เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันที่ลำคอของสุนัข

เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันที่ลำคอของสุนัข

บทนำ

โดยปกติแล้วสุนัขแทบทุกตัว มักจะมีนิสัยชอบกินสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าของพวกมันจึงทำให้มีหลายครั้งที่สุนัขมักจะเผลอไปกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายของพวกมันได้

ถ้าสิ่งของที่สุนัขกินเข้าไปเป็นสิ่งของขนาดเล็ก ก็จะสามารถผ่านหลอดอาหารของสุนัขได้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรนักมาก แต่ในทางกลับกันถ้าสิ่งของที่สุนัขกินเข้าไปนั้น มีขนาดที่ใหญ่โตเกินกว่าที่จะผ่านหลอดอาหารของสุนัขได้

มันจะทำให้หลอดอาหารของสุนัขเกิดการอุดตันขึ้นมาได้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดกับสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กอย่างเช่น

  • พุดเดิ้ล
  • ปอมเมอเรเนียน
  • ชิวาว่า

และเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันที่หลอดอาหารของสุนัข มันจะส่งผลทำให้เนื้อเยื่อตรงบริเวณส่วนลำคอของสุนัข เกิดการอักเสบบวมโตขึ้นมาได้

และในท้ายที่สุดมันจะส่งผลทำให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ลำคอของสุนัข เกิดการตายขึ้นมาได้

อาการต่างๆ เมื่อสุนัขมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันที่ลำคอ

  • สุนัขจะมีอาการซึมไม่ค่อยมีแรง และมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย
  • สุนัขจะมีอาการน้ำลายไหลออกจากปากมากกว่าปกติ
  • สุนัขจะรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ตลอดเวลา และจะมีอาการหายใจลำบากร่วมด้วย
  • สุนัขจะมีอาการไอเหมือนมีอะไรติดคออยู่เป็นประจำ
  • เวลาที่สุนัขทานอาหารสุนัขจะมีปัญหาในการกลืนอาหาร

สาเหตุ

สุนัขเผลอไปเผลอสิ่งแปลกปลอมบางอย่าง ที่มีขนาดใหญ่โตกว่าหลอดคอของสุนัข จนทำให้สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นเข้าไปอุดตันที่หลอดอาหารของสุนัข

อาการต่างๆ เมื่อสุนัขมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันที่ลำคอ

การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์

  • ทางสัตวแพทย์จะสอบถามอาการต่างๆ ของสุนัขอย่างเบื้องต้นว่า มีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง สุนัขของคุณมีนิสัยชอบสิ่งของที่ตกอยู่ตามพื้นหรือไม่
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการเอกซเรย์ (X-Ray) ที่บริเวณช่วงอก กับหลอดอาหารของสุนัข เพื่อดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปอุดตันอยู่ภายในช่องอก กับหลอดอาหารของสุนัขอยู่หรือไม่
  • และเพื่อให้ขั้นตอนการวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทางสัตวแพทย์จะทำการส่องกล้อง เข้าไปที่หลอดอาหารของสุนัขเพื่อดูว่าภายในหลอดอาหารของสุนัข มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมาหรือเปล่า มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปอุดตันอยู่หรือไม่
  • การส่องกล้องจะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า สิ่งอุดตันเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งไหนกันแน่น
  • ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะของสุนัข เพื่อดูว่าภายในร่างกายของสุนัข มีความผิดปกติอะไรร่วมด้วยหรือไม่

