บทนำ
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังที่บริเวณจมูกนั้น สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา
สำหรับโรคผิวหนังบนจมูกของสุนัขนั้น สามารถเกิดได้กับทุกพื้นที่บนจมูกของสุนัขเลย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วโรคผิวหนังชนิดนี้ มักจะเกิดขึ้นตรงบริเวณส่วนที่มีขนตรงจมูกของสุนัข
โรคบางอย่างที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังที่จมูก
รวมถึงโรคบางอย่างก็ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้ได้เหมือนกันอย่างเช่น โรคลูปัส เป็นต้น โดยโรคลูปัสจะทำให้ผิวหนังที่จมูกของสุนัขมีสีที่เปลื่ยนไปจากปกติ แถมยังทำให้จมูกของสุนัขมีบาดแผลเกิดขึ้นมาได้อีกด้วย
และก็มีอีกโรคหนึ่งที่ทำให้จมูกของสุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังได้นั้นก็คือ โรค solar dermatitis โดยโรคดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อสุนัขได้รับแสงแดดที่แรงจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน
โดยโรคนี้จะทำให้ผิวหนังตรงบริเวณส่วนจมูกของสุนัขเกิดการอักเสบขึ้นมาอย่างรุนแรง จนมีบาดแผลเกิดขึ้นที่จมูกของสุนัข
สุนัขสายพันธุ์ไหนมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้สูงมาก
- ไซบีเรียนฮัสกี (Siberian Husky )
- เยอรมันเชเพิร์ด (German Shepherd)
- อลาสกัน มาลามิวท์ (alaskan malamute)
สุนัขสายพันธุ์เหล่านี้จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนังที่จมูกได้ง่ายกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยกัน
รวมถึงลูกสุนัขที่ยังไม่โตเต็มวัย(มีอายุไม่ถึง 1 ปี) กับสุนัขวัยชรา (มีอายุตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป) จะมีความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่ายกว่าสุนัขที่โตเต็มวัยแล้ว
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังที่ตรงจมูก
- ขนตรงจมูกของสุนัขจะร่วงลง
- มีบาดแผล รวมถึงมีตุ่มแดงๆ เกิดขึ้นบนจมูกของสุนัข
- มีน้ำหนองไหลออกมาจากจมูกของสุนัขตรงบริเวณที่มีโรคผิวหนังเกิดขึ้น
- จมูกของสุนัขจะเปลื่ยนจากสีปกติกลายเป็นสีแดงเข้ม
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคผิวหนังที่จมูก
- สุนัขแพ้น้ำลายของเห็บและหมัด
- สุนัขติดเชื้อราที่บริเวณจมูก
- สุนัขป่วยเป็นโรค Solar dermatitis
- สุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก
- ผลข้างเคียงของตัวยาบางชนิด
- สุนัขป่วยเป็นโรคความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน
- ผิวหนังบริเวณจมูกของสุนัขเกิดการแตกจนเป็นสะเก็ด
- สุนัขได้รับการกระทบกระเทือนที่จมูกอย่างรุนแรง
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงอาการต่างๆ ของสุนัขว่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างผิวหนังบางส่วนตรงจมูกของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องปฏิบัติ
- การตรวจสอบในห้องปฏิบัติการนั้น จะทำให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า จมูกของสุนัขติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียชนิดไหนกันแน่น สุนัขป่วยเป็นโรคระบบภูมิคุ้มกันหรือไม่
- และเพื่อให้ขั้นตอนการวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเอกซเรย์ (X-Ray) ไปที่จมูกของสุนัข เพื่อดูว่าภายในจมูกของสุนัขมีเนื้องอก หรือเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นมาหรือเปล่า
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
ทางสัตวแพทย์จะรักษาไปตามอาการ รวมถึงสาเหตุที่ตรวจพบเจออย่างเช่น
- ถ้าพบว่าสุนัขป่วยเป็นโรค solar dermatitis ทางสัตวแพทย์จะให้ยาทาที่มีส่วนผสมของ cortisone มาให้สุนัขของคุณทา ยาตัวนี้จะค่อยๆ ลดอาการอักเสบที่จมูกของสุนัขลงได้
- อีกทั้งทางสัตวแพทย์จะแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณต้องตากแดดเป็นเวลานานๆ แต่ในกรณีที่สุนัขของคุณจำเป็นต้องตากแดด คุณต้องทาครีมกันแดดให้กับสุนัขของคุณก่อนทุกครั้งที่จะเจอกับแสงแดด
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขมีน้ำหนองไหลออกมาจากจมูก ก็จะใช้ยา cortisone หรือ prednisone กับสุนัข โดยตัวยาทั้งสองประเภทนี้จะช่วยลดอาการน้ำหนองไหลออกจากจมูกของสุนัขได้
- แต่ตัวยาทั้งสองประเภทนี้ จัดว่าเป็นตัวยาที่มีผลกระทบรุนแรงต่อร่างกายของสุนัขเป็นอย่างมาก ทางสัตวแพทย์จึงต้องระมัดระวังในการใช้ยากลุ่มนี้กับสุนัขเป็นอย่างมาก
- ในกรณีที่ตรวจพบว่าสุนัขแพ้กับสิ่งของบางสิ่ง จนทำให้เกิดเป็นโรคผิวหนังขึ้นมา ทางสัตวแพทย์จะทำการหาต่อไปว่า สิ่งของสิ่งไหนที่ทำให้สุนัขเกิดการแพ้เกิดขึ้น และทางสัตวแพทย์ก็จะแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยง ไม่ให้สุนัขต้องสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้น
- ถ้าตรวจพบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นภายในจมูกของสุนัข ก็จะทำการผ่าตัดเอาเนื้องอกก้อนนั้นออกมาจากจมูกของสุนัข รวมถึงจะทำการนัดให้สุนัขกลับเข้ามา เคมีบำบัด กับการฉายแสงอยู่เป็นประจำ เพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น