเสียชีวิตลงได้

ถ้าคุณพบว่าสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ ให้คุณควรพาสุนัขของคุณเข้าพบกับทางสัตวแพทย์โดยทันที

วิธีป้องกันอาการท้องเสียในสุนัข

ถ้าคุณปล่อยให้สุนัขของคุณมีอาการท้องเสียติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้สุนัขของคุณเป็นภาวะขาดน้ำขึ้นมาได้เหมือนกัน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้สุนัขของคุณเกิดอาการท้องเสียนั้น ก็มีได้หลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการติดเชื้อไวรัสจากแบคทีเรีย ติดเชื้อปรสิต รวมถึงโรคพาร์โวไวรัส

สาเหตุเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะทำให้สุนัขของคุณมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงขึ้นมา จนทำให้สุนัขของคุณมีภาวะขาดน้ำขึ้นมาได้ สำหรับวิธีป้องกันอาการท้องเสียในสุนัขคุณสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • พาสุนัขของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพาร์โวไวรัส รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคเชื้อแบคทีเรียต่างๆ
  • ห้ามไม่ให้สุนัขของคุณทานอาหารที่เน่าเสีย หรืออาหารที่ค้างมื้อ รวมถึงพวกเศษอาหารที่อยู่ภายในถังขยะโดยเด็ดขาด