การรักษาจากทางสัตวแพทย์

  • เมื่อทางสัตวแพทย์รู้แล้วว่าสิ่งอุดตันเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งไหนของร่ายกายของสุนัข ก็จะทำการนำสิ่งอุดตันเหล่านั้นออกมาจากร่างกายของสุนัข
  • แต่ในกรณีที่ตรวจพบว่าสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น อยู่ในตำแหน่งที่ลึกมากจนไม่สามารถใช้คีมคีบเอาสิ่งแปลกปลอมชิ้นนั้นออกมาได้ ทางสัตวแพทย์จะใช้วิธีการเอากล้องส่องเข้าไปแล้ว คีบสิ่งแปลกปลอมชิ้นนั้นออกมาแทน
  • ในกรณีที่ตรวจพบว่าสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปอุดตันนั้น มีขนาดที่ใหญ่โตมากและเนื้อเยื่อในหลอดอาหารของสุนัขได้ถูกทำลายไปมากแล้ว ทางสัตวแพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกจากทางร่างกายของสุนัข
  • หลังจากที่ทางสัตวแพทย์เอาสิ่งแปลกปลอมออกมาจากร่างกายของสุนัขได้แล้ว ทางสัตวแพทย์จะให้ยาแก้อักเสบรวมถึงยาลดอาการเจ็บปวดให้กับสุนัขทาน เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา
  • หลังจากเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา และอาการต่างๆ ของสุนัขเริ่มดีขึ้นมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะแนะนำเมนูอาหารให้สุนัขทานในระหว่างที่กำลังพักฟื้นตัวอยู่
  • โดยเมนูที่ทางสัตวแพทย์แนะนำนั้น จะเป็นเมนูอาหารที่เป็นมิตรต่อหลอดอาหารของสุนัข เป็นอาหารที่นุ่มเคี้ยวได้ง่าย และย่อยได้ง่าย ถ้าสุนัขทานอาหารเหล่านี้อยู่เป็นประจำ มันจะทำให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น

วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกินสิ่งของแปลกๆ

วิธีดูแลสุนัขในช่วงพักฟื้นร่างกาย

  • เมื่อเสร็จขั้นตอนการรักษา ทางสัตวแพทย์จะนัดให้คุณพาสุนัขกลับเข้ามาพบอยู่ประมาณ 3 – 4 ครั้ง เพื่อดูว่าหลังจากที่รักษาไปแล้ว อาการต่างๆ ของสุนัขดีขึ้นแล้วหรือยัง
  • ในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นร่างกายอยู่ ถ้าสุนัขของคุณยังมีอาการผิดปกติอยู่ ให้คุณรีบพาสุนัขของคุณกลับเข้าพบกับทางสัตวแพทย์โดยทันที เพราะอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนหลังจากการรักษาได้เหมือนกัน
  • ในกรณีที่หลอดอาหารของสุนัขได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง หลังจากการผ่าตัดสุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดที่หลอดอาหารเป็นอย่างมาก คุณจึงต้องให้สุนัขทานยาแก้ปวดที่ทางสัตวแพทย์ให้มาอยู่เป็นประจำ รวมถึงตัวยาชนิดอื่นๆ ที่ทางสัตวแพทย์ให้มา เพื่อจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัข
  • ในช่วงที่สุนัขกำลังพักฟื้นตัวอยู่นั้น คุณควรหาสถานที่ให้สุนัขของคุณได้รับการพักผ่อนที่ดี โดยสถานที่ที่คุณจัดเตรียมต้องเป็นพื้นที่โล่งๆ มีอากาศถ่ายเทสะดวก และต้องเป็นพื้นที่ที่เงียบๆ ปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจากภายในบ้านและก็นอกบ้าน สถานที่แบบนี้จะช่วยให้สุนัขของคุณหลับสนิท ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ร่างกายของสุนัขฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกินสิ่งของแปลกปลอมเข้าไปสู่ร่างกาย

  • สำหรับวิธีป้องกันนั้นคุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยให้คุณคอยหมั่นทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณให้สะอาดอยู่เสมอ และให้คุณเก็บสิ่งของต่างๆ ที่มีขนาดเล็กๆ ที่ตกอยู่ตามพื้นเก็บขึ้นมาให้พ้นมือของสุนัข
  • ในกรณีที่บ้านของคุณมีลูกตัวเล็กๆ อยู่ให้คุณเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลูกของคุณใช้อยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็น ยางรัดผม กางเกงใน หรือถุงเท้าของเด็ก เพราะสิ่งเหล่านี้สุนัขมักจะชอบเผลอไปกัดเล่นและกลืนลงท้องอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันจะมีโอกาสสูงที่สิ่งเหล่านี้อาจะเข้าไปติดอยู่ในลำคอของสุนัขได้
  • พยายามอย่าปล่อยให้สุนัขของคุณออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านอยู่ตามลําพัง เพราะจะมีโอกาสสูงที่สุนัขของคุณอาจจะเผลอไปกินสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่อยู่นอกบ้านไม่ว่าจะเป็น แท่งไม้ หิน เศษกระดูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเข้าไปติดอยู่ที่ลำคอของสุนัขได้