บทนำ
โรคมะเร็งในโพรงจมูกของสุนัขคืออะไร
ในระบบทางเดินหายใจส่วนต้นของสุนัขจะมีส่วนสำคัญอยู่สองส่วนด้วยกันได้แก่ จมูก กับ โพรงอากาศรอบโพรงจมูก ซึ่งหน้าที่ของโพรงอากาศรอบโพรงจมูก จะช่วยสูดอากาศที่อยู่บริเวณนั้นเข้าสู่จมูกของสุนัข
ในโพรงอากาศจมูกของสุนัขจะมีเนื้อเยื่ออยู่ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า squamous epithelium ซึ่งเซลล์มะเร็ง หรือเนื้องอกจะสามารถเกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อชนิดนี้ได้ โดยทางการแพทย์จะเรียกเซลล์มะเร็งชนิดนี้ว่า “Squamous cell carcinoma” เป็นเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นภายในโพรงอากาศจมูกของสุนัข
เซลล์มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma นั้น เป็นเซลล์มะเร็งที่มีการเจริญเติบโตได้ช้ากว่าเซลล์มะเร็งชนิดอื่นเป็นอย่างมาก เซลล์มะเร็งชนิดต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ถึงจะแพร่กระจายตัวไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายสุนัข
ส่วนใหญ่มะเร็งชนิดนี้มักจะเกิดกับสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่เซลล์มะเร็งชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป แต่ก็ค่อนข้างจะเกิดได้น้อยเป็นอย่างมาก
อาการต่างๆ เมื่อสุนัขป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูก Squamous cell carcinoma
- สุนัขจะมีน้ำมูกไหลติดต่อกันตลอดทั้งวัน
- จะมีเลือดไหลออกมาจากจมูกของสุนัขอยู่เป็นประจำ
- สุนัขจะมีอาการจาม และมีน้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
- สุนัขจะมีอาการเบื่ออาหาร
- จะมีกลิ่นเหม็นๆ ออกมาจากลมหายใจของสุนัข
- รูปทรงจมูกของสุนัขจะเปลื่ยนแปลงไปจากปกติ
- สุนัขจะมีอาการชัก
สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคนี้
ทางการแพทย์ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นชัดว่า สาเหตุที่ทำให้สุนัขป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่น แต่โดยส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเจอ มะเร็งชนิดนี้มักจะเกิดกับสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
การวินิจฉัยจากทางสัตวแพทย์
- ทางสัตวแพทย์จะสอบถามถึงประวัติสุขภาพของสุนัขว่า สุนัขเคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหรือเปล่า สุนัขมีอาการอะไรบ้าง สุนัขมีอาการเหล่านี้มานานแล้วหรือยัง
- ต่อจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือดกับตรวจปัสสาวะให้กับสุนัข เพื่อดูว่าร่างกายของสุนัขมีการติดเชื้ออะไรขึ้นมาหรือเปล่า
- ต่อมาทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บสารคัดหลั่ง กับเนื้อเยื่อบางส่วนในจมูกของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ห้องปฏิบัติอีกทีหนึ่ง
- เสร็จแล้วทางสัตวแพทย์จะทำการ เอ็กซ์เรย์ (x-ray) ไปที่ส่วนหัว และช่องอกของสุนัข เพื่อดูว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นตรงบริเวณเหล่านี้หรือไม่ ถ้าพบเนื้องอกก็จะดูต่อว่าก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่โตเท่านั้น เนื้องอกได้แพร่กระจายตัวไปยังปอด และกระดูกของสุนัขแล้วหรือยัง
- หลังจากนั้นทางสัตวแพทย์จะทำการตรวจด้วย computed tomography (CT) กับ magnetic resonance (MRI) scan วิธีนี้จะช่วยให้ทางสัตวแพทย์ทราบได้ว่า เนื้องอกที่เกิดขึ้นมานั้น มีความรุนแรงอยู่ในระดับไหน เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ได้ทำการประเมินขั้นตอนการรักษา ในขั้นตอนต่อๆ ไป
- ในกรณีที่ตรวจพบเนื้องอก ทางสัตวแพทย์จะทำการเก็บชิ้นเนื้อบางส่วนเพื่อนำไปตรวจสอบว่า ก้อนเนื้องอกชิันนั้นเป็นเซลล์มะเร็งชนิดไหนกันแน่น
- รวมถึงทางสัตวแพทย์จะเก็บตัวอย่างบางส่วนจากต่อมน้ำเหลืองของสุนัข เพื่อนำไปตรวจสอบดูว่าเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายตัว ไปยังส่วนไหนหรืออวัยวะใดๆ ในร่างกายของสุนัขบ้าง
การรักษาจากทางสัตวแพทย์
โดยส่วนใหญ่วิธีรักษาโรคมะเร็งในโพรงจมูกของสุนัข (Squamous cell carcinoma) มักจะนิยมใช้วิธีการผ่าตัดเอาโพรงอากาศที่มีเนื้องอกเกิดขึ้นออกไปจากโพรงจมูกของสุนัข
และหลังจากผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกในโพรงจมูกของสุนัขออกมาแล้ว ทางสัตวแพทย์จะนัดให้คุณพาสุนัขของคุณกลับเข้ามาพบอยู่เป็นประจำ เพื่อที่จะได้ทำการฉายรังสี กับการเคมีบำบัด
การฉายรังสี กับการเคมีบำบัด จะช่วยลดการแพร่กระจายตัวของเซลล์มะเร็งลง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสุนัขอีกด้วย
วิธีดูแลสุนัขในระหว่างพักฟื้นร่างกาย
- สุนัขที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้ หลังจากได้รับการผ่าตัดเสร็จ จะมีอาการจมูกอักเสบ กับการเป็นเชื้อราที่จมูกได้ง่ายเป็นอย่างมาก รวมถึงจะมีอาการน้ำมูกไหลอยู่ประจำ
- โดยทางสัตวแพทย์จะแนะนำถึงวิธีการดูแลอาการเหล่านี้ของสุนัขให้กับคุณเอง ถ้าคุณทำตามคำแนะนำของทางโดยสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด สุนัขของคุณก็จะฟื้นตัวได้เร็วมากยิ่งขึ้น
- เซลล์มะเร็งชนิดนี้สามารถกลับมาเป็นได้อีก ดังนั้นคุณควรพาสุนัขของคุณไปตรวจสุขภาพกับทางสัตวแพทย์อยู่เป็นประจำ เผื่อตรวจพบว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นในโพรงจมูกของสุนัขอีก ทางสัตวแพทย์จะได้ทำการรักษาในทันที